เมื่อคิดอย่างนั้น นางจึงใช้มือข้างหนึ่งยกเขาขึ้นมา เปลี่ยนผ้าปูเตียงกับแผ่นรองและวางเขาลงพร้อมห่มผ้านวมผืนใหม่ให้
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ นางก็หอบอย่างหมดแรง อดไม่ได้ที่จะเท้าเอวพลางบ่นพึมพำ
“ท่านควรจะขอบคุณข้าบ้างนะ ทำไมถึงนอนนิ่งขนาดนี้ หรือว่าใกล้จะสู่ขิตแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดติดตลกของนาง ลูกกระเดือกของเขาก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนเอ่ยพูดบางอย่างที่ทำให้ลั่วหลันแทบสำลัก
“ไส...หัวไป...”
ลั่วหลันมองเขาด้วยความประหลาดใจ โดยไม่โกรธที่ถูกไล่สักนิด แต่กลับตื่นเต้นที่เขาพูดได้มากกว่า
นางเดินตรงไปที่เตียงอีกครั้ง พลางเพ่งมองใบหน้าซีดราวกับกระดาษ
“นี่ท่านพูดหรือ ลืมตาได้ไหม”
ชายคนนั้นยังคงหลับตาแน่นพร้อมกับเอียงศีรษะไปอีกฝั่ง
ทันใดนั้นลั่วหลันก็ตระหนักได้ว่าชายคนนี้จะต้องมีศักดิ์ศรีค้ำคอแน่ๆ คำพูดเมื่อครู่ของนางอาจรุนแรงไปหน่อย
นางจึงเอียงศีรษะคุร่นคิดอย่างกังวล ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบเบาๆ
“อวี้อ๋อง ข้าไม่สนหรอกว่าตอนนี้ท่านจะป่วยหรือมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ข้าเป็นชายาของท่านแล้ว ข้ามีนามว่าสุ่ยลั่วหลัน เรียกข้าว่าลั่วหลันหรือหลันเอ๋อร์ก็ได้ ต่อไปนี้ข้าจะเป็นคนดูแลท่านเอง”
ทันทีที่พูดจบ ชายคนนั้นก็พ่นลมอย่างเย็นชาและคร่ำครวญด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“คนใกล้ตายอย่างข้าคู่ควรที่จะมีชายาด้วยหรือ บอกมาตรงๆ เถอะว่าเจ้าเข้าใกล้ข้าเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด”
นี่เขาพูดได้เยอะขนาดนี้เลย? แล้วยังสงสัยว่านางมีจุดประสงค์อะไรอีก นางจะมีจุดประสงค์อะไรได้
นางหัวเราะเบาๆ พร้อมกับพูดด้วยเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “ท่านรู้ว่าตัวเองคือคนใกล้ตาย ข้าจะทำอะไรได้อีกล่ะ ขอบอกตามตรงแล้วกัน เงินรางวัลหนึ่งพันตำลึงที่เสด็จแม่ของท่านประทานให้ถูกป้าของข้าเอาไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงเป็นคนของท่าน เรื่องทั้งหมดมีเท่านี้”
ลั่วหลันขยับตัวเข้าไปหาเขาด้วยความรู้สึกอยากรู้ว่าหน้าตาอย่างไรหากลืมตาขึ้นมา แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยแผลเหวอะ แต่มองแล้วก็ยังคงดูดีไม่น้อย
ชายคนนั้นอาจสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบา เขาจึงลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างชัดเจน
ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายสดใส ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเห็นดวงดาวในค่ำคืนมืดมิด
ใบหน้าเล็กเรียว คิ้วสีอ่อน ตากลมโต จมูกเล็กและริมฝีปากบางเป็นไปตามมาตรฐาน
“แน่นอน”
ลั่วหลันเดินเข้าไปหาเขาด้วยความมั่นใจ ก่อนเผยรอยยิ้มกว้างใกล้กับใบหน้าของเขา
“ท่านต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อข้า”
พูดจบ นางจึงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ชาติที่แล้วนางคือหมอที่ชอบท้าทายปัญหาทางการแพทย์ยากๆ ตอนนี้หากนางรักษาเขาที่เป็นอัมพาตจนหายดี ฝีมือทางการแพทย์ของนางจะต้องก้าวไปอีกขั้นอย่างแน่นอน
ทว่าชายคนนั้นกลับตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไสหัวไป ปล่อยให้ข้าตาย ปล่อยให้ข้าตาย…”
อยู่ดีๆ เขากลับสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ ลั่วหลันรู้สึกว่าหากเขาขยับตัวได้ คงจะกระโดดขึ้นมาเตะนางออกไปนานแล้ว
แต่เขาขยับตัวไม่ได้ นางจึงยืนมองเขาอยู่ไม่ไกลและปล่อยให้ด่าทออยู่อย่างนั้น
ทันใดนั้นเขาก็หันศีรษะมามองนางด้วยสายตาวิงวอน
“ได้โปรด ปล่อยให้ข้าตาย แทงข้าเลย”
ความปรารถนานี้อัดอั้นอยู่ในใจของเขามานาน แต่ไม่มีผู้ใดทำให้เขาสมปรารถนาเลยสักคน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักท่านอ๋องตัวร้าย