ตอนที่ 15 เหล้าพิษ
หลีโม่กลับเข้ามาในห้องก็เห็นซู่หยู้กำลังชงชา ส่วนหลี่ซื่อนั้นได้ขึ้นเตียงไปนอนแล้ว
ฤทธิ์ยาสลบยังไม่หมดเมื่อกี้นี้นางเองก็พยายามอดทนให้มันผ่านไป
“คุณหนูใหญ่นายหญิงหลับไปแล้วค่ะ” ซู่หยู้เห็นหลีโม่เข้ามา รู้สึกกลัวจึงได้ถอยไปอยู่ข้างๆ
“อืม” หลีโม่เดินออกไป แล้ววางโคมไฟไว้บนโต๊ะ จากนั้นพูดว่า “เจ้าออกมากับข้าหน่อย ตรงมุมกำแพงมีดอกกุหลาบขึ้นเจ้าช่วยไปเอาออกหน่อย”
“เจ้าค่ะ” ซู่หยู้ตอบรับอย่างเชื่อฟังแล้วออกไปพร้อมกับหลีโม่
ตรงมุมกำแพงมีต้นกุหลาบจริงๆด้วยตอนนี้กำลังผลิบานสวยงามเชียว หลีโม่พูดเสียงดังว่า “ซู่หยู้เจ้าขุดกุหลาบต้นนี้เสร็จแล้วก็เอาโคมไฟไปซ่อมกับข้าด้วยกัน”
ซู่หยู้รับคำ “ทราบแล้วค่ะคุณหนู”
หน้าประตูมีคนชะโงกหน้าเข้ามาดู หลีโม่เงยหน้าคนนั้นก็รีบหลบหลังกำแพงทันที
หลีโม่ยิ้มในใจยังอยู่จริงๆด้วย
ซู่หยู้ดึงต้นกุหลาบออกเสร็จก็ให้นางไปคอยดูแลรับใช้หลี่ซื่อ
ซู่หยู้พึ่งจะเข้าไปในห้องนอนก็รู้สึกเจ็บขึ้นที่ท้ายทอยนางหันกลับมามอง ตกใจที่เห็นเป็นหลีโม่ หลีโม่ทำหน้านิ่งแล้วขยับกำไลสะกดจิต ราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าออกไปทันใดนั้นซู่หยู้ก็ล้มลงกับพื้น
หลีโม่ถอดเสื้อผ้าของนางออก แล้วลากนางไปไว้ในมุมห้องข้างใน ใช้ผ้าผืนหนึ่งมาหุ้มห่อไว้เหลือช่องหนึ่งไว้ให้นางหายใจ จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าของนางแล้วเข้าไปในห้องเก็บของ
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลีโม่พา “ซู่หยู้” ออกมาในมือของซู่หยู้ถือของมากมายล้วนเป็นกล่องเก่าแล้วยังวางโคมไฟเอาไว้จนบังหน้าตาไปหมด
หน้าประตูมีสองคนเฝ้าอยู่จริงๆด้วย เห็นหลีโม่ออกมาทั้งสองก็แสร้งทำเป็นเดินผ่านมาจากนั้นก็แยกทางกัน
“รีบเดินหน่อย” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุ
“ซู่หยู้” เดินเซตามไป โชคดีที่สาวใช้ในจวนรักสวยรักงามกระโปรงที่ใหญ่และยาวนั่นบังขาที่ใหญ่ของเขาเอาไว้
หลีโม่ส่ง “ซู่หยู้”ออกประตูไปได้อย่างปลอดภัย คนเฝ้าประตูนั่งอยู่ข้างๆ เห็นหลีโม่ออกมาเขาก็รีบลุกขึ้น “คุณหนูใหญ่
หลีโม่มองดูเขา คนที่มีพระคุณกับนางถึงจะเล็กน้อยก็เถอะแต่นางจะจำเขาเอาไว้
“ซู่หยู้” เห็นว่ามีคนอยู่หน้าประตูเรียก ในใจก็ตื่นตระหนกกลัว เดินขาพันกันทำให้ของที่อยู่ในมือหล่น
บ่าวที่เฝ้าประตูก็รีบเข้ามาช่วยเก็บของเขาเห็น “ซู่หยู้” เขาอึ้งไปทันที
หลีโม่รีบเดินเข้ามา เก็บของที่หล่นแล้วให้ “ซู่หยู้” พร้อมกับบ่นว่า “เดินก็ไม่ระวังรับไป”
“ซู่หยู้” อุ้มของเอาไว้รับวิ่งตามไป
คนเฝ้าประตูเดินถอยออกมาก้าวหนึ่งสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
อาจจะเพราะว่ารู้สึกได้ว่าหลีโม่กำลังจ้องเขาอยู่ ทำให้เขารู้สึกกลัว “คุณหนูใหญ่ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
หลีโม่พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาว่า “ขอบคุณเจ้านะ”
คนเฝ้าประตูพูดขึ้นมาว่า “ข้าไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ”
“ข้าหมายถึงซาลาเปากับน้ำถ้วยนั้น” หลีโม่พูด
หลีโม่คิดในหัวเหล้าแก้วนี้คงต้องยกมามอบให้นางแน่ๆ และเหล้าแก้วนี้ก็คงเป็นเหล้าพิษสินะ
