ตอนที่ 105 ข้ามอะไรไป
เมื่อเห็นอ๋องฉีเงียบ ทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่างก็รู้ ว่าสัญญาฉบับนี้ต้องทำการลงนามล่วงหน้าก่อนแล้ว
แต่ ใครกันที่ลงนาม?
ลี่ปู้ซื่อหลางยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า: “ฮองเฮาเหนียงเหนียง หม่อมฉัขอแนะนำ มันจะดีกว่าหากอง์รัชทายาทครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อลงนามต่อสนธิสัญญา”
ใต้เท้าชุยชำเลืองมองไปยังลี่ปู้ซื่อหลางด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนหน้านั้นเขาได้ทราบข่าวมาว่าเขาและไถ้ฝู้คบหากัน แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆเมื่อกวาดสายตาไปยังใบหน้าขององค์รัชทายาท
ฮองไทเฮาไม่ได้ตอบเขาออกมาโดยตรง อีกทั้งยังมองไปทางองค์รัชทายาทแวบหนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นว่า: “องค์รัชทายาท เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถแบกรับตำแหน่งผู้บริหารประเทศได้หรือไหม?”
องค์รัชทายาทซือถูเย้นค่อยๆยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เสด็จย่า เหล่าพี่น้องราชนิกุลทุกท่าน ขุนนางทุกท่าน ขอบน้ำใจเป็นอย่างสูงที่มาร่วมเฉลิมฉลองและให้ความสำคัญกับข้าเช่นนี้ คุณสมบัติและประสบการณ์ของข้า การบริหารประเทศยังเทียบเท่าทุกท่าน ณ ที่นี่ไม่ได้ เสด็จย่าศรัทธาให้ข้าเป็นผู้ดูแลประเทศ ข้าหวาดกลัวเสียไม่ได้ กลับรู้ว่าตัวเองในฐานะองค์รัชทายาทไม่สามารถหลบหลีกหน้าที่นี้ได้พ้น หวังว่าข้าราชบริพารและราชนิกุลทุกท่าน จนทรงช่วยเหลือเกื้อกูลข้าอย่างสุดกำลัง ”
ทุกคนอดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้ คำพูดนี้มาจากไหนกัน? ฮองไทเฮาเพียงแค่ถามความคิดเห็นของเขา ไม่ได้ทรงตัดสินใจจะให้เขาเป็นผู้ถูกเลือกในการดูแลประเทศสักหน่อย เขาถ่อมตัวและมีมรรยาท แต่กลับต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หากมีความมุ่งมั่น ก็อาจจะประสบความสำเร็จ
ฮองไทเฮาส่ายหน้าเบาๆ โง่เขลา โง่เขลา เบาปัญญาเป็นอย่างยิ่ง
นางให้เขาพูด เพราะรู้ว่าตอนนี้จะต้องทำการคัดเลือกผู้บริหารประเทศ ในเมื่อไม่สามารถหลีกหนีพ้น นางก็จะให้โอกาสสักครั้ง ให้เขาได้แสดงความสามารถของเขา ให้เขาได้พูดนโยบาลในการบริหารประเทศของตัวเอง และโต้กลับผู้ที่ขัดแย้งต่อเขา หากเขาทำดี ก็จะทรงบอกให้นางทรงกำหนดชี้ขาด
ความมุทะลุเช่นนี้ จะทำให้เป็นที่นิยมอย่างนั้นหรือ?
