เข้าสู่ระบบผ่าน

พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย นิยาย บท 121

“หึหึ!”

อวี้มามารีบเข้ามาประคองนางลุกขึ้น “พระนาง พื้นมันเย็น รีบลุกขึ้นเถิดเพคะ!”

ฉางกุ้ยเฟยค่อย ๆ ยืนขึ้นด้วยการช่วยเหลือจากนาง ริมฝีปากเหยียดเย้ยหยัน

“ข้ามันไม่มีค่าในใจเขา แม้แต่คนตายไปแล้วก็ยังสู้ไม่ได้ใช่หรือไม่?”

“พระนาง ท่านอย่าคิดมากไปเลยเพคะ อย่างไรเสีย พระนางอวี้ก็ตายไปแล้ว โอรสของนางก็ยังต้องเรียกท่านว่าแม่มิใช่หรือเพคะ!”

เมื่อนึกถึงพระนางอวี้ สีหน้าของฉางกุ้ยเฟยก็แปรเปลี่ยนไปอย่างยากจะอธิบาย

ตอนนั้น นางและพระนางอวี้ได้เข้าวังมาด้วยกัน ทั้งสองเป็นดั่งพี่น้องร่วมสาบานที่ดีต่อกัน ไม่เคยห่างกัน ทว่านางกลับได้ขึ้นไปประทับยังแท่นบรรทมมังกรก่อน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพระสนมเอก ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงเป็นเพียงสนมผินเท่านั้น

หากมิใช่นางผู้ล่วงลับไปแล้ว และนางอาสารับเลี้ยงดูบุตรของนางด้วยความเต็มใจ ฮ่องเต้คงมินึกเอ็นดูนางเป็นแน่ ด้วยทรงเห็นแก่ความรักความผูกพันอันลึกซึ้งนี้

ชื่อเหลิ่งอวี้เป็นชื่อที่ฮ่องเต้ประทานให้ เขายังคงคิดถึงสตรีนางนั้นอยู่เป็นแน่ ถึงได้ประทานชื่อที่มีคำว่าอวี้อยู่ด้วย

เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แววตาลึกซึ้งและดำมืดก็ฉายออกมาบนใบหน้าของนาง ริมฝีปากก็ขบแน่นด้วยความเคียดแค้น พลางกล่าวว่า

“สุ่ยลั่วหลัน นางกล้าฟ้องข้าต่อหน้าฝ่าบาท ผู้หญิงคนนี้ คิดทำอะไรไม่ยั้งคิดเลยสักนิด คนเช่นนี้เก็บไว้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น สักวันจะต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวี้มามาก็กลอกตาไปมา ก่อนจะกล่าวอย่างชั่วร้ายว่า

“พระนางเพคะ บ่าวคิดว่า ไม่ใช่แค่สตรีนางนั้นที่เก็บไว้ไม่ได้ บุรุษผู้นั้นก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ บ่าวเคยทูลเตือนพระนางให้รีบลงมือ แต่พระนางก็ยืนกรานจะรอให้เขาตายไปเอง แล้วดูตอนนี้สิเพคะ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ตาย ยังจะมีอวี้ฟวังเฟยมาเป็นปฏิปักษ์กับท่านอีก”

“หึ!”

ฉางกุ้ยเฟยหัวเราะหยัน “ข้าช่างโง่เขลานัก ประเมินหญิงชาวบ้านนางนั้นต่ำไป นี่ข้าช่างไม่ต่างอะไรกับชักศึกเข้าบ้าน!”

พูดจบ นางก็หรี่ตาลงแล้วกล่าวกับอวี้มามาว่า

“ไปหามือสังหารมาสักคน ต้องฝีมือดี ค่าจ้างแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร”

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี้มามาก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “เข้าใจแล้ว บ่าวจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เพคะ”

เมื่อเอ่ยถึงพระนางอวี้ ฉางกุ้ยเฟยก็บังเกิดความชิงชังขึ้นในใจ แม้เหลิ่งอวี้จะเรียกนางว่าแม่ แต่นางกลับแทบไม่เคยให้เขาอยู่ใกล้ชิด เกรงว่าจะอดใจทำร้ายเขาไม่ได้

เขาเติบโตมาภายใต้การดูแลของซุนมามา เขาจึงสนิทสนมกับนางมากยิ่งกว่าตัวนางผู้ซึ่งถูกเรียกว่าแม่เสียอีก

เมื่อคิดถึงซุนมามา ฉางกุ้ยเฟยก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ หลังจากที่เหลิ่งอวี้ถูกฮ่องเต้กักบริเวณ นางยังบังอาจออกมาแก้ต่างแทนเขา หากนางไม่ได้อ้างว่าซุนมามาเสียสติและรีบสั่งคนจับนางขังไว้ ป่านนี้คงสร้างเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นมาแล้วเป็นแน่

อาอวี่ก็ถอนหายใจตามด้วยสีหน้าอมทุกข์ “ท่านอ๋อง ตอนที่หวังเฟยจากไป ทรงกำชับให้ข้ากับอาไฉ่ดูแลท่านให้ดี ท่านไม่กินไม่ดื่มเช่นนี้ หากท่านหิวจนล้มป่วย หวังเฟยกลับมาจะตำหนิพวกข้าได้นะเจ้าคะ”

“ท่านอ๋อง ท่านพูดอะไรบ้างสิขอรับ? อย่าทำให้พวกข้ากลัวเช่นนี้เลย?”

“ท่านอ๋อง อย่าทำให้พวกข้าตกใจกลัวเลย ท่านพูดกับพวกข้าสักคำเถิด ไม่แน่ว่าอีกประเดี๋ยวหวังฟยอาจจะกลับมาแล้ว”

ทว่าเหลิ่งอวี้ยังคงนั่งนิ่งกำหมัดแน่นอยู่บนเก้าอี้ล้อ เขารู้สึกเจ็บแค้นในความไร้ความสามารถของตนเอง ที่แม้แต่หญิงอันเป็นที่รักก็ยังปกป้องไม่ได้ เขารังเกียจร่างกายที่พิการนี้ ไม่อาจยืนหยัดเคียงข้างนางได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเจ็บปวดที่นำพาความยุ่งยากมากมายมาสู่นาง

หากนางไม่กลับมา ชีวิตเขาจะมีความหมายอันใด? แล้วจะยังมีกะจิตกะใจกินอะไรลงอีกเล่า?

หากเกิดเรื่องร้ายอันใดกับนาง เขาจะเข็นรถล้อคันนี้ออกไปต่อสู้กับคนที่ทำร้ายนาง แม้กายจะแหลกสลายก็ไม่หวั่น

หัวใจของเขาเย็นเยียบถึงขีดสุด แม้ดวงตาจะแห้งผาก แต่ในใจกลับหลั่งโลหิต

ในห้วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอก

“เหลิ่งอวี้ หม่อมฉันกลับมาแล้ว”

เสียงของนางราวกระดิ่งเงินแว่วผ่านโสตประสาทของเขา เขาหันขวับไปทางประตูด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ภาพที่เห็นคือลั่วหลันเอียงศีรษะ ดวงตาหรี่ปรือมองมาทางเขา แสงแดดส่องลอดผ่านร่างของนาง ช่างงดงามราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย