พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 165

ตอนที่ 165 เก็บอั่งเปาเจ้าไว้ให้ดี

เมื่อซือถูเย้นพูดมาเช่นนี้ คนในงานล้วนตกใจ ยกเว้นอ๋องหลี่ชิน

แม้กระทั่งหลีโม่ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะจัดการเช่นนี้

สีหน้าซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยแย่ลงยิ่งกว่าเดิม โกรธแค้นจนต้องกัดฟัน

อยู่ดีๆก็มอบตำแหน่งเสี้ยนจู่ให้ง่ายๆ ช่างไร้สาระสิ้นดี ต้องรู้ว่า ตำแหน่งเสี้ยนจู่กับก้าวหมิ้งฮูหยินนั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ก้าวหมิ้งฮูหยินจะมีศักดิ์ขั้นที่1 แต่ก็ไม่มีอำนาจใดๆ มีแค่ยศในนามเท่านั้น และยังไม่มีศักดินาและของกำนัลใดๆเลย

แต่เสี้ยนจู่นั้นไม่เหมือนกัน เสี้ยนจู่แห่งแคว้นต้าโจว กว่าครึ่งต้องเป็นลูกสาวของราชนิกุลใหญ่ๆถึงจะได้รับตำแหน่งนี้ แต่ก็มีบ้างที่ลูกสาวขุนนางจะได้รับตำแหน่ง แต่ก็จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าคนอื่น หรือเป็นคนที่มีคุณูปการแก่ราษฎรและราชสำนัก จึงจะได้รับตำแหน่งนี้ เป็นพิเศษ

หรืออีกอย่าง ต้องไปแต่งงานปรองดองกับแคว้นอื่น ถึงจะได้รับตำแหน่ง องค์หญิง จวิ้นจู่ และเสี้ยนจู่

ถึงแม้หลี่ชื่อจะมีชื่อเสียงมาก แต่ได้แต่งงานออกมานาน เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง อย่างน้อยก็จะมีคนรับไม่ได้

ถึงแม้ กฏมณเฑียรบาลและกฎหมายก็ไม่ได้บอกว่าคนที่แต่งงานไปแล้วจะไม่สามารถรับตำแหน่งเสี้ยนจู่ได้

สรุปว่า ซือถูเย้นอยากจะดูแลหลี่ชื่อ เลื่อนตำแหน่งหลี่ชื่อ

เพียงแต่ ถ้าหากอ๋องซื่อเจิ้งอยากจะดูแลหลี่ชื่อ ทำไมถึงไม่เลื่อนตำแหน่งให้เสี้ยหลีโม่เป็นเสี้ยนจู่เองเสียเลย? เหตุใดต้องให้หลี่ชื่อเป็น?

และอีกอย่าง นั่นก็คือที่ดินหลังจวนเฉิงเสี้ยงผืนนั้น ถ้าพระราชทานให้หลี่ชื่อ จะไม่ทำให้จวนเฉิงเสี้ยงเป็นของหลี่ชื่อครึ่งนึงหรอกหรือ?

นี่มันสามารถทำให้นายหญิงแก่และเสี้ยเฉิงเสี้ยงโกรธเป็นฟืนไฟได้เลย

และก็จริง นายหญิงแก่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านอ๋อง ที่ดินหลังสวนดอกไม้นั่น ข้าได้คืนให้กับพวกชาวบ้านไปแล้ว ไม่มีติดค้างแม้แต่แดงเดียว ท่านอ๋องจะเวนคืนง่ายๆได้เช่นไร?”

