ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 78

“คุณกรมาทานมื้อเที่ยงที่นี่เป็นประจำอยู่แล้วค่ะคุณมีน” นารีบอกพร้อมกับพยายามข่มใจให้เย็น รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายจงใจจะให้ลูกค้าในร้านคิดว่าวรันยากับ ประกรณ์แอบกิ๊กกัน

“แหม...มีนแค่ล้อเล่นเท่านั้นค่ะ”

“คุณนาครับ ช่วยแนะนำขนมเค้กให้ผมสักชิ้นสิครับ”

“เชิญทางนี้เลยค่ะคุณกร”

“ไวน์! เรามีเรื่องจะคุยด้วย” มีนารีบบอกเข้าเรื่องสำคัญที่นอนคิดมาทั้งคืนว่ายังไงวันนี้ก็จะต้องคุยกับเพื่อนสาวให้ได้

“เอ่อ...เราออกไปนั่งคุยกันที่ด้านนอกกันไหม จะได้เป็นส่วนตัวหน่อย”วรันยาเอ่ยชวน เพราะตอนนี้ลูกค้าทุกคนกำลังมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียว

“โอเค” มีนาบอกพร้อมกับออกเดินนำไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

วรันยาเดินตามเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านนอกกับเพื่อนสาว แล้วเอ่ยถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย “มีนมีเรื่องอะไรกับเรางั้นเหรอ?”

“คือ...เราโทรไปหาไวน์หลายครั้งแล้ว แต่คุณภาคินก็รับสายตลอดเลย”

“อ๋อ! ช่วงก่อนเราไม่ค่อยสบายน่ะ ขอโทษด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ! จริงๆ เราจะมาขอหุ้นร้านกาแฟกับไวน์น่ะ” มีนาส่งสายตา เว้าวอนให้เพื่อนสาว

“เอ่อ...มีนพูดจริงหรือว่าพูดเล่น?” วรันยาถามอย่างมึนๆ

“พูดจริงสิ! เราเหงา เวลาอยู่กับไวน์แล้วรู้สึกสบายใจยังไงไม่รู้” มีนาให้เหตุผล

“คงจะไม่ได้ครับ เพราะการทำธุรกิจร่วมกันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนมาก ดีไม่ดีอาจจะทำให้เสียเพื่อนได้” ภาคินที่เดินมาข้างหลังของสองสาวรีบเอ่ยแทรกขึ้น

“คุณคิน!” มีนาหันไปมองหนุ่มหล่อล่ำที่ทำให้เธอนอนเพ้อถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในร้านฮาร์เปอร์ อย่างตกใจ

“ครับผมเอง” ภาคินยิ้มบางๆ ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ ภรรยาคนสวย

“สวัสดีค่ะ” มีนายกมือไหว้อย่างอายๆ

“สวัสดีครับ” ภาคินรับไหว้ แล้วหันไปเอ่ยถามภรรยาต่อ “น้องไวน์หิวหรือยังครับ?”

“ค่ะ” วรันยาฉีกยิ้มหวานให้สามีอย่างรู้สึกโล่งอก ที่ไม่ต้องตอบคำถามที่น่าอึดอัดใจของเพื่อนสาว

“งั้นไปกินข้าวกันเถอะครับ พี่หิวมากๆ เลย” ภาคินเอ่ยชวน

“ขอมีนร่วมโต๊ะด้วยคนได้ไหมคะ” มีนาเอ่ยขอทีเล่นทีจริง

“เชิญครับ” ภาคินขานรับตามมารยาท ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับใครบางคน ที่เดินถือแก้วน้ำผักผลไม้ปั่นมาทางนี้ “นั่นนายอำเภอหรือเปล่าน้องไวน์”

“ใช่ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับอย่างรู้สึกหวั่นใจนิดๆ

“ดีเลย! เดี๋ยวพี่ไปชวนมาร่วมโต๊ะด้วยครับ” ภาคินบอกพร้อมกับลุกเดินไปหานายอำเภอคนดัง

“เอ่อ...ค่ะ” วรันยามองตามด้วยสีหน้าตื่นๆ

“ดีจังเลยเนาะ ทานข้าวด้วยกันหลายคนอร่อยดี” มีนาฉีกยิ้มให้คนที่ออกอาการลนอย่างเห็นได้ชัด ‘หึ! แสดงว่าที่เขาลือกันว่านังไวน์มีซัมติงกับนายอำเภอ ก็เป็นเรื่องจริงสินะ’

“จ้ะ” วรันยาส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันกลับไปมองสามีกับประกรณ์ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 6-7 เมตร

ประกรณ์ที่กำลังจะเดินไปยังห้องอาหารถึงกับตกใจนิดๆ ที่เห็นว่าใคร เดินมาดักหน้า

“สวัสดีครับคุณกร” ภาคินเอ่ยทักทายขาประจำของรีสอร์ต

“สวัสดีครับพ่อเลี้ยง”

“ให้เกียรติทานมื้อเที่ยงกับผมสักมื้อสิครับ” ภาคินบอกสีหน้านิ่งๆ

“เอ่อ...ครับ” ประกรณ์ขานรับอย่างมึนงง ‘ตกลงมาชวนเรากินหรอกเหรอวะ นึกว่าจะมาต่อยซะอีก’

“เชิญครับ” ภาคินบอกพลางส่งซิกให้ภรรยาสาวกับเพื่อนของอีกฝ่ายออกเดินไปยังห้องอาหารของรีสอร์ต

“ครับ” ประกรณ์เดินตามไปด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม ไม่กล้าขัดใจคนใหญ่คนโต เพราะกลัวจะได้ไปนอนคุยกับรากของต้นไม้ในสวนของอีกฝ่าย

ชั่วโมงต่อมา...

