ตอนที่ 187 ใครวางเพลิง
ไฟที่แผดเผาอยู่ภายในห้องใหม่ได้มอดดับลงแล้ว ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยที่สิ้นไร้ไม้ต่อปล่อยให้นางในประครองร่างออกมายืนอยู่ด้านนอก เพื่อรอให้คนมาหามนางไปรักษาตัวในจวนแห่งอื่น
ทั้งสามคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ ถึงจะไม่หนักหนามากนัก แต่ก็ดูน่าเวทนาเหลือคณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมของซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยที่ถูกเผาไปมากทีเดียว คิ้วก็ไร้ซึ่งขน ใบหน้าครึ่งหนึ่งก็กลายเป็นสีแดง เห็นแล้วช่างน่าสงสารยากที่จะพรรณนาออกมาได้
เฉิงเสี้ยงเสี้ยมีรับสั่งให้ตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ด้วยอารมณ์โทสะทันที
ถึงแม้ว่าถังน้ำมันที่อยู่หน้าประตูจะถูกเผาไปแล้วก็ตาม แต่ถังน้ำมันนี้มีคุณสมบัติเป็นโลหะ หลังจากถูกเผา มันจึงยังคงอยู่
“เฉิงเสี้ยง มีคนตั้งใจวางเพลิงจริงๆพ่ะย่ะค่ะ” ข้าหลวงขึ้นนางรายงานเบื้องบน
“เปินเซียงรู้ว่ามีคนวางเพลิง จึงให้เจ้าไปทำการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้วางเพลิง”เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยที่มีโฉมหน้างดงามดุจดอกไม้ที่ในเวลานี้ได้ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเช่นนี้ จึงอดระเบิดอารมณ์โทสะออกมาไม่ได้
ฉวินเฉิงซือเดินเข้ามา จากนั้นก็ทำการตรวจสอบเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เฉิงเสี้ยง ดูจากวันนี้แล้วทั้งสองฝั่งล้วนมีคนวางเพลิงพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้กระหม่อมได้ให้สำนักงานตำรวจและสิงปู้ไปทำการตรวจสอบอย่างเป็นทางการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินคำนี้ ก็ตื่นตกใจทันใด แววตาฉายอาการลุกลี้ลุกลนอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ตำหนักรองน่าจะเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ทั้งสองแห่งเกิดเพลิงไหม้ไม่น่าจะจะสับสนได้นะ”
ฉวินเฉิงซือส่ายหน้า “ไม่ เฉิงเสี้ยง ถึงแม้ว่าด้านนั้นจะยังไม่พบเงื่อนงำอะไรในระยะเวลาสั้นๆก็ตาม แต่เวลาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ทั้งสองด้านต่างกันไม่นานนัก อีกทั้งร่องรอยของการวางเพลิงด้านนี้ก็ชัดเจน อาจจะเป็นกลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมก็เป็นได้ คนวางเพลิงอย่างแท้จริงคือหมอเสี้ย ไม่ใช่ตระกูลเฉินของตำหนักข้างพ่ะย่ะค่ะ”
กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม จะต้องเตรียมการและบุกโจมตีในจุดที่ศัตรูต่างคาดไม่ถึง
ถึงอย่างไรคนที่ตายอยู่ในกองเพลิงนี้ก็มีเพียงแค่ผู้ดูแลตำหนักคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครอยากประทุษร้ายต่อผู้ดูแลตำหนักหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันอภิเษกสมรสของเฉิงเสี้ยง
ใบหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยกลัดกลุ้มมาก ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมคนวางเพลิงถึงทิ้งถังน้ำมันไว้ เพราะตั้งใจจะทิ้งเงื่อนงำบางอย่างเอาไว้ เพื่อแจ้งให้แก่ทุกคนทราบ เพลิงไหม้ในวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตั้งใจวางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ
ที่นี่มีร่องรอยของการวางเพลิง ย่อมต้องมอบหมายให้สำนักตำรวจเข้าไปตรวจสอบ หากมอบหมายให้สำนักตำรวจแล้ว ย่อมต้องประติประต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ได้อย่างแน่นอน เพลิงไหม้ทั้งสองด้านต้องบีบด้วยการตรวจสอบ ถึงตอนนั้น เรื่องมากมายล้วนปิดไม่อยู่แล้ว
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเสี้ยหลีโม่นี่รอดออกมาได้อย่างไร เสี้ยฉวนสิ้นชีวาอยู่ภายใน อีกทั้ง นางบอกว่าเหลียงซื่อก็ยังรอดออกมาด้วย ถึงนางจะหนีรอดออกมาได้แค่ผู้เดียว แล้วเหลียงซื่อละ? หรือว่านางพาเหลียงซื่อหนีรอดออกมาด้วย? นางไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่รู้ว่าเหลียงซื่อเป็นตัวการปั้นเรื่องใส่ร้ายนางเมื่อเที่ยงวันนี้?
