นางกะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ พลางเอ่ยกับเหลิ่งอวี้ว่า
“อย่างไรเสียท่านก็ตั้งใจจะกลับเมืองหลวงอยู่แล้ว อีกอย่างหม่อมฉันก็อดห่วงต้าจื้อกับเสี่ยวจื้อไม่ได้ โดยเฉพาะต้าจื้อ วัน ๆ เอาแต่ร้องว่าจะแก้แค้นให้น้องชายตัวน้อย หากเขารู้ว่าพี่เสี่ยวอวี้ตั้งครรภ์ลูกของเหลิ่งอวิ่นโดยไม่รู้ตัว มีหวังบุกไปจวนรัชทายาทอย่างบ้าคลั่งเป็นแน่ ดังนั้นท่านต้องพาเขากลับมาก่อนที่เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามโง่เขลาลงไป”
สีหน้าเหลิ่งอวี้เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย เขาจับมือนางขึ้นมาจรดริมฝีปาก เป่าลมหายใจอุ่น ๆ ลงไป ก่อนพยักหน้าอย่างอ่อนโยน
“ได้ ข้าตามใจหลันเอ๋อร์ทุกอย่าง พรุ่งนี้เรากลับเมืองหลวงกัน”
“มิใช่พวกเรา แต่เป็นท่านคนเดียว หม่อมฉันรับปากกับฝ่าบาทแล้วว่าจะไม่กลับเมืองหลวง หากไม่มีราชโองการจากฝ่าบาท การกลับไปของหม่อมฉันก็เท่ากับขัดราชโองการ หม่อมฉันไม่อยากรับโทษนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คิ้วของเหลิ่งอวี้ก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นลึกล้ำ บนใบหน้าปรากฏความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ข้าเป็นห่วงเจ้า เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ข้าจะพาเสี่ยวหลิงจื่อกับเสี่ยวซวงจื่อกลับไปรวมกับเสี่ยวถานจื่อและเสี่ยวหนิงจื่อ ส่วนจางหยวน อาอวี่และอาโฮ่ว ให้พวกเขาอยู่ที่นี่”
“ได้”
ลั่วหลันมิได้ปฏิเสธ นางรู้ดีว่าหากนางไม่ทำตามที่เขาต้องการ เขาจะไม่ยอมกลับเมืองหลวงเป็นแน่ เมื่อเขากลับไปแล้ว หลิวเวยกับพวกอีกสองสามคนก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ หากในภายภาคหน้าเขาต้องการออกจากเมืองหลวงอีก ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกต่อไป
ภายในวังหลวง ณ เมืองหลวง
ฉางกุ้ยเฟยกำลังนำพาข้ารับใช้กลุ่มหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังท้องพระโรงด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด ใบหน้าของนางบ่งบอกได้ว่าคงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่
เมื่อนางมาถึงเบื้องหน้าฮ่องเต้ สีหน้าของฮ่องเต้ก็แลดูอึมครึม พูดออกไปตรง ๆ ว่า
“ปีใหม่นี้ เราได้เชิญบรรดากษัตริย์ต่างชาติทั้งหลายกลับมายังเมืองหลวง เมื่อถึงเวลา เจ้าจงดูแลครอบครัวของพวกนางให้ดี อย่าไปวุ่นวายที่ห้องทรงพระอักษร”
ทว่าฉางกุ้ยเฟยกลับไม่ใส่ใจกับคำพูดของฮ่องเต้ นางย่อกายลงแล้วตอบว่า
“ฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันมาก็มีเรื่องหนึ่งจะทูลให้ทรงทราบเพคะ ขอฝ่าบาททรงอนุญาตให้หม่อมฉันได้พูดจนจบ”
“พูดมา”
ฮ่องเต้โบกมืออย่างรำคาญ “ถ้าไม่ให้เจ้าพูด เกรงว่าเจ้าก็คงไม่ยอมไปไหน”
ฉางกุ้ยเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วย่อกายลงอีกครั้ง
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไปไหว้พระที่วัดเมื่อวันก่อน ได้ยินชาวบ้านซุบซิบนินทาเรื่องที่อาจทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสีย หม่อมฉันก็เลย... ก็เลยอยากให้ฝ่าบาทตัดสินพระทัยว่าจะจัดการอย่างไรดี เกรงว่าถ้าพวกกษัตริย์ต่างชาติต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในเมืองหลวงรู้เรื่องนี้เข้า จะพากันหัวเราะเยาะเอาได้เพคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็หน้าตึงขึ้นทันที เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย มองไปยังฉางกุ้ยเฟย พลางถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...