ซือถูเย้นสงสัย “ชดใช้แล้วหรือ? ทำไมข้าถึงได้รับฎีการ้องเรียนจ้างชาวบ้านอยู่บ่อยๆ บอกว่าจวนเฉิงเสี้ยงชดใช้ค่าเสียหายไม่เหมาะสม ข้าเคยอ่านฎีกา จิงจ้าวหยิ่น เป็นคนยื่นเรื่องมา บอกว่าที่ดิน10กว่าไร่นั้น นายหญิงแก่ชดใช้เพียงแค่50ตำลึงเงิน”

องค์รัชทายาทรีบพูดขึ้น “ท่านอา จิงจ้าวหยิ่นไม่ได้เป็นคนเขียนฎีกาเช่นนี้แน่”

จิงจ้าวหยิ่น เป็นคนของเหลียงไท่ฝู้ และเป็นพวกขององค์รัชทายาท จะมายุ่งเกี่ยวกับเฉิงเสี้ยงได้เช่นไร?

“องค์รัชทายาทโปรดระวังคำพูด ” เหลียงไท้ฝู้รู้ดีอยู่แล้วว่าซือถูเย้นนั้นแกล้งโง่ เขาเป็นไม่ยอมลงมาสุงสิงกับใคร วันนี้ที่มางานแต่ง ต้องมีแผนการแต่แรกแล้ว

องค์รัชทายาทก็ยังคงไม่รู้เรื่อง มองไปที่ไท่ฝู้อย่าง งงๆ คิดว่าไท่ฝู้ยังไม่เข้าใจความหมายที่ซือถูเย้นพูด ก็เลยพูดเตือนว่า “ไท่ฝู้ ท่านอาน่าจะมองผิดไป ต้องบอกให้ท่านเข้าใจใหม่ ฎีกาทั้งหมดต้องผ่านจงซูเสิ่งถึงจะถูกส่งมายังห้องหนังสือของอ๋องซื่อเจิ้ง เจ้าเป็นจงซุลิ่ง เจ้าเคยเห็นฎ๊กาเล่มนั้นมั้ย?”

เหลี้ยงไท่ฝู้รู้สึกอ่อนใจ องค์รัชทายาทช่างโง่เขลาเสียจริง เขาบอกแต่แรกแล้วว่าไม่มีทางมีฎีกาฉบับนั้น แล้วก็บอกว่าฎีกาทั้งหมดจะต้องผ่านจงซูลิ่งขึ้นมา จะไม่เป็นการบอกแก่ทุกคนหรือว่า ถ้ามีฎีกาฟ้องร้อง ที่เกี่ยวข้องกับพวกของรัชทายาทและพระญาติ เขาจะดึงฎีกานั้นออกหรือ?

เขาปรับสีหน้าให้ปกติ แล้วพูดว่า “ถ้ามีส่วนร่วมในการร่างฎีกานี้ ข้าก็ต้องมาตรวจสอบก่อนที่จะยื่นต่ออ๋องซื่อเจิ้ง ”

นายหญิงแก่พูดแทรกขึ้นมา “ ท่านอ๋องพระราชทานยศสะใภ้ข้าเป็นเสี้ยนจู่ ข้ารู้สึกภูมิใจมาก แต่ขอบพระคุณพระกรุณาของท่านอ๋อง แต่ทว่า ข้าคิดว่าจวนเฉิงเสี้ยงไม่สามารถรับไว้ได้ ถ้าจะพระราชทานตำแหน่งเสี้ยนจู่ ก็ต้องมีคุณูปการแก่ราชสำนักเสียก่อน หรือมีอะไรที่โดดเด่น ข้าคิดว่า ถึงแม้ซ่วยหยุ่นจะมีความสามารถพิเศษ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ทั้งยังไม่มีคุณูปการแก่ราชสำนัก วันนี้อ๋องหลี่ชินอยู่ ณ ที่นี้ ข้าคิดว่าจวนเฉิงเสี้ยงรับพระราชกรุณานี้ไว้ไม่ได้”

คำพูดของนายหญิงแก่ ทำให้ผู้อาวุโสในตระกูลไม่พอใจนัก ตระกูลเสี้ยมีคนได้ตำแหน่งเสี้ยนจู่ นั้นเป็นความภูมิใจมาก แต่นางกลับปฏิเสธไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม