“จำเพื่อนของน้องไวน์ที่ชื่อเอื้อง คนที่ออกอาการปลื้มพี่จนออกนอกหน้า ได้ไหม?”
“ค่ะ” วรันยาพยักหน้าเบาๆ ไม่เข้าใจว่าสามีกำลังจะสื่อถึงอะไร
“อย่างเอื้องน่ะเขาเรียกว่า แซวเล่นๆ ไม่คิดอะไร จบตรงนั้นคือจบ แต่ถ้าเป็นมีนา คือพยายามหาโอกาสอ่อยเพื่อจะขยับความสัมพันธ์” คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ขยายภาพ
“...” วรันยาได้ฟังก็ถึงกับอึ้งในคำพูดของสามีที่ค่อนข้างจะแรงและตรง
“ครั้งหน้าถ้าเขามาชวนทำอะไรก็หัดปฏิเสธบ้างนะ เพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องมาหากันทุกวันหรอก นี่เล่นมาบ่อยซะจนแทบจะสิงร่างของเมียพี่อยู่แล้ว” ภาคินมองค้อนเมียรักที่เอาแต่นิ่งเงียบ
“บ้า” วรันยาหัวเราะเบาๆ อย่างรู้สึกขำกับคำเปรียบเปรย
“ที่พี่พูดเนี่ยไม่ใช่ไม่ต้อนรับเพื่อนของน้องไวน์นะครับ พี่ยินดีต้อนรับทุกคนเลย แต่น้องไวน์ต้องมองคนให้ออกว่าใครเข้าหาเราด้วยเจตนาอะไร” ภาคินรีบออกตัวเพราะกลัวสาวเจ้าเข้าใจความหมายของตนผิด
“ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับ จริงๆ เธอเองก็รู้สึกอึดอัดกับสายตาของเพื่อนที่จ้องมองชายที่ได้ชื่อว่าสามี แต่ก็ไม่รู้จะพูดหรือออกตัวยังไงให้ดูไม่น่าเกลียด โชคดีที่พ่อจอมทะลึ่งของเธอไม่เล่นด้วย ไม่งั้นป่านนี้เธออาจจะสติแตกไปแล้ว แค่เรื่องของลัมภาก็ทำให้เครียดจนนอนไม่หลับมาหลายคืน คิดแล้วคิดอีกว่าจะหาทางออกยังไง ถ้าหากลูกในท้องของอีกฝ่ายเป็นลูกของภาคินจริง กระทั่งได้คุยกับสิงขรเมื่อสองวันก่อน และอีกฝ่ายยืนยันเสียงหนักแน่นว่าภาคินได้เลิกกับลัมภาไปแล้วจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอมั่นใจ เท่ากับการที่นารีมาแอบกระซิบบอกเรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ของลัมภากับเสี่ยวินัย รวมไปถึงแผนการต่างๆ ที่เตรียมจะเปิดโปงอีกฝ่าย เธอถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เพราะแม้จะปากแข็งขนาดไหน แต่เธอก็รักภาคินมากจนคิดไม่ออกว่าหากต้องแยกทางกันจริงๆ เธอจะใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปยังไง เพราะทุกๆ ก้าวของชีวิตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายหรือสุข เธอก็มีเขาอยู่เคียงข้างเสมอ
สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เวลา 18:40 น.
