ตอนที่ 172 ความจริงกระจ่าง
เมื่อซือถูเย้นได้ฟังคำพูดของนายหญิงแก่ จึงหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “โห้ ที่แท้นายหญิงแก่สิที่เป็นคนเข้าใจทุกอย่าง?”
นายหญิงแก่ถือว่าตัวเองได้ทำถึงที่สุดแล้ว จึงทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของซือถูเย้น ดวงตากลมโตจ้องเขม็งเสี่ยวซือกุ้ยหยวน หนังหน้ากระตุก ดูดุร้ายยิ่งนัก “พูด ใช่แบบนี้ไหม?”
กุ้ยหยวนตกใจจนริมฝีปากสั่นเทา ทุกคนล้วนรอคำตอบของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ต่อให้เขาตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ ก็ไม่สามารถลบล้างความสนิทสนมระหว่างหลีโม่กับซีเหมินเสี่ยวชิ่ง
ภายใต้การจ้องมองของสายตาทุกคน กุ้ยหยวนพูดออกมา เพราะความหวาดกลัวทำให้น้ำเสียงเปลี่ยนไป “เรียนไต้เท้า เรียนนายหญิงแก่ บ่าวไม่ได้ยินอะไรเลย บ่าวเป็นแค่เหมินฝัง งานเลี้ยงแต่งงานในคืนนี้ ก่วนเจียย้ายบ่าวมาดูแลแขก เมื่อองค์ชายซีเหมินมาถึง ได้สั่งให้บ่าวไปช่วยขนของที่หลังสวน บ่าวเห็นว่าองค์ชานซีเหมินเป็นแขกของจวนเฉิงเสี้ยง จึงตามเขาไป เมื่อถึงหลังสวน องค์ชายกลับไม่เข้าไป เขาอ้อมทะเลสาบขึ้นไปยังภูเขาเทียม เมื่อถึงภูเขาเทียม องค์ชายซีเหมินก็บีบคอบ่าว.....”
กุ้ยหยวนไม่อยากที่จะเล่าต่อ น้ำเสียงสั่นอย่างรุนแรง เมื่อตอนที่อยู่บนภูเขาเทียม เขาคิดว่าตัวเองต้องตายแล้วจริงๆ
ร่างกายเขาค่อนข้างอ่อนแอ ไม่สามารถต้านทานได้ เมื่อตอนที่โดนบีบคอ เขาดิ้นรนได้แค่แปบเดียว แล้วก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้
แต่ เขาก็รู้ว่า ต่อให้ตอนนั้นสามารถเอาตัวรอดได้ เขาก็จะต้องตายอยู่ดี ในฐานะบ่าว ชีวิตนั้นไร้ค่ายิ่งนัก
คำให้การของเขา ช่วยทำให้หลีโม่หลุดพ้นจากข้อกล่าวหา ยิ่งไม่มีคนสงสัยว่านางกับซีเหมินเสี่ยวชิ่งแอบคบหากันอีก
“งั้น เป็นเขาที่ใช้ปิ่นปักอกเจ้าหรือ?” สิงปู้ซั่งซูถามขึ้น
“บ่าวไม่รู้ ตอนนั้นบ่าวสลบไปแล้ว” กุ้ยหยวนตอบ
นายยิ่งแก่ตัวสั่นเทา ปากก็พึมพำไม่หยุด ดูแล้วผิดปกติพอๆกับกุ้ยหยวน
กุ้ยหยวนสั่นเพราะความหวาดกลัว นางก็กลัว แต่ความโกรธมีมากกว่า
เรื่องในวันนี้ นางไม่รู้เรื่องเลย หากล่วงรู้ความใน นางจักต้องห้าม นี่มันใช่แผนการที่ฉลาดตรงไหนกัน? ทิ้งร่องรอยมีพิรุธมากมาย แค่ฆ่าคนตายยังไม่มีปัญญา ยังคิดจะลากเสี้ยหลีโม่ไปเกี่ยวข้อง? ช่างโง่เขลายิ่งนัก
เสี้ยโล่เยว่กลับวิ่งเข้ามา ชี้หน้ากุ้ยหยวนแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าโกหก ปิ่นนี้เป็นของเสี้ยหลีโม่แท้ๆ เจ้ากลับปกป้องนาง เจ้ากลัวว่านางจะกลับมาแก้แค้นใช่ไหม ข้าขอรับรองว่า เพียงแค่เจ้าพูดความจริงออกมา ข้าจักดูแลให้เจ้าปลอดภัย”
ความนี้มีความหมายแฝง ซึ่งอยากเตือนกุ้ยหยวน หากเจ้าชี้ว่าเป็นเสี้ยหลีโม่อย่างว่าง่าย เจ้าก็จะปลอดภัย ไม่อย่างนั้น.....
แต่ หลังจากที่กุ้ยหยวนได้พูดทุกอย่างออกมาหมดแล้ว เขากลับรู้สึกสงบ
ได้ผ่านประสบการณ์ความตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ยังจะกลัวอะไรอีก? ชีวิตนี้คุณหนูใหญ่ให้มา มากสุดก็แค่ตายอีกครั้ง
เสี้ยหลีโม่มองดูเสี้ยโล่เยว่ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ความจริง? อะไรคือความจริง? เป็นฉันที่สั่งให้ซีเหมินเสี่ยวชิ่งทำร้ายเขา แล้วตั้งใจให้เขาเหลือลมหายใจสุดท้าย รอให้เขาฟื้นขึ้นมาใส่ร้ายคู่รักของข้า แล้วแต่งงานกับท่านอ๋องเป็นพระพระสนมอ๋องซือเจิ้งอย่างราบรื่นหรือ? หากนี่เป็นความจริงที่พวกเจ้าต้องการ มีความสุขเช่นนั้นก็พอ จะบีบคั้นเสี่ยวซือทำไม?”
เสี้ยโล่เยว่พูดไม่ออก แต่ก็ชี้ไปยังปิ่นแล้วพูดว่า “งั้นปิ่นนี้หมายความว่ายัง? นอกจากที่องค์ชายซีเหมินบีบคอเขาแล้ว หลังจากนั้นเมื่อเขาสลบเจ้าก็ใช้ปิ่นทำร้ายเขา เพื่อหวังจะฆ่าเขาให้ตาย”
เสี้ยหลีโม่หัวเราะ “ก่อนอื่น ลานเสี้ยจื้อของข้าวันนี้ไม่มีคน ใครคิดจะเข้าไปเอาของของข้าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายมาก อีกอย่าง......”
นางมองไปยังอ๋องหลี่ชิน “ท่านอ๋อง วันนี้ท่านมองปิ่นข้าอยู่ตลอด ขอเรียนถามท่านว่า ใช่อันนี้ไหม?”
ใบหน้าหล่อเหลาของอ๋องหลี่ชินครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ เป็นปิ่นกระเบื้องสีเงินไม่รู้ว่าเป็นปิ่นบ้าอะไร กระเบื้องที่หลุดตกลงมา ทำให้ข้าเห็นแล้วไม่สบายตายิ่งนัก กระเบื้องบนปิ่นของเจ้าที่ตกลงมานั้นคืออะไรกัน? ข้าอุตส่าห์ลืมมันไปแล้ว คราวนี้ให้ข้าจำมันขึ้นมาอีก หงุดหงิดใจนักเชียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...