พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 171

ตอนที่ 171 เสี่ยวซือฟื้นขึ้นมา

เมื่อทุกคนได้ฟังดังนี้ ล้วนต่างก็ตกใจกันหมด

ซือถูเย้นพูดกับหลีโม่ว่า “ยังไม่รีบเข้าไปช่วยคน?”

หลีโม่มองอ๋องหลี่ชินด้วยแววตาประหลาดใจ ช็อก?

ถ้าความทรงจำของนางไม่ได้รับผลกระทบ เมื่อกี้เขาพูดคำว่าช็อก

ช็อก ไม่น่าใช่ศัพท์แพทย์แผนจีน

อีกอย่าง เมื่อกี้ที่เขาวิเคราะห์จำพวกตำแหน่งต่างๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เมื่อคำพวกนี้ออกมาจากปากของท่านอ๋องยุคโบราณ

แต่ นางก็รู้สึกว่าการคาดเดาของนางช่างไร้สาระ

ตอนนี้ ก็ไม่เวลาที่จะมานั่งคิดเรื่องพวกนี้

ภายใต้สายตาผู้คนมากมาย หลีโม่เปิดประตูเข้าไปดึงปิ่นที่ปักอกเสี่ยวซือออก เมื่อปิ่นถูกดึงออกมาแล้ว เลือดพุ่งไหลออกมา หลีโม่ได้เตรียมผ้าที่ใช้ห้ามเลือดไว้อยู่ก่อนแล้ว

บาดแผลไม่ใหญ่ แล้วตำแหน่งไม่ได้ตรงกับหัวใจ ทำให้เห็นได้ชัดว่า ผู้ร้ายนอกจากไม่มีความรู้ทั่วไปแล้ว ยังเป็นคนที่ไม่มีฝีมือการต่อสู้ด้วย เพราะปิ่นไม่ปักถึงกระดูก แค่ผ่านผิวหนังเท่านั้น

สิงปู้ซั่งซูมาตรวจดูด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เป็นการกีดขวางการรักษาของหลีโม่

ก่อนหน้านี้หลีโม่ได้ใช้กระแสไฟกระตุ้นเขา ทำให้เขาตื่นจากอาการช็อก แต่ได้ฝังเข็มไว้ตรงจุดซี้ฮู้ หยูนเหมิน จงฟู่ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ แม้ตากะพริบตาก็ไม่ได้ แต่เขามีความรู้สึก ได้ยินคำพูดของทุกคน

ตอนนี้หลีโม่กำลังฝังเข็มให้เขา เมื่อฝังเข็มไล่เลือดลมอีกรอบแล้ว หลีโม่พูดขึ้นว่า “สักพักเขาก็จะตื่นขึ้นมา”

ในขณะเดียวกัน สิงปู้ซั่งซูก็ตรวจเสร็จเรียบร้อย แล้วพูดขึ้นว่า “เขามีร่องรอยการต่อสู้ เล็บมีร่องรอยขูดกับหิน เท้าทั้งคู่กระทืบพื้น ทุกคนสามารถสังเกตดูเล็บมือเขากับปลายส้นรองเท้า ล้วนมีร่องรอยของแรงเสียดทาน”

ทุกคนหันไปมอง เห็นเล็บของเขามีรอยแตกร้าว อีกสองสามนิ้วยังมีรอยเลือด ปลายรองเท้ากับส้นส้นรองเท้ามีรอยเสียดทานจนหลุดขาด น่าจะเป็นเพราะกระทืบพื้นหรืออาจเป็นเพราะเกิดจากการใช้เท้ายันหินไว้

นั่นก็หมายความว่า มีคนบีบคอเขา

ซีเหมินเสี่ยวชิ่งสีหน้าซีดเซียว เขาค่อยๆถอยตัวออกห่างฝูงคน หวังจะหนีออกไปเงียบๆ

แต่เฉินหลิ่วหลิ่วจับคอเสื้อเขาไว้ “ถ้ากล้าหนี ข้าจะจับขาเจ้าไขว้หัวไว้”

ฮูหยินรองของตระกูลซีเหมินเหลียงซือเห็นลูกชายโดนเฉินหลิ่วหลิ่วจับไว้ ก็ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความใจร้อนว่า “เจ้าคนเถื่อน ปล่อยเขานะ ถ้ากล้าทำร้ายเขา ข้าจะเอาชีวิตเจ้า

และแล้ว ดั่งทหารสวรรค์มาโปรด มีชายแต่งชุดเหมือนกันสิบสองคนยืนเรียงอยู่ตรงหน้าเหลียงซือ เหมือนดั่งม่านบัง กีดขวางจนเหลียงซือต้องก้าวถอยหลัง

สีหน้าแต่ล่ะคนฉายแววเหี้ยมโหด เหลียงซื่อก็เป็นคนเหี้ยมโหด จึงไม่ได้เกรงกลัว ตะโกนบอกเหล่าไท่จูนว่า “เฉินไท่จูน เจ้าดูคนตระกูลเฉินของเจ้าสิ อยากจะกินคนหรือ?”

เหล่าไท่เฉินนั่งเฉย ไม่แม้แต่จะชายหางตา สูบบุหรี่แล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้ามีความตั้งใจที่จะฆ่าหลานสาวของข้า พวกเขาจะกินเจ้าแล้วมันแปลกตรงไหน? อย่าว่าแต่พวกเขา แม้ตัวข้าเองยังอยากกัดสักคำ”

เป็นดั่งที่ซือถูเย้นกล่าวไว้ เฉินหลิ่วหลิ่วเป็นคนโปรดของคนในตระกูลเฉิน เป็นที่รักยิ่งของเหล่าไท่จูน จะยอมให้ใครมาคิดร้ายได้อย่างไร?

เหลียงซือโกรธจัด “เจ้าลำเอียง”

“ปกติคนตระกูลเฉินก็ลำเอียงอยู่แล้ว เจ้าเพิ่งรู้วันนี้หรือ?” เหล่าไท่จูนจ้องมองเล็กน้อย ผมสีเงินแพรวพราวไต้แสงอาทิตย์ ปลายนิ้วเคาะที่เขี่ยบุหรี่เบาๆ บอกไม่ถูกว่านักเลงแค่ไหน

“ท่านอ๋อง ปกติท่านเป็นคนเห็นความสำคัญของกฎธรรมเนียมปฏิบัติ หรือแม้แต่เจ้าก็จะไม่สนใจ?” เหลียงซือโดนสองพี่น้องตระกูลเฉินบีบจนต้องถอยหลัง จึงเรียกว่าอ๋องหลี่ชินอย่างรีบร้อน

อ๋องหลี่ชินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “สนใจอะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม