ตอนที่ 16 อ๋องเหลียงเกิดอาการชัก
ใบหน้าที่ขาวเผือกของหลีโม่ผุดรอยยิ้มขึ้น จ้องมองไปที่นายหญิงแก่ “มีวิธีอะไรบ้าง ข้าบุตรสาวคนโตของจวนเฉิงเสี้ยง ก็ควรเอาความฉลาดอันน้อยที่มีนี้มาสู้กับความโชคร้ายของตนเอง และความโชคร้ายนี้ก็เป็นญาติสนิทที่เป็นคนนำมันมาให้ข้า”
เสี้ยโล่เย่วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เจ้าอย่าได้มาโกรธแค้นใครเลย อยู่ในจวนนี้เจ้าก็ได้รับความสะดวกสบายมาตลอดสิบหกปีแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจ้ายกเลิกงานแต่งก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรอก”
หลีโม่มองไปที่นางแล้วพูดว่า “ใช่หรือ สิบหกปีที่สะดวกสบายไม่ใช่พวกเจ้าสองแม่ลูกด่าทอตบตีทำร้ายข้าหรอกหรือ”
นี่เป็นคำกล่าวหาที่ดูแรงมากแต่ทุกคนกลับเงียบแม้กระทั่งผู้เป็นพ่อของนางก็ได้แต่มองนางด้วยสายตาที่รังเกียจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนายหญิงแก่เลย
เสี้ยโล่เยว่พูดขึ้นว่า “ไม่ได้มีใครข่มเหงเจ้ามีแต่เจ้าที่ไม่รู้จักบุญคุณท่านแม่ไม่ดีกับเจ้างั้นหรือ เจ้ากินอิ่มนอนอุ่นยังไม่พอใจอีกหรือ”
“พอใจ พูดได้ดีมีบ้านแบบนี้เสี้ยหลีโม่ยอมรับชะตากรรม” หลีโม่ไม่ได้พูดถึงสิ่งอื่นใดเลย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่นางพูดออกมา
นางยื่นมือมารับแก้วเหล้าจากมือของนายหญิงหลิงหลง เหล้าพิษที่ใสราวกับน้ำ นอกจากที่นางจะเรียนแพทย์แผนจีนกับอาจารย์หยางแล้ว นางยังเคยช่วยนักฆ่ามือหนึ่งระดับนานาชาติวิจัยพิษของตัวต่อพิษ ดังนั้นแค่เห็นนางก็รู้ได้เลยว่านี่คือเหล้าพิษ ฤทธิ์ของพิษร้ายแรงมาก แค่เข้าปากก็สามารถทำให้ตายได้
กำไลสะกดจิตมีความสามารถอยู่อย่างหนึ่งคือ สามารถช่วยละลายฤทธิ์ของยาพิษได้ แต่ก็ละลายได้แค่ครึ่งเดียวไม่สามารถละลายให้หายไปได้ทั้งหมด ดังนั้นหากนางดื่มเข้าไปนางก็ยังคงต้องถูกพิษ เพียงแต่ว่าไม่ถึงชีวิตแค่นั้นเอง
ในวังหลวง
ตั้งแต่จากที่อ๋องเหลียงล้มป่วย บวกกับที่ถูกหลีโม่ยกเลิกงานแต่ง ทำให้เขาอับอายขายหน้ามาก เขาจึงได้อยู่ในวังหลวงตลอดไม่ได้กลับไปยังตำหนักของตนเอง
พักผ่อนมาสามวันอาการป่วยก็ดีขึ้น สองวันก่อนยังปวดหัวแต่หลังจากที่กินยาของหมอหลวงไปก็ค่อยๆดีขึ้นผ่านไปสามวันแล้วอาการปวดหัวก็เบาลงแล้วเพียงแต่ตอนเดินยังคงรู้สึกเวียนหัว
ฮองเฮาเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงได้ชวนเขาไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้
เขาเดินเป๋ไปทีละก้าวทีละก้าวในสวนดอกไม้ด้วยความอารมณ์เสีย
น่าอับอายยิ่งนักขนาดผู้หญิงอย่างเสี้ยหลีโม่ยังไม่ชอบเขา แค่คิดก็รู้แล้วว่าเขามันไม่มีน้ำยา
“เฮ่าเอ๋อร์อย่าคิดมาก เสี้ยหลีโม่คนนี้ไม่คู่ควรกับเจ้าหรอก ข้าจะหาบุตรสาวของตระกูลที่สูงส่งมาแต่งกับเจ้าเอง”
“เสด็จแม่” อ๋องเหลียงก้มมองต่ำแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “อย่าได้หาอีกเลยไม่ว่าใครข้าก็ไม่แต่งทั้งนั้น”
ฮองเฮารู้สึกโกรธเสี้ยหลีโม่ยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะนางยกเลิกงานแต่ง ลูกชายของนางก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรอก
นางเสียดายที่ไม่ได้ฆ่าเสี้ยหลีโม่ แต่ยกนางให้ซือถูเย้นก็เป็นเรื่องที่ดี ซือถูเย้นที่เลวทรามก็คงจะจัดการนางเอง
และคำพูดไร้สาระที่นางพูดในวันนั้นที่เกี่ยวกับการฝังเข็ม หลังจากที่เกิดเรื่องนางก็ไปคุยกับหมอหลวงมาการฝังเข็มนี้มีน้อยคนนักที่จะมีฝีมือสูงส่ง ขนาดหมอหลวงที่สามารถฝังเข็มได้ก็มีไม่มาก
ส่วนที่นางพูดว่า สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด นั่นมันแย่มาก
ฮองเฮาโกรธจนกัดริมฝีปากแน่เมื่อนึกถึงตอนที่เกือบจะเชื่อเสี้ยหลีโม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...