ตอนที่ 11 เริ่มเปิดศึก
หลีโม่ทำสัญลักษณ์มือให้เย็นเอ๋อร์ออกไป
เย็นเอ๋อร์ยกน้ำเดินออกไปพร้อมกับปิดประตู
“ท่านแม่ ท่านวางใจเถอะ ข้าเคยเรียนการแพทย์มาก่อนและเคยเรียนฝังเข็มมาด้วยข้ามีความมั่นใจอยู่” หลีโม่พูดออกมาเบาๆ
คุณนายเสี้ยพยักหน้าเบาๆ แล้วยื่นมือมาลูบผมนางเบาๆ “ลำบากเจ้าแล้วเจ้าต้องมามีชีวิตอยู่ต่อแทนหลีโม่ ต้องมาทนแบกรับความทุกข์ที่หลีโม่ควรได้รับ ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ”
“ข้าเต็มใจ” หลีโม่ยิ้ม
อย่างน้อยนางก็ไม่ใช่เด็กกำพร้าอีกต่อไปแล้ว
เมื่อวาน คุณนายเสี้ยก็รู้แล้วว่านางไม่ใช่ลูกสาวของตน จำได้ว่าเวลานั้นคุณนายเสี้ยกุมมือนางเอาไว้สีหน้าเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง
หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ข้าจะแก้แค้นให้ลูกสาวข้า”
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น
และที่พวกนางต้องระวังคือในไม่กี่วันนี้อย่าให้คนของจวนเฉิงเสี้ยงมีโอกาสได้ลงมือเด็ดขาด
สาวใช้สองคนที่ลานเสี้ยจื้อ คนหนึ่งคือเย็นเอ๋อร์ที่คอยรับใช้นางอีกคนคือซู่หยู้ที่คอยรับใช้ท่านแม่ แต่ซู่หยู้นั้นเป็นคนที่ทะเยอทะยาน หลีโม่แค่ดูก็รู้แล้ว
“ท่านแม่สองสามวันนี้ท่านควรระวังซู่หยู้เอาไว้” นางเอ่ยกำชับขึ้น
“รู้แล้ว นอนเถอะ” คุณนายเสี้ยใส่ยาให้นางเสร็จแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เบา
หลีโม่เหนื่อยแล้วจริงๆ พอหัวถึงหมอนก็หลับเลย
คุณนายเสี้ยนั่งอยู่ข้างเตียงตลอด ฟังเสียลมหายใจเข้าออกของหลีโม่ แล้วค่อยๆ ลูบใบหน้าของหลีโม่ เบาๆ มือค่อยๆ ลูบไปที่บาดแผลอย่างเบามือแล้วน้ำตาก็ค่อยไหลลงมาอาบแก้ม
นางเสียใจ นางแค้น แต่เพียงแค่ไม่ยอมร้องไห้เสียน้ำตาต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น
นางเองก็รู้สึกสงสารหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านางนี้ ความทุกข์ทรมานที่นางได้รับในวันนี้ที่จริงแล้วควรเป็นลูกสาวของนางต่างหากที่ต้องรับ ที่จริงการตายก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง หากต้องมาอยู่อย่างทุกข์ทรมานเช่นนี้สู้ตายไปเสียจะดีกว่า
ในสองวันนี้ ไม่มีใครมารบกวนพวกนางสองแม่ลูกเลย
หลีโม่เองก็รู้สึกสงบและรักษาตัวพร้อมกับเรียนรู้เทคนิคทางเข็มทองคำ
คุณนายเสี้ยรู้มาว่าตอนอยู่ในวังหลีโม่ดื่มยาพิษใบแดงมา นางถอนหายใจเบาๆ ผู้หญิงที่ไม่สามารถมีลูกได้ ชาตินี้ก็เท่ากับพิการแล้ว
นางพบเจอกับคนใจร้ายอำมหิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายในโลกนี้จะเป็นแบบนั้นทุกคน นางยังหวังว่าวันข้างหน้าหลีโม่จะได้พบเจอกับชายที่รักตนอย่างจริงใจ
เช้าของวันที่สาม ซู่หยู้เข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่นายหญิงแก่เชิญท่านให้ไปหา”
หลีโม่วางหนังสือในมือลง แล้วมองไปที่คุณนายเสี้ย