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ อ๋องหลี่ชินยืนขึ้นแล้วพูดว่า: “ฮองไทเฮา หม่อมฉันคิดว่า การคัดเลือกผู้บริหารประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่อาจตัดสินแบบสุกเอาเผากินได้พะยะคะ หม่อมฉันขอแนะนำให้ฮองไทเฮาเสนอต่อชั้นศาลในวันพรุ่งนี้ และคัดเลือกผู้ที่จะมาบริหารประเทศ จากนั้นก็ค่อยลงยามสัญญานะพะยะคะ”
เหลียงไถ้ฝู้หัวเราะอย่างเย็นชาออกมา “อ๋องหลี่ชิน การคัดเลือกผู้บริหารประเทศย่อมไม่สามารถทำแบบสุกเอาเผากินได้ แต่องค์รัชทายาทนั้นน่าเชื่อถือและเหมาะสมที่สุดแล้ว เขาเป็นถึงองค์รัชทายาทของฮ่องเต้ ส่วนฮ่องเต้ก็ชื่นชมองค์รัชทายาทมาก ทุกท่านยังจำกันได้ เมื่อครั้งที่องค์รัชทายาทถูกแต่งตั้ง ฮ่องเต้ประเมินไม่ดีหรือ? ฮ่องเต้ทรงให้เขียนลงพระบรมราชโองการไว้ว่าองค์รัชทายาทจะต้องเป็นพลทหารที่มีจิตใจเมตตา มีความภักดีกษัตริย์ รักใคร่ปรองดองต่อพี่น้อง ฮ่องเต้ชื่นชมองค์รัชทายาทอย่างมาก จิตใจของฮ่องเต้ ทุกท่านทรงพินิจพิเคราะห์ได้ว่าองค์รัชทายาทเป็นผู้ดูแลบ้านเมือง ย่อมเหมาะสมที่สุดแล้ว”
ใต้เท้าชุยจึงพูดขึ้นว่า: “วันนั้นฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท พระบรมราชโองการก็เป็นเช่นนี้ แต่ เมื่อครั้นฮ่องเต้ทรงประชวรหนัก กลับได้เปลี่ยนจากท่านอ๋องคนเดิมเป็นอ๋องซื่อเจิ้ง มารับตำแหน่งบริหารดูแลประเทศ เพราะฮ่องเต้ทรงคิดว่าองค์รัชทายาทยังทรงอ่อนเยาว์เกินไป จำเป็นต้องผ่านการฝึกฝน จึงได้ทำการเปลี่ยนตำแหน่งองค์รัชทายาท ”
อ๋องอานชินจึงพูดขึ้นว่า :“ฮองไทเฮา หม่อมฉันเห็นด้วยกับใต้เท้าชุยนะพะยะคะ องค์รัชทายาทอายุยังน้อย ควบคุมทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เกิดจิตใจหยิ่งผยองอวดดีขึ้นได้ง่าย ไม่สามารถบังคับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ได้ หากราษฎร์ไม่คิดจะนอบน้อมศรัทธา อำนาจในการบริหารประเทศก็จะหละหลวม หากในเวลานี้มีพวกหมานอี๋ที่มีจิตใจโลภขึ้นมา แคว้นต้าโจวอาจจะล่มสลายลงได้”
(หมานอี๋ ในสมัยโบราณเป็นคำที่ชาวจีนใช้เรียกชนเผ่าอื่น)
เหลียงไถ้ฝู้พูดขึ้นว่า : “อ๋องอานชินพูดจาว่าระวังด้วย ประโยคนี้ที่ว่าไม่มีทางบังคับควบคุมขุนนางชั้นผู้ใหญ่ได้ ดูเหมือนว่าจะมีความหมายอื่นแฝงด้วย อย่าได้ล่วงเกินขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ หากพูดถึงตำแหน่งหน้าที่ ก็ควรจะพูดจาอย่างตรงไปตรงมา”
อ๋องอานชินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า: “เจ้าก็ฟังออกนิ ไถ้ฝู้ช่างฉลาดมากเสียจริง ไม่ผิด ข้าพูดถึงเจ้า เองค์รัชทายาทไม่เข้าใจ เรื่องที่จำเป็นต้องทำในวันข้างหน้าก็ยังต้องพึ่งพาไถ้ฝู้อยู่ พระประยูรญาติจะมีผลอะไร ครั้งอดีตก็มีตัวอย่างที่น่าจดจำไม่น้อย ข้าไม่ได้มีเจตนาพูดให้คนอื่นตกใจหรอก เพียงแต่ในฐานะคนในเชื้อพระวงศ์ ข้ามั่นใจได้ว่าอำนาจของกษัตริย์ไม่มีทางตกอยู่ในมือของผู้อื่นอย่างแน่นอน”
เหลียงไถ้ฝู้จึงได้ตะโกนออกไปว่า “อ๋องอานชิน นี่เป็นการประณามที่ร้ายแรงอย่างใหญ่หลวงมากทีเดียว การกล่าววาจาร้ายแรง เจ้าช่างไร้เหตุผล การกล่าวหาว่าข้าต้องการยึดครองบัลลังก์ หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่พระพักตร์ของฮองไทเฮาและเหล่าขุนนางละก็ ข้าไม่มีทางยอมเลิกลาอย่างแน่นอน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...