เสี่ยวจื้อก็เป็นเด็กดี ไปเรียนได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับการชมเชยจากท่านอาจารย์กั๋ว บอกว่าเขามีพรสวรรค์ฉลาดหลักแหลม มีปัญญาเกินคน ในอนาคตจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
เสี่ยวจื้อดีใจกับคำชมเชยของท่านอาจารย์กั๋ว หลังจากที่ลั่วหลันส่งคนไข้คนสุดท้ายในช่วงบ่าย เสี่ยวจื้อก็รีบมาเเบ่งปันเรื่องนี้กับลั่วหลันอย่างใจจดใจจ่อ
เขายืนอยู่ตรงหน้าลั่วหลัน เงยหน้าขึ้น พูดด้วยดวงตาโตเป็นประกายว่า
“พี่สาว วันนี้ท่านอาจารย์ชมข้าด้วย”
“อ่อ?”
ลั่วหลันที่กำลังเก็บหมอนวัดชีพจรเเละสิ่งของอื่นๆ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ถามด้วยความสงสัยว่า
“ท่านอาจารย์พูดว่าอะไร”
เสี่ยวจื้อแลบลิ้นออกมา พูดเสียงเบาด้วยความเขินอายเล็กน้อยว่า
“ท่านอาจารย์บอกว่าข้าเรียนเก่ง ในอนาคตจะต้องประสบความสำเร็จอย่างมาก”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิ่วเม่ยก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิเขาว่า
“เสี่ยวจื้อ ท่านอาจารย์พูดแบบนี้กับเด็กทุกคน เจ้าอย่าเชื่อเป็นจริงเป็นจัง อย่าหยิ่งยะโส!”
เสี่ยวจื้อก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ความดีใจเมื่อครู่ก็ดับวูบลงทันทีด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของหลิ่วเม่ย
ลั่วหลันรีบปลอบโยนเขาว่า
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น ท่านอาจารย์กั๋วดูเป็นคนเข้มงวด เขาคงไม่ชมคนพร่ำเพรื่อ เสี่ยวจื้อของพวกเราเเต่เดิมก็เป็นคนฉลาด มีไหวพริบ ในอนาคตจะต้องเป็นคนเก่งกาจ อาจจะสอบได้จอหงวนก็ได้นะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มุมปากของเสี่ยวจื้อก็ปรากฏรอยยิ้ม คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก
ลั่วหลันกวักมือเรียกเขา เขาก็รีบวิ่งเหยาะๆไปข้างๆนาง “พี่สาว มีอันใดหรือ”
ลั่วหลันกระซิบที่ข้างหูเขาว่า
“ท่านอ๋องสามารถยืนได้เเล้ว เจ้าอยากไปเจอเขาไหม”
“จริงหรือ”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ เสี่ยวจื้อแทบจะกระโดดขึ้น “อยากเจอ อยากเจอ”
ลั่วหลันเอานิ้วเเตะที่ริมฝีปาก ส่งเสียงชู่วเป็นสัญญาณให้เขาเงียบ จากนั้นก็ให้หลิ่วเม่ยช่วยกันจัดเก็บกล่องยาให้เรียบร้อย ส่วนนางก็จับมือเสี่ยวจื้อเดินไปทางลานด้านหลัง
เดินผ่านทางเดิน ผ่านระเบียงของทางด้านหลัง ผ่านประตูพระจันทร์ เเล้วพวกนางก็มาถึงสวน ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีดอกไม้ให้ชมสักดอก เเต่ทิวทัศน์ในสวนเเห่งนี้ก็ยังคงงดงาม
บนพื้นที่โล่งเเห่งหนึ่ง เหลิ่งอวี้กำลังต่อสู้กับเสี่ยวหลิงจื่อ อาโฮ่วนั่งยองๆอยู่ข้างๆ มองดูตาไม่กระพริบ
เมื่อเสี่ยวจื้อเห็นภาพนี้ เขาก็เบิกตากว้าง ชี้ไปที่เหลิ่งอวี้ที่กำลังออกท่าทางเเละอุทานด้วยความประหลาดใจว่า
“พี่สาว รูปร่างของพี่เขยหล่อเหลาจริงๆ…”
“เสี่ยวจื้อ พี่ต้าจื้อจะต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน เเต่คงต้องใช้เวลานานหน่อย เจ้าไม่ต้องกังวล”
ถึงเเม้จะพูดอย่างนั้น เเต่ในใจของนางก็ไม่มั่นใจจริงๆ
ชีวิตของต้าจื้อได้รับการรักษาไว้เเล้ว นางไม่เเน่ใจจริงๆว่าเขาจะฟื้นเมื่อไร สมองของเขาตอนนี้อยู่ในภาวะโคม่าอย่างหนัก พูดแบบคนสมัยใหม่ก็คือ เป็นเจ้าชายนิทรา อยากให้เขาฟื้นมา นอกเสียจากมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นเท่านั้น
เสี่ยวจื้อเหลือบมองเหลิ่งอวี้ จู่ๆก็คุกเข่าลง
“พี่เขย ข้าไม่อยากเรียกท่านว่าพี่เขยแล้ว ข้าอยากคารวะท่านเป็นอาจารย์ โปรดสอนวิทยายุทธข้าด้วยเถิด!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหลิ่งอวี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าเเละยิ้มอย่างขมขื่น “เสี่ยวจื้อ รีบลุกขึ้น วิทยายุทธของข้าตอนนี้ต้องเริ่มต้นเรียนใหม่ จะสอนเจ้าได้อย่างไร”
“ถึงอย่างนั้นข้าก็จะคารวะท่านเป็นอาจารย์ โปรดรับข้าไว้เถิด”
ใบหน้าเล็กๆของเสี่ยวจื้อพลันจริงจังขึ้นมา
ลั่วหลันก็ไม่คาดคิดว่า เด็กน้อยคนนี้จะคิดเรื่องการหาอาจารย์ เเละเมื่อคิดจะหาก็คารวะเหลิ่งอวี้เป็นอาจารย์ทันที
ดังนั้น นางจึงทำอะไรไม่ถูก เสี่ยวจื้อเห็นดังนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นมองนาง เม้มปากเเล้วปรึกษาว่า
“พี่สาว พี่เขยฟังท่านมากที่สุด โปรดให้เขารับข้าเป็นศิษย์เถิด ข้ารับประกันว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ท่านอาจารย์ เเละไม่ทำให้ท่านอาจารย์โกรธ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วหลันก็ทั้งจนปัญญา เเละอดไม่ได้ที่จะเม้มปากยิ้ม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...