ในตอนที่ซือถูเย้นและคนอื่นๆมาถึง ไฟในห้องใหม่ก็มอดดับลงแล้ว ฉวินเฉิงซือรุดขึ้นหน้ารายงานสถานการณ์ที่เจอถังน้ำมัน ว่าเป็นการจงใจวางเพลิง
ซือถูเย้นชำเลืองมองไปทางหลีโม่ด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นการวางเพลิง งั้นเจ้าก็ไปจัดการตามความหมายของเจ้า ตรวจสอบให้ดี ข้าเฉิงเสี้ยงแห่งราชวงศ์ต้าโจวจะต้องตามตัวคนชั่วมารับโทษให้จงได้”
ในตอนที่เขาบอกว่าคนชั่ว แทบจะกัดฟันเลยทีเดียว หลีโม่มองลงต่ำ หายใจหอบหืด แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
แต่ดวงตาของซูชิงและเซียวโธ่กลับจ้องเขม็งมาทางหลีโม่
หลีโม่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะชำเลืองมองไปทางทั้งสองอย่างจนปัญญา จากนั้นก็ทอดถอนใจออกมาเบาๆ แล้วเบียงสายตาไปทางอื่น
“ดูท่าทางไร้เดียงสาของนางสิ?” ซูชิงกะซิบกะซาบข้างหูของเซียวโธ่ เซียวโธ่จึงได้ชำเลืองมอง ก่อนจะตอบอื้อออกมา “ไร้ยางอายเสียจริง”
ซือถูเย้นไอออกมาเบาๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยเพื่อดูใบหน้าที่น่าเวทนานั้น แล้วถามขึ้นว่า”ฮูหยินไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? ให้เปินหวางเชิญท่านหมอหลวงจากวังมาทำการรักษาให้ดีไหม?”
ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยอดทนโค้งตัวด้วยความเจ็บปวด “ขอบพระทัยท่านอ๋อง หม่อมฉันมิกล้าขัดขวางเพคะ”
ดวงตาของนางปรายตามองขึ้น จากนั้นก็มองไปทางหลีโม่ที่ยืนอยู่ข้างกายของซือถูเย้น ใบหน้าได้แสดงออกถึงความเคร่งขรึมออกมา เมื่อสักครู่เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้พูดกับนางแล้ว เสี้ยหลีโม่และเหลียงซื่อหนีรอดออกมาได้ เพลิงไหม้ครั้งนี้ ไม่สามารถกำจัดพวกนางได้
นางเองก็ไม่อาจจะคาดเดาว่าเสี้ยหลีโม่เป็นคนวางเพลิง เพียงแต่ความเกลียดชิงเสี้ยหลีโม่ย่อมทำให้นางเห็นท่าทางหมาจนตรอกของนางเอา
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง หากท่านทรงอนุญาต หม่อมฉันอยากจะเชิญท่านหมอหลวงออกนอกวังเพคะ”
เขารู้สึกเกลียดชังซือถูเย้นมาก แต่หากมีท่านหมอหลวงมาทำการรักษา บางทีอาการบาดเจ็บคงจะสมานกันไวอย่างแน่นอน
ซือถูเย้นพูดขึ้น “ถึงแม้ว่าฮูหยินที่เป็นถึงก้าวหม้งฮูหยินที่แต่งตั้งอริยยศโดยไท่ฮองไท่เฮา ได้รับบาดเจ็บในวันนี้ อีกทั้งยังเป็นวันอภิเษกสมรสอีก เปินหวางอยากแสดงความเมตตาเป็นพิเศษ รับสั่งให้ไปเชิญท่านหมอหลวงออกจากวัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...