ตอนที่ 261 ฐานะของโร๋วเอ๋อร์
ในขณะเดียวกัน นายหญิงแก่ของจวนเฉิงเสี้ยงก็สั่งให้คนออกไปกระจายข่าว บอกว่าเสี้ยหลีโม่ได้รับหนังสือสัญญาทางทหารแต่งตั้ง ภายในครึ่งเดือนจะศึกษาและผลิตวิธีการพร้อมยารักษาของผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบาด
แต่ว่าข่าวนั้นไม่ได้บอกว่าเฉิงเสี้ยงที่เป็นขุนนางเป็นผู้รับประกัน
ข่าวนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อถูกวางไปจุดหนึ่งแล้ว ไม่นานก็ระเบิดบรรยากาศในเมืองหลวงที่เงียบสงัดออก
แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีข่าวลือบอกว่าเสี้ยหลีโม่สามารถรักษาโรคระบาดได้ แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่เชื่อข่าวลือนั้น เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอ๋องซื่อเจิ้งก็ส่งหมอหลวงกับสำนักงานฮุ่ยหมินไปที่หมู่บ้านก้อนหินแล้ว ล้วนไม่มีวิธีรักษา หลังจากการประกาศออกไป ก็มีหมอไม่น้อยที่ขอรับหน้าที่ไปที่นั่นด้วยความสมัครใจ แต่ก็พากันพ่ายแพ้จนต้องกลับมา
จนกระทั่งหมอถูกกัด
ตอนนี้เสี้ยหลีโม่จัดทำหนังสือคำสั่งของทหาร โดยมีชีวิตของตัวเองรับประกัน ระดับความน่าเชื่อถือนี้ก็จะยิ่งมากขึ้น ประชาชนที่คิดจะหนีออกไปจากเมืองหลวง ต่างก็มีท่าทีว่าจะอยู่เฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งไม่มีคนรีบเก็บข้าวเก็บของหนีแล้ว
จวนเฉิงเสี้ยง
“ท่านแม่ ตอนนี้ข่าวได้แพร่กระจายออกไปแล้ว เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็วเสี้ยหลีโม่ก็จะต้องเข้าไปในพื้นที่ระบาด” เฉิงเสี้ยงเสี้ยไปที่ห้องของนายหญิงแก่ ท่าทางเหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจตลอดเวลา
นายหญิงแก่พยักหน้า “ใช่ หลังจากหนังสือคำสั่งของทหารถูกกำหนด คาดว่าพรุ่งนี้ก็ต้องเข้าไปแล้ว”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยโมโหอู่เล็กน้อย “ครั้งนี้ถูกไถ้ฝูกำหนดเส้นทางเอาไว้แล้ว”
นายหญิงแก่ถอนหายใจเบากๆ “จวนเฉิงเสี้ยงไม่ได้มีอำนาจบารมีเหมือนเมื่อก่อน สถานการณ์ของเจ้าจึงอึดอัดมาก เขาเองก็ไม่เชื่อเจ้า ที่วางกับดักเอาไว้เช่นนี้ ก็เพราะว่าบังคับให้เจ้าปิดปาก อันที่จริงข้าก็นึกถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ตั้งนานแล้วล่ะ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเหลือบแววตาที่กลัดกลุ้มขึ้นมา “ท่านแม่ ท่านคิดว่าเสี้ยหลีโม่จะมีแผนการที่ชนะได้หรือไม่? ”
นายหญิงแก่ส่ายหน้าเบาๆ “เป็นไปไม่ได้ เสี้ยหลีโม่จะต้องตาย โรคระบาดครั้งนี้ สุดท้ายก็มีเพียงวิธีสุดท้ายก็คือต้องเผาหมู่บ้าน นี่จะเป็นความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เข้ามาบริหารบ้านเมืองของซือถูเย้น และที่จะตามมาก็คือเหล่าขุนนางและประชาชนจะเริ่มประณามเขา”
“แต่ว่า” เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดด้วยความกังวลใจว่า “ลูกเอาตำแหน่งขุนนางไปรับประกัน ดังนั้น พวกเราก็จะอยู่ในมือของไถ้ฝู้จริงๆ แล้ว”
นายหญิงแก่หัวเราะเย็นชา “ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากเรื่องนี้สงบลง เจ้าก็พิจารณาทางไท่กุ้ยเฟยดูให้ดี ไถ้ฝูผู้นี้อาศัยไม่ได้ เมื่อหมดประโยชน์ก็กำจัดทิ้ง เป็นผู้ที่ตัดสินใจเรื่องสำคัญ”
