พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 113

ตอนที่ 113 คิดในใจ

ประโยคนี้เกือบทำให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยโกรธแทบตายเหตุใดนางถึงกล้าเช่นนี้กล้าขอร้องให้ตัวเองเข้าวังมาดูแลองค์รัชทายาทต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้นางไม่รู้จักอายบ้างเลยหรือแม้ว่าจะเป็นพระประสงค์ให้แต่งงานแต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้แต่งงาน ในสายตาของทุกคนนางยังเป็นคุณหนูของจวนเฉิงเสี้ยงบุตรสาวของตระกูลที่ร่ำรวยยังไม่ได้แต่งงานออกเรือนแถมยังเข้ามาอยู่ในวังกับองค์รัชทายาทจะให้คนมองอย่างไร

ราชวงศ์จะรับลูกสะใภ้ที่ไม่รู้จักอายเช่นนี้ได้อย่างไร

ฮองเฮาโกรธจนมือสั่นเทานางเงยหน้ามองเฉิงเสี้ยงเสี้ยด้วยสายตาเคียดแค้น “จวนเฉิงเสี้ยงนี่ช่างสั่งสอนดีจริงๆ”

พูดจบนางก็ออกไปด้วยท่าทางโมโห

ซือถูเย้นเห็นฮองเฮาออกไปแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เอาล่ะเวลานานพอสมควรแล้วทุกอย่างก็จบลงเพียงเท่านี้ล่ะ ทุกท่านก็กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ”

พูดจบเขาก็ยื่นมือไปทางหลีโม่ส่วนหลีโม่ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงยกมือไปวางไว้ในมือของเขาแล้วลุกขึ้นยืนทั้งสองคนเดินออกไปโดยการกระทำของพวกเขาอยู่ภายใต้การจ้องมองของเหล่าขุนนาง

นี่ยังดูเหมาะกว่าพระประสงค์เสียอีกวันนี้เป็นโอกาสที่เป็นทางการเช่นนี้อ๋องซื่อเจิ้งยังให้เสี้ยหลีโม่นั่งกับเขาและยังจูงมือเสี้ยหลีโม่เดินออกไปอีกการให้เกียรตินางขนาดนี้ก็เท่ากับแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เสี้ยหลีโม่จะเป็นพระชายาของอ๋องซื่อเจิ้งในอนาคต

การคาดการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่หลีโม่ต้องมาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งเดียวที่นางต้องการก็คือมีคนคอยอยู่ข้างๆ นาง บอกนางว่านางไม่ได้สู้อยู่คนเดียว

ถึงแม้ว่าหลังจากกลับมาถึงจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว นางจะต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่ดุราวกับสัตว์ร้ายคนเดียว แต่ก็เพราะความอบอุ่นนี้ มากพอที่ผลักดันความกล้าทั้งหมดที่มีของนางออกมาได้

หลังจากออกมาจากวังหลวง หลีโม่กลับพบว่าจังหวะการก้าวเดินของซือถูเย้นช้าลงเล็กน้อย นางตะลึงครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นมาประคอง ซือถูเย้นกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นเรื่อยๆ

“ท่านอ๋อง...” นางตกใจมาก ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?

ซือถูเย้นเช็ดรอยเลือดที่มุมปากออก พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “อย่ากระโตกกระตากไป ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอก “

เซียวโธ่เดินขึ้นมา แล้วพูดตำหนิว่า “ทั้งที่ท่านก็รู้ว่าท่านบาดเจ็บ ก็ไม่ควรใช้แรงไปฆ่าคน ถ้าท่านทำมากกว่านี้มันสามารถเอาชีวิตท่านได้เลยนะ”

ซือถูเย้นพูดด้วยอารมณ์ไม่ดี “พอแล้ว ข้ารู้ความเหมาะสมดี เจ้าให้เสี่ยวกูกูไปส่งหลีโม่ที่จวนเฉิงเสี้ยง และเจ้ากับซูชิงกลับจวนกับข้า

หลีโม่ถามขึ้นว่า “อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องไม่ต้องรีบรักษาหรือ?”

