ตอนที่ 110 ตั้งใจยั่วยุ
องค์รัชทายาทเห็นอ๋องฉีเดินออกไปแล้ว ก็ไม่ได้เล่นเกมส์อะไรอีก นอกจากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ไม่ผิด ข้าไปเยี่ยมเสด็จอามา มีปัญหาอย่างนั้นหรือ?”
“พาผู้คนนับพันไปดักซุ่มอยู่รอบตำหนัก กลับบอกว่าไปเยี่ยมข้าหรือ?” ซือถูเย้นหันหน้าไปพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่นุ่มนวลเลยสักนิด แต่ เมื่อได้ยินมาจากทุกคน กลับน่ากลัวราวกับคมดาบอย่างไรอย่างนั้น
องค์รัชทายาทส่งเสียงหึออกมา “ไม่ผิด ข้าพาคนไปปกป้องเสด็จอา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมีคนซาบซึ่งน้ำใจสักเท่าไหร่ ไม่ให้ข้าเข้าไป”
“ไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ไม่กล้าระดมทหารกว่าพันคนมาหรอก? ใครให้อำนาจกับเจ้ามากมายเช่นนี้กัน?” ซือถูเย้นผู้สุภาพอ่อนโยน ได้ถามขึ้นด้วยเสียงอันดัง
องค์รัชทายาทผู้ที่อืดอาดยืดยาด ก็ได้ยืนขึ้นก่อนจะพูดด้วยความโกรธเคืองทันใด “ไม่ใช่เพราะทหารพันกว่าคนหรอกใช่ไหม? ข้าเป็นถึงรัชทายาท ระดมทหารกว่าพันคนยังต้องได้รับการอนุญาตจากอ๋องซื่อเจิ้งอีกหรือ?”
ซือถูเย้นตะโกนออกไปเสียงดังว่า: “ซ่างซูฝ่ายทหารอยู่ไหน?”
ซ่างซูฝ่ายทหารรีบขานรับในทันใด “กระหม่อมอยู่พะยะคะ!”
“บอกองค์รัชทายาทไป การระดมทหารส่วนตัวเกินพันคน ต้องโดนลงโทษเช่นไร?”
ซ่างซูฝ่ายทหารรีบตอบกลับไปว่า :“รายงานต่อท่านอ๋อง หากไม่มีคำสั่งจากฝ่ายทหารหรือท่านอ๋องออกคำสั่ง ไม่มีอำนาจสั่งการทางด้านทหาร ระดมทหารกว่าพันนายโดยพลกาล มีโทษตายสถานเดียวพะยะคะ”
องค์รัชทายาทบันดาลโทสะเป็นฟืนเป็นไฟทันใด “ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาท เจ้ากล้าฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ?”
ซือถูเย้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า :“ไม่มีคำสั่งของฝ่ายทหาร ไม่มีคำสั่งจากข้า และก็ไม่มีอำนาจสั่งการทางด้านทหาร เจ้าระดมทหารเช่นนี้ไปทำไม? ข้าอยากจะรู้เสียจริง บางทีนายพล ณ ที่แห่งนี้ อาจจะสามารถอธิบายได้ ทหารที่องค์รัชทายาททำการระดมในครั้งนี้คือค่ายทหารไหน ผู้ใดเป็นผู้ปกครอง?”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ต่างก็พากันเข้าใจทำไมซือถูเย้นถึงไม่มีทางปล่อยทหารนับพัน เขาต้องการตัดแขนของเหลียงไถ้ฝู้ และสังหารรายพลนายหนึ่ง
เหลียงไถ้ฝู้จึงรีบก้าวขึ้นหน้า ก่อนจะพูดขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า: “ท่านอ๋อง การระดมทหารในครั้งนี้ขององค์รัชทายาท ก็เพื่อต้องการปกป้องอันตรายให้แก่ท่านอ๋องจริงๆพะยะคะ เป็นการจัดการแบบพิเศษ”
“คำสั่งทหารเทียบเท่าภูผา เจ้าจะบอกว่าเป็นการจัดการแบบพิเศษกับข้าอย่างนั้นหรือ ? ไถ้ฝูต้องกลับไปอ่านกฏระเบียบของแคว้นต้าโจวสักหน่อยแล้วกระมัง?” ซือถูเย้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ไถ้ฝู้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็มองไปทางซือถูเย้นก่อนพูดขึ้นว่า :“ท่านอ๋อง กฎระเบียนแคว้นต้าโจวมีเงือนไขในการระดมทหารอยู่ข้อหนึ่ง หากมีเหตุการณ์พิเศษ ทหารสามารถรับคำสั่งจากนายพลตามสถานการณ์จริงได้ โดยการระดมทหารขนาดเล็ก องค์เล็ก ๆที่ต่ำกว่า 5000 คน ในสถานการณ์ที่อันตราย ท่านอ๋องก็เคยพบเจอกับนักฆ่ามาก่อน และเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด องค์รัชทายาทเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านอ๋อง จึงได้นำเหตุการณ์นี้แจ้งตรงต่อนายพล เป้าหมายขององครักษ์ในตำหนักท่านอ๋อง นายพลพิจารณาตามสภาพเหตุการณ์จริง จึงได้ทำการเคลื่อนทัพมายังตำหนักท่านอ๋อง เพื่อรักษาปกป้องตำหนักท่านอ๋อง ไม่มีวินัยทหารออกแนวรบและไม่มีกฏระเบียนของการออกแนวรับ เพียงแต่พิจารณาผิดพลาด ลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีด้วยกระบองทหาร 50 ครั้งก็ถือว่าเป็นการลงโทษแล้วนะพะยะคะ ”
ซือถูเย้นถามซ่างซูฝ่ายทหารอีกครั้ง “หากเป็นดั่งที่ไถ้ฝู้พูด ก็สามารถระดมกำลังทหารได้อย่างนั้นหรือ?”
ซ่างซูฝ่ายทหารตอบกลับไปว่า: “รายงานท่านอ๋อง หากเป็นดั่งที่ไถ้ฝู้พุดไว้ สถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถยื่นคำร้องขอระดมทหารต่อฝ่ายทหารได้พะยะคะ ส่วนกลางจะส่งคนและองค์รัชทายาทไปยังค่ายทหารพร้อมกัน แต่ ฝ่ายทหารยังไม่ได้รับการยื่นคำร้องขององค์รัชทายาทแต่อย่างใดเลยพะยะคะ”
เซี่ยวโธ่จึงพูดขึ้นน้ำเสียงราบเรียบว่า “หนึ่งพันคน สามารถระดมหน่วยราชองครักษ์ประจำวังหลวงได้ ทำไมจะต้องระดมทหารด้วยละพะยะคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...