“ขอบคุณคุณภาคินและคุณไวน์มากๆ นะคะ ที่เทคแคร์นันกับทีมงานเป็นอย่างดี” นันทกรณ์ยกมือไหว้เจ้าของไร่และภรรยาคนสวยที่เดินทางมาส่งขึ้นเครื่อง
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณครับ” ทีมงานชายสองคนยกมือไหว้ตาม
“ยินดีครับ” ภาคินรับไหว้อย่างรู้สึกเขินๆ
“ยินดีค่ะ โอกาสหน้าแวะมาเที่ยวอีกนะคะ” วรันยาไหว้ตอบทุกคนด้วยท่าทีนอบน้อม
“มาอีกแน่นอนค่ะ” นันทกรณ์บอกอย่างรู้สึกประทับใจ
“ด้วยความเต็มใจครับ” ภาคินส่งยิ้มไปให้อีกฝ่าย
“เดินทางปลอดภัยนะคะ” วรันยาบอก
“ค่ะ / ครับ” นันทกรณ์กับทีมงานก้มหัวลงนิดๆ ก่อนจะพากันเดินเข้าไปด้านในสนามบิน
“โชคดีครับ” ภาคินโบกมือให้กับทั้งสาม
“อืม...แล้วเราจะไปไหนกันต่อดีคะ” วรันยาถามยิ้มๆ
“ไปนั่งฟังเพลงที่ร้านฮาร์เปอร์สักสองชั่วโมงแล้วค่อยกลับโรงแรม ไหมครับ?” ภาคินเสนอเพราะไม่ได้เจอเพื่อนรักมานาน
“ค่ะ! แต่วันนี้ไวน์ไม่ดื่มนะคะ” วรันยารีบออกตัว
“ครับ” ภาคินยิ้มรับ ก่อนจะควงแขนภรรยาเดินตรงไปยังที่จอดรถอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางสายตาของผู้รอบๆ ที่หันมามองกันอย่างสนใจ เมื่อเห็นคนดังในข่าวหลายวันก่อนปรากฏตัว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...ร้าน Harper (ฮาร์เปอร์)
“สวัสดีครับน้องไวน์” ขุนพันลุกขึ้นยืนเอ่ยทักทายภรรยาสาวคนสวยของเพื่อนรักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะพี่ขุน” วรันยายกมือไหว้อย่างรู้สึกเขินนิดๆ หลังเห็นสาวๆ ที่มานั่งดื่มในร้านหันมองตามเจ้าของร้านสุดหล่อกันเป็นแถว
“เชิญด้านในครับ” ขุนพันยื่นแขนไปให้จับ แต่ดันถูกเพื่อนรักผลักออก
“เมียกู กูดูแลเอง” ภาคินถลึงตาใส่ตัวป่วนของกลุ่ม
“กูเทคแคร์ในฐานะเจ้าของร้าน” ขุนพันรีบออกตัว
“อืม! เดี๋ยวถ้ากูเมาแล้วเผลอไปเตะเจ้าร้าน มึงก็อย่าถือสาล่ะ” ภาคินบอกพร้อมกับโอบเอวเมียเข้าไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี
“โหดสัต!” ขุนพันต่อว่าอย่างขำๆ
“ไอ้ทัพกับไอ้จอมล่ะไม่มาเหรอ?” ภาคินกวาดตามองหาเพื่อนรักที่ปกติมักจะมาสิงอยู่ที่ร้านแทบทุกคืน
“ติดธุระมั้ง” ขุนพันบอกด้วยสีหน้าเซ็งๆ นึกว่าคืนนี้จะได้นั่งจิบบรั่นดีฟังเพลงคนเดียวเศร้าๆ เพราะแม่ทัพกับจอมพลไม่ว่าง โชคดีที่ภาคินโทร. มาบอกว่าจะแวะเข้ามาหา ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าอีกฝ่ายทะเลาะหรือว่างอนกับภรรยาแล้วหนีมาปรับทุกข์ แต่ที่ไหนได้กลับเดินเข้าร้านมาด้วยกัน แถมเพื่อนรักยังฉีกยิ้มซะจน...หน้าบานเท่ากับจานดาวเทียม
“ไม่น่าเชื่อ” ภาคินส่ายหน้ายิ้มๆ
“นั่นสิ กูก็ยังงงๆ อยู่” ขุนพันตอบก่อนจะส่งเมนูอาหารให้กับภรรยาคนสวยของเพื่อน “เมนูครับน้องไวน์”
“ขอบคุณค่ะ” วรันยารับเมนูมาเปิดดูพร้อมกับอมยิ้มบางๆ กับชื่อเมนูที่ บ่งบอกว่าเจ้าของร้านคลั่งหนังเรื่องอเวนเจอร์ขนาดไหน มีทั้ง ยำรวมแร็กนาร็อก, ต้มแซบเอ็นธอร์, ออเดิร์ฟแอสการ์ด, กัปตันเมกาแอบกิ๊กไอรอนแมน, มนต์ดำของดอกเตอร์สเตรนจ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
