ตอนที่ 194 อย่ารังแกคุณหนู
หลี่โม่ถามถึงข้อแลกเปลี่ยนที่หลี่ซื่อไปตกลงกับนายหญิงแก่ไว้ หลี่ซื่อก็บอกทุกคำพูด อย่างละเอียด
หลีโม่ถามอย่างกังวลใจว่า “ถ้าได้สัญญาซื้อตัวกุ้ยหยวนคืนมาก็เป็นเรื่องดี แต่ว่า จะหาวิธีลดโทษให้ซีเหมินเสี่ยวชิ่งนั้น พวกเราไม่สามารถไปขอความช่วยเหลือท่านอ๋องได้”
หลี่ซื่อยิ้ม “เจ้านี่นะ ควรจะไปอ่านข้อกฏหมายของแคว้นต้าโจวเสียหน่อย ในกฏหมายมีอยู่ข้อหนึ่ง ถ้าผู้ที่กระทำผิดมีความผิดปกติทางสมอง ก็สามารถเว้นโทษหรือลดโทษได้”
หลีโม่ถึงบางอ้อ นึกไม่ถึงว่ากฏหมายแคว้นต้าโจวจะมีข้อนี้อยู่ด้วย
หลีโม่ยิ้มแล้วพูด “ท่านแม่ ท่านอ่านหนังสือมามากมาย วันนี้ได้เอาความรู้มาใช้เสียที”
“วันพรุ่งนี้เจ้าไปพูดเรื่องนี้กับเหลียงซื่อ เหลียงซื่อรู้ดีว่าจะหาคนมายืนยันว่าซีเหมินเสี่ยวชิ่งเป็นบ้าได้อย่างไร ” หลี่ซื่อกล่าว
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะไปจัดการ” หลี่โม่กล่าว
แล้วก็แยกย้ายกันไป
หลีโม่สะพายกล่องยาแล้วออกจากบ้านไปแต่เช้า
นางไปที่บ้านของเหลียงซื่อ เล่าแผนการให้เหลียงซื่อฟัง เหลี่ยงซื่อซาบซึ้ง หลังจากคำนับขอบคุณหลีโม่แล้ว ก็เอาของมีค่าและยาสมุนไพรมากมายมาใส่ไว้บนรถม้าของนาง
หลีโม่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็อยากได้ตัวยาสมุนไพรพวกนั้นจริงๆ และอีกอย่างของมีค่าพวกนั้นก็เป็นพวกแก้วแหวนเงินทอง ได้แต่รับไว้อย่างไม่เต็มใจ “ฮูหยินรองเกรงใจไปแล้ว ต่อไปไม่ต้องให้แล้วนะ หลังจากนี้ให้ขนมข้าก็แล้วกัน ข้าชอบ”
เหลียงซื่อถอนหายใจ พูดว่า “เจ้ารับไปเถอะ ทุกปีข้าไปเอามาจากจวนโก๋วกงไม่รู้มากมายแค่ไหน บ้านข้าก็มีข้าลูกสาวคนเดียว พ่อแม่ข้าก็พอมีให้ข้าใช้จ่าย”
ระหว่างทางที่ไปตำหนักอ๋องเหลียง หลีโม่ถามเย็นเอ๋อร์ว่า “บ้านของเหลียงซื่อเขารวยหรือ? ”
“รวยสิ บรรพบุรุษของเหลียงซื่อเป็นขุนนางบุกเบิกประเทศ สมัยรัชกาลแรก บรรพบุรุษของเหลียงซื่อได้แต่งตั้งเป็นโก๋กง ได้ศักดินา100ลี้ ต่อมาโก๋กงไม่เป็นขุนนางแล้ว หันมาทำธุรกิจ ร่วมมือกับตระกูลเหอทำร้านเหล้าแล้วก็เหมืองทอง แต่น่าเสียดาย ตระกูลเหลียงหาเงินได้ไม่มาก แล้วก็ยังไม่ค่อยมีผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าฮูหยินแก่นั้นมีลูกไม่ได้ ตระกูลเหลียงเคยมีลูกชายหลายคน แต่ป่วยตายจนหมด นี่ไง ก็เลยเหลือ1คนที่ใกล้จะตายแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น? ป่วยเป็นโรคอะไร? ” หลีโม่ถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเชิญหมอมาตั้งหลายคนก็ไม่ได้ผล หลายวันก่อนได้ยินว่าใกล้จะไม่ไหวแล้ว ทนมาได้ถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว น่าสงสารมาก เหลียงโก๋กงฮูหยินมีลูกคนนี้ตอนอายุ45ปี ปีนี้เพิ่งอายุ15ปี”
“ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรหรือ?” หลีโม่ถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินว่าโรคหัวใจ เป็นตั้งแต่อยู่ในท้อง คนก่อนๆก็เป็นเหมือนกัน แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะคนเขาลือกัน”
โรคหัวแต่กำเนิด? ถ้าเป็นหนัก ก็อยู่ได้ไม่กี่ปี สามารถอยู่ได้ถึงอายุ10กว่าปี ก็ไม่ธรรมดาแล้ว แต่ว่า ถ้าสามารถอยู่ได้ถึงอายุ15 บางทีอาจจะไม่ร้ายแรง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ถาม ที่นี่ไม่พร้อมจะผ่าตัด ดังนั้น หลีโม่ก็เลยคิดไปคิดมา ก็ได้แต่เสียใจกับคุณชายเหลียงนั้นด้วย ไม่ได้มีใจจะไปช่วยรักษา
ไปถึงตำหนักอ๋องเหลียง อ๋องเหลียงเพิ่งตื่นนอน หลังจากที่ให้คนไปเชิญหลีโม่มานั่งก่อน เขาก็ค่อยๆกินข้าวเช้าอย่างช้าๆ
“กินมั้ย? ” อ๋องเหลียงกินไปครึ่งนึงแล้ว เพิ่งนึกถามหลีโม่
หลีโม่ส่ายหัว “ข้ากินมากแล้ว”
ระหว่างทางกินหมั่นโถวมา2ลูก ก็เพราะอยากจะรีบรักษาให้เขา แต่เขากลับเพิ่งจะกินข้าวเช้าตอนนี้
อ๋องเหลียงอิ่มแล้ว แล้วก็ยิ้มให้หลีโม่ “วันนี้ข้ามีของขวัญจะให้เจ้า”
“ของขวัญ ?” หลีโม่ประหลาดใจ นางแอบดีใจ ดูเหมือนว่าวันนี้นางจะรวยแล้ว
อ๋องเหลียงบอกว่า “ใช่แล้ว จริงๆแล้วไม่ใช่ข้าให้เจ้า แต่ท่านอาเป็นคนให้เจ้า วันนี้เขาส่งมาให้แต่เช้า เขาจะจากเมืองหลวงไปหลายวันหน่อย เดินทางไปแล้ว”
“เขาจะออกเมืองหลวง? ก่อนหน้าไม่เห็นพูดถึง ” หลีโม่สงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...