บ่าวในห้องนอกจากหลานหยู้กับชุ่ยยุ่นแล้วทุกคนก็ออกกันไปหมดแล้ว ประตูใหญ่ถูกปิดสนิทแม้กระทั่งแสงก็ยังลอกผ่านมาไม่ได้
สีหน้าของนายหญิงหลิงหลงค่อยผุดรอยยิ้มสะใจขึ้น แววตาก็เช่นกัน
นายหญิงแก่จ้องมองดูนางราวกับงูพิษแล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า “เมื่อสามวันก่อน เจ้าประกาศยกเลิกแต่งงานกับอ๋องเหลียง ฮองเฮาโกรธมากและอาจจะโกรธพวกเราทุกคนในจวนไปด้วย นี่คือความผิดที่เจ้าก่อเองก็ไม่ควรให้คนในจวนได้รับโทษไปพร้อมกับเจ้า ฮองเฮงจึงได้ประทานเหล้าพิษนี้มาให้เจ้า จวนเฉิงเสี้ยงจะประกาศว่าเจ้าป่วยและตายไปเอง เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเจ้า ไม่เช่นนั้นหากฮองเฮาโกรธและลงโทษมาวันนั้นคือวันที่หัวเจ้าขาด แม้กระทั่งศพก็คงไม่มี”
หลีโม่รู้ดีอยู่แก่ใจว่า ฮองเฮาจะไม่ลงโทษนางแบบนี้ เพราะฮองเฮาหาวิธีที่จะลงโทษนางเอาไว้แล้วนั่นคือให้นางแต่งงานกับอ๋องซื่อเจิ้ง ให้นางตายทั้งเป็น
นางมองไปทางเฉิงเสี้ยงเสี้ย พ่อของเจ้าของร่างแล้วถามขึ้นมาว่า “ท่านพ่อก็คิดเช่นนี้หรือ”
ไม่ว่านางจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่ในใจของเจ้าของร่างก็ยังคงหวังที่จะได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อ วันนี้จวนเฉิงเสี้ยงต้องการจะจัดการกับหลี่ซื่อและนางพร้อมกัน ความไม่ไยดีนี้ นางอยากรู้แค่ว่าในใจของเขาจะรู้สึกอย่างไร รู้สึกผิดหรือละอายใจบ้างไหม
เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองดูนางด้วยสายตาที่เกลียดและรังเกียจ ยกเลิกงานแต่งเท่ากับทำลายหน้าตาของเขายังจะไปขัดใจฮองเฮาและอ๋องเหลียงอีก นี่เท่ากับขัดขวางความก้าวหน้าของเขา
“เจ้ารนหาที่เองก็สมควรตายแล้ว” เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดจบก็หันหน้าหนี แม้กระทั่งมองก็ยังไม่อยากมองดูนาง
หลีโม่ยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “รนหาที่หรอพูดได้ดี”
นายหญิงหลิงหลงยืนขึ้น สะบันชายกระโปรงแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง ยื่นมือมาหยิบแก้วเหล้าแล้วส่งให้หลีโม่ ถอนหายใจเบาๆ “เป็นแม่รองของเจ้า ข้าก็ดูเจ้าโตมา ทนเห็นเจ้าต้องตกอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้จริงๆ ขัดใขอ๋องเหลียงแล้วยังขัดใจฮองเฮาอีก คงมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้แน่ งั้นก็ฆ่าตัวตายก่อนเผื่อจะได้ตายครบศพ”
หลีโม่ไม่ได้มองนาง แต่ยังคงจ้องมองดูไปทางเฉิงเสี้ยงเสี้ย “เฉินเอ้อก็คงเป็นคนพวกท่านที่วางแผนเอาไว้สินะ จะได้สามารถป่าวประกาศได้ว่านางคบชู้ แล้วหนังสือหย่าฉบับนั้นที่ถูกเปิดโปงขึ้นมาในวันงานแต่งก็จะได้รับคำอธิบาย ดูถ้าแล้วที่ข้ายกเลิกงานแต่งกับคำพูดพวกนั้นที่พูดต่อหน้าผู้คนมากมายคงไม่มีประโยชน์ แต่กลับทำให้พวกท่านฉวยโอกาสนี้มาบอกว่านางมีชู้”
นายหญิงแก่โกรธจัด “เจ้าจะพูดอะไรอีกมันก็ช่วยชีวิตเจ้าไม่ได้หรอกเจ้ารนหาที่เอง หากเจ้าเชื่อฟังแล้วขึ้นเกี้ยวของอ๋องเหลียงไปแต่โดยดี ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรอก อย่าได้คิดที่จะเอาความฉลาดอันน้อยนิดของเจ้ามาต่อกรกับคนทั้งตระกูล อย่าได้มองตนเองสูงเกินไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...