“แหม...ฝีมือของพ่อเลี้ยงอร่อยสุดๆ ครับ” ประกรณ์รีบเอ่ยชมหลังจากรับประทานมื้อเที่ยงที่สุดแสนจะฝืดคอเสร็จ อีกฝ่ายก็ขอคุยด้วยแบบส่วนตัว ซึ่งตนก็เกรงว่าจะเป็นเรื่องของวรันยา

“ถ้าอร่อยจริงก็แวะมาทานบ่อยๆ สิครับ” ภาคินยิ้มก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากห้องอาหารของร้านมาประมาณยี่สิบเมตร

“ผมจะแวะมาอีกแน่นอนครับ” ประกรณ์รีบประจบอย่างเอาใจ

“ขอบคุณครับ เรื่องไฟป่า ผมจะเตรียมงบสนับสนุนให้กับเหล่าอาสา ดับไฟป่า และจะส่งคนงานในไร่ไปช่วยทำแนวป้องกันไฟด้วย” ภาคินเข้าเรื่องสำคัญ

“ไวน์เราขอถามอะไรหน่อยสิ” มีนาบอกพร้อมกับหันซ้ายแลขวา ราวกับกลัวว่าใครจะผ่านมาได้ยิน

“เรื่อง?” วรันยามองท่าทีของเพื่อนสาวอย่างมึนงง

“เธอจ่ายเงินปิดปากนังลัมภาไปเท่าไหร่ มันถึงได้ยอมสงบปากสงบคำ”

“เราไม่ได้จ่าย เธอรู้มาจากไหน?” วรันยามองเพื่อนสาวด้วยสายตาตำหนิ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าถามเธอแบบนี้

“ไม่เอาน่า...เธอคิดว่าคุณภาคินเขาตัดขาดกับนังลัมภาได้จริงๆ เหรอไวน์” มีนายิ้มเยาะที่มุมปาก ‘หึ! ไม่น่าเชื่อว่านังไวน์มันจะโลกสวยได้ขนาดนี้ นี่คงจะหลงคิดว่าตัวเองจะเอาหนุ่มไฟแรงสูงอย่างคุณภาคินอยู่สินะ’

“ขอโทษนะคะ นาคิดว่าต่อไปนี้คุณมีนไม่ควรจะมาที่นี่อีก” นารีที่ยืนอยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ ที่หญิงสาวทำตัวไร้มารยาท

“ทำไมมีนจะมาไม่ได้คะ พี่เป็นใคร? ก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่ง เจ้านายเขาพูดคุยกันไม่ควรจะเข้ามาแทรก” มีนาตอกกลับอย่างไม่พอใจ

“มีน! พี่นาไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นคนที่เรารักและนับถือมากที่สุดคนหนึ่ง”วรันยาบอกอย่างเต็มไปด้วยความโกรธ ที่อีกฝ่ายก้าวล้ำบุคคลที่เธอรักดุจพี่สาวแท้ๆ

“แม่เจ้า! ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะเทิดทูนลูกจ้างกระจอกๆ คนหนึ่ง ให้มายืนเสมอตัว” มีนาบอกพร้อมกับเบ้ปากนิดๆ อย่างดูถูกดูแคลน

“ออกไป!” วรันยาชี้นิ้วไล่อย่างทนไม่ไหว

“นี่เธอกล้าไล่ฉันอย่างนั้นเหรอ” มีนาหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใด เพราะเห็นลูกค้าในร้านกำลังจ้องมองมาที่เธอ

“ออกไป!” วรันยาออกปากไล่อีกครั้ง

“หึ! นึกว่าอยากจะมานักหรือไง ก็แค่ร้านกาแฟกระจอกๆ” มีนาคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินออกจากร้านไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็ว

“ขอโทษลูกค้าทุกๆ ท่านด้วยนะคะที่เมื่อครู่เสียงดังไปหน่อย” วรันยาหันไปยกมือไหว้ลูกค้าในร้านอย่างเสียใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่

“คุณไวน์ไม่ต้องซีเรียสหรอกนะคะ ลูกสาวของกำนันคงน่ะนิสัยแบบนี้แหละค่ะ นางชอบเหยียดคน” สายพินลูกค้าประจำของร้านเอ่ยให้กำลังใจ

“ใช่ค่ะ พวกเราเห็นมาหาคุณไวน์ที่นี่บ่อยๆ ยังแอบคุยกันเลยว่า...เอ่อ...ว่า...” ดาด้าที่มากับองุ่นเอ่ยค้างไว้ เพราะไม่รู้ว่าสมควรจะพูดออกไปดีหรือไม่

“อะไรคะ?” วรันยาเลิกคิ้วถามอย่างอยากรู้

“ว่านางแอบชอบพ่อเลี้ยงน่ะค่ะ” ดาด้ากลั้นใจบอกสิ่งที่แอบคุยกับเพื่อนสาว

“...” วรันยาได้ฟังก็ถึงกับอึ้งไปทันใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)