ครั้งนี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยพิจารณาปัญหานี้อย่างรอบคอบ เมื่อก่อนเขาอาลัยอาวรณ์ตำแหน่งพ่อตาของฮ่องเต้มาโดยตลอด แต่ตอนนี้นับวันยิ่งห่างไกลออกไป แม้แต่ประโยคเดียวของไถ้ฝู้ก็ไม่เคยพูดเพื่อเขา นี่ก็หมายความว่า ไม่ช้าก็เร็วการอภิเษกสมรสในครั้งนี้ต้องถูกยกเลิกไป
เกรงว่าหากวันใดที่เสี้ยหลีโม่ถูกประหารชีวิตแล้ว ฮองไทเฮาก็ต้องมีราชโองการยกเลิกการอภิเษกสมรส
นายหญิงแก่มองไปที่เขา เอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า “นอกจากเจ้าจะเป็นห่วงเรื่องตำแหน่งของตัวเอง ยังเป็นห่วงนางขึ้นมาด้วยหรือ? ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินดังนั้นก็ตะลึง ส่ายหน้าโดยสัญชาตญาณ “ไม่ เป็นไปไม่ได้? ”
“ไม่อาวรณ์นั้นย่อมสมควร อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเจ้าคิดถึงความผูกพันของพ่อลูก เป็นนางเองที่ผิด นางไม่นึกถึงบรรพบุรุษ ไม่นึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ ที่นางมีจุดจบอย่างตอนนี้ เป็นนางที่หาเรื่องใส่ตัวเอง”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยถอนหายใจเบาๆ “ลูกไม่ได้เสียใจเพราะนาง แต่จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่านางเป็นลูกสาวคนเดียวของข้า”
“ต่อไปเจ้าก็จะมีลูกที่เชื่อฟังเจ้าและเฉลียวฉลาด นางเอาใจออกหากจากเจ้าแล้ว และไม่ใช่ลูกสาวของเจ้า ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปเสียใจ” นายหญิงแก่กล่าวออกมาอย่างเย็นชาและเด็ดขาด
“ลูกทราบขอรับ”
นายหญิงแก่ส่งเสียง “อืม” ออกมาแล้วพูดว่า “ทางชุยไท่เฟยก็มีข่าวมาแล้ว เป็นหลานสาวของใต้เท้าหลินลี่บู้ซื่อหลาง ปีนี้สิบแปดปี ตระกูลหลินมีความกระตือรือร้นในเรื่องนี้มาก มาถามหลายครั้งแล้ว วันหลังเจ้าก็ไปเยี่ยมสักหน่อยนะ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยกล่าวว่า “หากท่านแม่เคยพบแล้วคิดว่าเหมาะสมก็พอแล้วขอรับ ลูกพบหรือไม่ก็ไม่เป็นไรหรอกขอรับ”
เห็นได้ชัดว่าความสนใจของเขาเริ่มถดถอยไปเล็กน้อย เขาไม่มีความปรารถนาอะไรทั้งสิ้นต่อสตรีเพศ เขาปล่อยวางแล้ว
บางทีอาจจะเพราะในใจลึกๆ เขาเข้าใจดีว่าสตรีแบบไหนที่เขาเคยพลาดไปบ้าง ทั้งที่ยังไม่ได้มา ก็ต้องสูญเสียไป ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ไม่มีใครที่เข้าใจลูกไปมากกว่ามารดา เมื่อนายหญิงแก่เห็นสีหน้าที่ผิดหวังของเขา ก็รู้ว่าเขากำลังนึกถึงความดีของหลี่ซื่อ ครั้นแล้วก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ในโลกนี้มีสตรีที่ดีกว่านางเสมอ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยฝืนหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ขอรับ แต่ลูกไม่สนใจแล้ว ดีหรือไม่ เพียบพร้อมหรือไม่ ล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอเพียงเป็นสตรีที่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ก็พอ”
นายหญิงแก่อยากจะพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าสลดจนจะร้องไห้ของเขา ก็ไม่พูดสิ่งใดออกมาอีก มีหลายเรื่องราวในที่สุดมันก็จะผ่านไป
ณ ลานบ้านเล็กของตระกูลเฉิน
หลังจากว่าราชการเสร็จแล้ว ซือถูเย้นก็ตรงเข้ามา
หลีโม่สวมหมวก แต่งตัวเหมือนกับสาวชาวบ้านผู้หนึ่ง ด้านหนึ่งสะพายตะกร้าสมุนไพรกำลังจะออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...