“พี่แนะนำออเดิร์ฟแอสการ์ดกับยำแร็กนาร็อกครับ” ขุนพันแนะนำเมนู ที่ตนเองโปรดปราน
“ได้ค่ะ” วรันยายิ้มรับก่อนจะส่งเมนูให้กับพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ถามจริง” ภาคินมองหน้าเพื่อนรักด้วยสายตาค้นหา
“อะไร?” ขุนพันถามอย่างมึนงง
“มึงจะให้กูกับเมียกลับไปเปลี่ยนชุดซุปเปอร์ฮีโร่ในจักวาลมาเวลล์มาก่อนไหม?” ภาคินกวนตี- เอ๊ย! กวนเล่นอย่างขำๆ
[น้องไวน์อยู่ไหน!] กังศมาเอ่ยถามด้วยสีหน้าตึงๆ
[อยู่ข้างๆ ผมนี่แหละครับ] ภาคินบอกก่อนจะหันกล้องไปทางภรรยา
[สวัสดีค่ะคุณมาร์ เที่ยวสนุกไหมคะ] วรันยายกมือไหว้และส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่อย่างรู้สึกเขินนิดๆ ที่อยู่บนเตียงกับจอมหื่น
[สนุกจ้ะ ช่วยเล่าเรื่องแม่นางงามนั่นให้ยายฟังหน่อยสิ] กังศมาถามเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้า
[โธ่! ยายครับ ผมเลิกกับลัมภามาเป็นปีแล้ว และผมก็นอนที่ไร่กับยายทุกคืน กินข้าวด้วยกันทุกวันไม่ใช่เหรอครับ] ภาคินถอนหายใจอย่างเพลียๆ
[มันก็ใช่!] กังศมาพยักหน้ารับ แต่กระนั้นก็ยังไม่หายแคลงใจ
[งั้นผมก็รบกวนยายบอกอาสิน กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับว่าผมกับน้องไวน์เราเข้าใจกันดี เคลียร์กันหมดทุกอย่างแล้ว] ภาคินรีบบอกเพราะกลัวว่าหลังจากที่วางสายของผู้เป็นยายเสร็จ มารดาจะต้องโทร. เข้ามาถามไถ่อีกครั้ง ซึ่งนั่นก็แปลว่า...เขาจะต้องตอบคำถาม ในเรื่องที่ไม่อยากจะเอ่ยถึง ซ้ำอีกครั้ง
[จริงใช่ไหมน้องไวน์?] กังศมาเปลี่ยนไปถามคนนั่งเงียบอยู่ข้างๆ
[ค่ะ คุณมาร์เที่ยวให้สนุกนะคะ ไม่ต้องห่วงไร่กับรีสอร์ต ไวน์กับพี่คินจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ] วรันยารีบฉีกยิ้มหวานโชว์ให้ผู้ใหญ่สบายใจ
[จ้ะ ยายคิดถึงน้องไวน์นะลูก] กังศมายิ้มตอบอย่างโล่งใจ เพราะเพิ่งจะทราบเรื่องราวต่างๆ เมื่อครู่ จึงรีบขอตัวแยกเข้าห้องนอนมากดโทร. หา อย่างใจคอไม่ดีกลัวหนุ่มสาวจะทะเลาะกัน
[ไวน์ก็คิดถึงคุณมาร์ค่ะ] วรันยาบอกเสียงอ้อน
[แหม...ภาคินก็นั่งอยู่ตรงนี้นะครับทุกคน] ภาคินมองค้อนเมียรักกับ ผู้เป็นยายอย่างรู้สึกหมั่นไส้
[คิกๆๆ / คิกๆๆ] กังศมากับวรันยาหัวเราะขึ้นพร้อมกันกับท่าทีของ คนขี้น้อยใจ
[งั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวยายจะออกไปบอกทุกคนเอง] กังศมาโบกมือให้ หนุ่มสาวยิ้มๆ ก่อนจะวางสายไป
ภาคินหยิบมือถือขึ้นวางที่โต๊ะหัวเตียงเสร็จก็รีบขึ้นคร่อมบนตัวของภรรยา พร้อมกับดึงชุดนอนสุดแสนจะเซ็กซี่ออก แล้วก้มลงซุกไซ้ที่ซอกคอระหงอย่างเต็มไปด้วยความต้องการ
“อ๊ะ! พี่คิน” วรันยาผลักสามีจอมหื่นออก แต่ก็ไม่เป็นผล
“อื้อ...อย่าขัดใจพี่สิ” ภาคินเตือนก่อนจะก้มลงดูดกลืนปลายสีแดงสดอย่างหิวกระหาย
“พี่คิน...” คนที่ถูกปลุกเร้าอารมณ์ครางเสียงสั่น
“จ๋า...” ภาคินไล้ริมฝีปากเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องที่แบนเรียบช้าๆ กระทั่งถึงเนินเนื้ออันอวบอูมที่ทำให้เขาคลั่งแล้วคลั่งอีก อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)