“นายหญิงแก่ให้คนมาบอกหรือ” หลีโม่ถาม
ซู่หยู้พูดขึ้นว่า “ใช่ค่ะ บ่าวออกไปถึงสวนดอกไม้ก็เจอชุ่ยยุ่นกำลังเดินเข้ามา นางเห็นข้า จึงได้บอกกับข้าว่านายหญิงแก่ให้มาเชิญทาน”
“ชุ่ยยุ่นได้บอกไว้มั้ยว่าเรื่องอะไร” หลีโม่ถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
นี่คือวันที่สาม เป็นวันที่สำคัญมากด้วย
หากว่าพวกเขาเลือกลงมือในวันนี้ งั้นก็แย่น่ะสิ
“ไม่ได้บอกไว้”
หลีโม่ยืนขึ้น “เดี๋ยวข้าไป”
คุณนายเสี้ยรีบลุกขึ้น “ข้าไปกับเจ้า”
ซู่หยู้พูดขึ้นว่า “นายหญิงชุ่ยยุ่นบอกว่าให้คุณหนูใหญ่ไปแค่คนเดียว”
หลีโม่พยุงคุณนายเสี้ยแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ไม่เป็นไรข้าไปเองได้”
หากเป็นแบบนี้ก็สามารถอธิบายทุกอย่างได้แล้วว่าทำไมถึงต้องเขียนหนังสือหย่าฉบับนั้น
วันนี้ทางนั้นมีเพียงแค่ซู่หยู้กับท่านแม่ ส่วนเย็นเอ๋อร์และตนเองออกมาแล้ว ด้านนอกก็มีคนเยอะขนาดนั้นจ้องมองก็เพื่อปล่อยนางออกไป
หลีโม่คิดมาถึงตรงนี้ในใจก็คิดขึ้นว่าที่ลานเสี้ยจื้อ ซู่หยู้ก็คงจัดการเอาไว้ก่อนแล้วแน่ อีกอย่างชุ่ยยุ่นของนายหญิงแก่ก็ไม่อยู่ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่
หลีโม่รู้ว่าตนเองต้องรีบออกไปจากตรงนี้ แต่นางไม่อาจทำให้นายหญิงแก่รู้ว่านางมองถึงแผนการของพวกเขาออกแล้ว
นางงอตัวเล็กน้อยเอามือกุมท้อง “โอ้ย! ข้าเจ็บท้อง นายหญิงแก่ข้าจะต้องไปเข้าส้วม”
นายหญิงแก่มองหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “อดทนเอา”
หลีโม่ก้มลงนั่ง “นี่มันอดทนไม่ได้ค่ะ โอ้ย! จะออกแล้วข้าขอยืมใช้ส้วมของนายหญิงแก่ได้ไหม”
นายหญิงแก่เห็นสีหน้าของนางที่ดูเจ็บปวดทรมานไม่เหมือนกับกำลังแสร้งแกล้งทำ ก็กลัวว่าจะออกมาตรงนี้จึงได้สั่งหลานหยู้ว่า “เจ้าพานางไปเข้าส้วมทีดูนางดีๆ ล่ะ”
หลานหยู้พูด “ค่ะนายหญิงแก่”
หลีโม่กุมท้องเอาไว้แล้วเดินออกไปพร้อมกับพูดว่า “หลานหยู้รบกวนเจ้าแล้ว”
หลานหยู้มองนางด้วยสายตาที่รังเกียจไม่ได้พูดอะไรออกมา เดินนำนางออกประตูไป เย็นเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านนอกพอเห็นนางเดินออกมา มองนางเห็นว่าไม่ให้เดินตามนางไปจึงได้ยืนอยู่กับที่ไม่ขยับอะไร
ส้วมอยู่ทางด้านหลังขวา อยู่โดดๆ เอาไว้ให้บ่าวไพร่ใช้กัน ที่ให้เจ้านายใช้อยู่ในห้อง
หลังจากที่หลีโม่เข้าไป ก็พูดกับหลานหยู้ที่ยืนอยู่ด้านนอกมีประตูกัน “ที่นี่ไม่มีกระดาษหลานหยู้เจ้าช่วยไปหยิบมาให้ข้าหน่อยได้ไหม”
หลานหยู้ตอบอย่างรำคาญว่า “ทำไมเจ้าเรื่องเยอะแบบนี้เนี่ย”
หลีโม่ร้องไห้ฟูมฟายพูดขึ้นว่า “ข้าก็ไม่รู้ว่าที่นี่ไม่มีกระดาษ รบกวนเจ้าหน่อยนะหากกลับไปเหม็นนายหญิงแก่ก็คงจะดูไม่ดีมั้ง”
หลานหยู้ด่านาง “คนยิ่งต่ำต้อยเรื่องก็ยิ่งเยอะ ยังไม่สำเหนียกอีกว่าตนเองเป็นใคร” พูดจบก็เดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...