เซียวโธ่อธิบายว่า “เมื่อครู่เป็นเพราะออกแรงฆ่าคนจึงเป็นเช่นนี้ ส่วนเรื่องการฆ่าคนเป็นการสอนจากอาเซ๋อกูกูที่อยู่ข้างกายไท่ฮองไท่เฮา มันเรียกว่ายู่คงซาเหริน แต่มันก็ใช้ได้แค่ครั้งเดียว พอใช้หนึ่งครั้งแล้ว ก็ต้องรักษาตัวอีกครึ่งเดือนถึงจะฟื้นฟูพลังให้กลับมาเหมือนเดิม

ยู่คงซาเหริน? หลีโม่ประหลาดใจอยู่เล็กน้อย หรือว่าอาเซ๋อกูกูท่านนี้จะเป็นปีศาจงูในตำนาน?

ซูชิงเห็นหลีโม่ทำหน้าสงสัย จึงอธิบายแทนเซียวโธ่ว่า “วิชายู่คงซาเหรินนี้ ที่จริงแล้ว ก็คือการเอากำลังภายในทั้งหมดมารวมกันที่ปลายนิ้ว แต่ว่าจะต้องเรียนรู้วิธีแก้ปัญหา วิธีแก้ปัญหาก็คือปิดจุดฝังเข็ม มันก็เหมือนกับการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นพลังของเจ้าออกมา

หลังจากที่หลีโม่ได้ฟัง นางจึงผ่อนคลายลง เมื่อครู่นี้ยังคิดว่าเป็นวิชาที่ร้ายกาจมาก ที่แท้ก็เป็นการฝังเข็มเพื่อกระตุ้นพลังประเภทหนึ่งเท่านั้น

ซือถูเย้นให้ซือถูจิ้งไปส่งหลีโม่ที่จวนเฉิงเสี้ยง ในตอนที่อยู่บนรถม้า ซือถูจิ้งพูดฉอดๆ มาตลอดทาง “ข้าล่ะเกลียดพวกเจ้ายิ่งนัก พวกเจ้ามีชีวิตอยู่แท้ๆ กลับไม่บอกข้ากับเจ้าสามเลย ให้พวกข้าเป็นห่วงแทบแย่”

หลีโม่ยิ้มให้เซียวโธ่ “เดิมทีข้าคิดว่าเซียวโธ่แจ้งพวกเจ้าไปแล้ว ตอนนั้นอาการบาดเจ็บของท่านอ๋องหนักมาก ข้าเองก็ปลีกตัวออกมาจัดการเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ ทั้งหมดก็เลยเป็นเซียวโธ่กับซูชิงที่ไปจัดการ ทำให้องค์หญิงต้องทรงเป็นห่วง ข้าไม่ได้เจตนาจริงๆ องค์หญิงอย่าได้ทรงตำหนิข้าเลย”

ซือถูจิ้งรีบโบกมือปฏิเสธ “ข้าไม่โทษเจ้าหรอก ถ้าจะโทษก็โทษเซียวโธ่ทหารผู้นี้ ยังมีซูชิงอีกคน รู้ทั้งรู้ว่าข้ากับเจ้าสามกังวลขนาดไหน ก็ยังไม่บอกพวกข้า ข้าจะต้องคิดบัญชีกับพวกเขาแน่นอน”

หลีโม่คิดขึ้นมาได้ว่าพวกเขากลับตำหนักอ๋องซื่อเจิ้งไปแล้ว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นจะเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งนี้พอออกมาจากวังหลวงแล้วกลับไปที่ตำหนัก กลัวว่ามันจะไม่ราบรื่นอะไรขนาดนั้น อ๋องหนานหวยจะยอมเลิกราเช่นนี้หรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม