ตอนที่ 242 อาการโรคของหวางหยู
หยางมามาก็ลุกขึ้นด้วยมือตนเอง ในใจของนางนั้นสับสนมาก นางรู้ว่าบางทีนางเลือกผิดไปแล้ว ทางเลือกนี้อาจจะกลายเป็นทางตายของตนเอง
แต่ว่าไม่รู้ว่านางเป็นอะไรถึงเลือกทางเลือกที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย คงเป็นตอนหลังจากฮองเฮาพูดแบบนั้นออกมา ทำให้นางกลับมั่นใจในความคิด
เพราะถ้าหากว่าฮองเฮาฆ่าคุณหนูใหญ่ หลังจากคุณหนูใหญ่ตายแล้วต่อมาก็คงเป็นนาง
นางอยู่กับฮองเฮามาหลายปี ฮองเฮาคงไม่อดทนกับคนที่รู้ความลับมากมายขนาดนี้
ดังนั้น วันนี้นางแสดงความซื่อสัตย์ จะมากจะน้อยก็มีคำนวณในเจตนาที่เห็นแก่ตัว
ชัดเจนว่าคุณหนูรู้อยู่แล้วแต่นางไม่ได้เปิดโปง หยางมามาขอบคุณนางเป็นอย่างมากที่ทำให้ตนเองสมหวังในฐานะที่มีเกียรติ
หลีโม่อ่านหนังสือทั้งวัน แล้วก็ค้นคว้าวิชาฝังเข็มกับหลี่ซ่วยหยุ่นอยู่ครู่หนึ่ง
วิชาฝังเข็มเป็นเทคนิคทางเข็มทองคำที่ได้บันทึกไว้ประเภทหนึ่ง ไม่เหมือนกับวิชาฝังเข็มที่มีความหมายดั้งเดิม ที่นี่พูดถึงวิชาฝังเข็มไว้คือฝังเข็มให้รวดเร็วเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเส้นประสาทและส่งเสริมการหมุนเวียนเลือด
ทำไมต้องฝังเข็มให้รวดเร็ว รวดเร็วแล้วยังต้องยกเข็มขึ้นให้ไว ที่นี่ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้
ในหนังสือบอกว่า การฝังเข็มค้างไว้ค่อนข้างอันตราย เพราะไม่มีทางเข้าใจเวลาที่ถูกต้องได้ ถ้าเวลามากไปอาจสร้างความเสียหายให้เส้นประสาทได้ถาวร
แน่นอนว่าหลีโม่รู้ตรงจุดนี้ ก่อนหน้านี้ก็คิดแต่ปัญหาข้อนี้ ค้นคว้าการฝังเข็มในครั้งนี้ก็เริ่มฝังเข็มจากเส้นตำแหน่งทางเดินของเลือดลม กระตุ้นเส้นประสาทจนเป็นลักษณะเดียวกัน ตอบสนองการฝังอันรวดเร็วถึงส่วนระบบประสาทส่วนกลางของสมอง คล้ายกับผลกระทบของผีเสื้อที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ริเริ่มระบบซ่อมแซมร่างกายอัตโนมัติทำให้เส้นประสาททุกส่วนของร่างกายกลับมาซ่อมแซมฟื้นฟูดังเดิม
สิ่งที่อัศจรรย์เช่นนี้ดึงดูดหลีโม่เป็นอย่างมาก นางรู้สึกว่าผู้ที่เขียนเทคนิคทางเข็มทองคำนี้ มีระดับความรู้แพทย์แผนจีนอย่างลึกซึ้งมากกว่าอาจารย์หลินเสียอีก
แรกเริ่มที่นางเห็นคิดว่าไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ แต่ว่าหลังจากอ่านจนเข้าใจกลับรู้สึกว่าทำได้
แล้วนางก็ตั้งใจไว้ว่าจะทดลองบนร่างกายของกุ้ยหยวนดูเสียหน่อย
วิชาฝังเข็มไม่ได้มีอันตรายอะไร เพราะว่าไม่ต้องฝังเข็มค้างไว้ จะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บอะไรแน่นอน
ทดลองเพียงแค่อยากจะดูผลการรักษา
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องรอให้อาการบาดเจ็บของกุ้ยหยวนดีขึ้นก่อน หลังจากนั้นค่อยทดลอง กระดูกขาหักเส้นประสาทก็ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ถ้าวิชาฝังเข็มสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูภายในได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่นนั้นก็สามารถใช้ได้กับอ๋องเหลียง
ถึงแม่วันนี้อ๋องเหลียงไม่ยอมให้ตนเองรักษาต่อแต่ว่าหลีโม่เชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องยอมอย่างแน่นอน
ในชีวิตคนเราเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสาะแสวงหา ถ้าอ๋องเหลียงมีคนที่ชอบ เขาคงจะคิดได้เอง
วันต่อมา มีองครักษ์ได้รับราชโองการให้ออกจากวังมาถึงลานเสี้ยจื้อจริงๆ
“ข้าน้อยพานดาน ได้รับราชโองการจากฮองเฮาให้มาคุ้มครองคุณหนูใหญ่ที่ตำหนัก” องครักษ์พานดานคำนับทำความเคารพ
หลีโม่เคยเจอเขาที่วังของฮองเฮา เป็นคนที่ค่อนข้างผอมแห้ง ดังนั้นจึงทำให้เป็นจุดสนใจ ทำให้รู้สึกว่าคนแบบเขาจะทำงานอยู่ในวังหลวงได้อย่างไรกัน
แต่ว่าหยางมามาบอกหลีโม่เป็นการส่วนตัวแล้ว พานดานคนนี้เป็นคนที่ร้ายกาจมากทีเดียว ความร้ายกาจของเขานอกจากวรยุทธ์ ยังมีความเฉลียวฉลาด ละเอียดรอบคอบดุจของแหลมคม
พานดานมาถึงลานเสี้ยจื้อแทบจะไม่พูดอันใด แต่คำสั่งเกี่ยวกับหลีโม่ เขาล้วนเชื่อฟังและทำตาม
เตาเหล่าต้ากลับเตรียมป้องกันเขา
เขาพูดกับหลีโม่ว่าพานดานผู้นี้เห็นสายตาก็ดูออกว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
แต่เย็นเอ๋อร์บอกว่าที่เตาเหล่าต้ามุ่งเป้าไปที่เขาเป็นเพราะพานดานกินเยอะ แล้วยังชอบกินเนื้ออีก ทำให้ทุกมื้อเขาจะกินไม่อิ่ม
หลีโม่หัวเราะ ทำให้เตาเหล่าต้าไม่ต้องเริ่มขัดแย้งกับพานดาน
ทันใดนั้น วันนี้ซูชิงก็เดินเข้าประตูมา
หลีโม่ไม่ได้เจอซูชิงหลายวันมากแล้ว ได้เห็นเขาก็รู้สึกประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...