เห็นอารมณ์ของเขาฮึกเหิมเล็กน้อย เหลิ่งอวี้เห็นแบบนั้น ก็รีบเข้าไปปลอบใจ
“เสด็จอา ท่านคุกเข่าอยู่ตรงนี้ก็เปล่าประโยชน์ ทำร้ายตัวเองก็ไม่คุ้มค่า ลุกขึ้นเถอะ!”
“ไม่…”
เหลิ่งจื่ออันส่ายหน้าอย่างแรง “เสี่ยวจื้อไม่ฟื้น อาก็ไม่มีทางลุก”
ความรู้สึกของเขาลั่วหลันเข้าใจได้ ทุกคนในเหตุการณ์ก็เข้าใจ เสี่ยวจื้อเป็นลูกชายคนเดียวของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับเสี่ยวจื้อเพิ่งจะเริ่ม เขาจะยอมรับเรื่องที่เสี่ยวจื้อต้องนอนอยู่บนเตียงกะทันหันไม่รู้ว่าจะรอดหรือตายได้อย่างไร?
ลั่วหลันถอนหายใจ ค่อย ๆ เปลี่ยนน้ำเสียง และเอ่ยปากกล่าวปลอบใจเขาอย่างช้า ๆ
“เสด็จอา ตอนนี้สิ่งที่ท่านต้องทำไม่ใช่คุกเข่าขอให้เสี่ยวจื้อปลอดภัยอยู่ตรงนี้ แต่คือการรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี เสี่ยวจื้อฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจะได้เห็นท่านพ่อที่สมบูรณ์แบบ”
ได้ยินนางพูดแบบนี้ เหลิ่งจื่ออันก็เม้มริมฝีปาก ส่ายหน้าอีกครั้ง และกล่าวด้วยเสียงแหบแห้งว่า
“หลายปีมานี้ ข้าไม่เคยได้อยู่กับเขาอย่างเต็มที่ ตอนนี้เพิ่งมีโอกาสอยู่กับเขา เขากลับนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น ต้องโทษข้า หากตอนเขาไปห้องน้ำข้าไปเป็นเพื่อนเขาเอง บางทีคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ดังนั้นข้าต้องอยู่เป็นเพื่อนเขา”
เห็นเขาดื้อดึงเช่นนี้ ลั่วหลันก็ถอนหายใจ และกล่าวปลอบใจต่อว่า
“เสด็จอา ข้าเพิ่งบอกท่านว่า อาการของเสี่ยวจื้อถึงแม้ไม่ดีมากนัก แต่รักษาชีวิตเขาเอาไว้ได้แล้ว ดังนั้นท่านคุกเข่าแบบนี้ก็เปล่าประโยชน์ สวรรค์คงไม่มีทางเมตตาเขาเป็นพิเศษเพราะท่านคุกเข่านานหรอก เขาจะมีชีวิตรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเขา ข้าคิดว่าเด็กเข้มแข็งและฉลาดอย่างเสี่ยวจื้อ เขาต้องผ่านช่วงนี้ไปได้ ท่านกลับไปพักสักหน่อยเถอะ พรุ่งนี้กลางวันค่อยมาอยู่เป็นเพื่อนเขาอีก ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสอย่างท่านคุกเข่าแบบนี้ ข้าคงเข้าไปพักผ่อนไม่ได้ แล้วก็จะไม่มีแรงรักษาเสี่ยวจื้อ แบบนี้มีแต่จะทำให้เขาอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ อันไหนสำคัญกว่ากันท่านชั่งน้ำหนักดูเองเถอะ!”
คำพูดของนางอาจทำให้เหลิ่งจื่ออันมีความกังวลอยู่บ้าง เขาถอนหายใจยาวและเตรียมตัวลุกขึ้น ตัวเซิงเห็นแบบนั้น ก็รีบออกแรงพยุงเขา เขามองลั่วหลัน และซักถามเบา ๆ ว่า
“เช่นนั้นข้าเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเขาได้หรือไม่?”
“ไม่ได้”
ลั่วหลันพูดตัดบทเขาทันที
“อาการของเขาตอนนี้ยังไม่เสถียรมากมัก คนที่รู้จักข้าล้วนเข้าใจดีว่า ตอนข้ารักษาคนไข้ ห้ามให้มีคนมารบกวน และไม่สามารถให้คนไปพบคนไข้ในระหว่างนั้น ดังนั้นท่านทำได้แค่รอ”
ถึงแม้เหลิ่งจื่ออันจะรีบร้อนอยากอยู่ข้างกายเสี่ยวจื้อ แต่ก็เข้าใจความหมายของลั่วหลัน
เขายืนตรง โค้งคำนับลั่วหลันกะทันหัน เห็นแบบนั้น ลั่วหลันก็รีบยกมือจับอย่างนอบน้อม


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย
บทที่เคยปลดล็อกด้วยเหรียญไปแล้ว ทำไมกลับมาอ่านซ้ำไม่ได้...
เติมเหรียญแล้วแต่ปลดล็อกไม่ได้...