พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 277

ตอนที่ 277 ทางตัน

เหลียงไถ้ฝู้เรียกตัวหมอผู้นี้เอาไว้ “เจ้าบอกว่าไม่พบหมอเสี้ยมาหลานวันแล้ว หมายความว่าอย่างไร? ไม่ใช่ว่านางไปเก็บตัวยาหรอกหรือ

“หมอหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง “เก็บตัวยา? ที่แห่งนี้ต้องการวัตถุดิบยาอันใดกันเล่า ตระกูลหูเคยบอกไว้ว่าวัตถุดิบยาทั้งหมดในเขตแพร่ระบาดพวกเขาจะจัดหาให้ หมอเสี้ยไม่จำเป็นต้องไปเก็บตัวยาเลยแม้แต่น้อย ก่อนนางจะไปกล่าวว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาหาย จากนั้นก็จากไป”

เหลียงไถ้ฝู้ตกใจ “อะไร? นางบอกว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ก็จากไปงั้นหรือ? นางเป็นผู้ที่กองทัพรับสั่งลงมา เจ้าบอกว่านางหนีไปหมายความว่าอย่างไร หลบหนีไปแล้ว? ”

เหลียงไถ้ฝู้ตีโพยตีพาย “เป็นไปไม่ได้ หมอเสี้ยหากไม่สามารถรักษาได้ นางจะคิดหาทางอยู่เสมอ”

อ๋องหลี่ชินถามหมอท่านนั้น “นางพูดกับเจ้าด้วยปากของตัวเองว่ารักษาไม่หาย แล้วหนีไปหรือ? ”

หมอโน้มตัวลง “ใต้เท้า เป็นเช่นนั้น”

อ๋องหลี่ชินขมวดคิ้ว “ปกตินางไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่? ”

เซียวเซียวกล่าวขึ้นมาเบาๆ “ใต้เท้า ถ้าหากนางจะหนีไป นางคงไม่เขลาประกาศให้ผู้ใดทราบกระมัง? หากหลบหนีรับสั่งจากกองทัพเท่ากับต้องโทษประหาร”

อ๋องหลี่ชินกล่าว “ข้ารู้ดีว่านางไม่ได้โง่เขลา นางนับว่ายังเฉลียวฉลาดนัก หากแต่ว่าไม่อยู่ที่เขตแพร่ระบาดมาก็หลายวันแล้ว เป็นการไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่”

ทุกคนล้วนรู้ดีอ๋องหลี่ชินไม่เล่นพรรคเล่นพวก เขายอมตาย ทั้งยังเกลียดผู้ที่ไร้ความรับผิดชอบ

เหลียงไถ้ฝู้ได้ยิข้อความนี้ จึงพูดกับเหลียงไถ้ฝู้ว่า “เจ้ากล่าวว่านางไปเก็บตัวยา ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรู้ว่านางไปเก็บตัวยาอยู่ที่ไหนใช่หรือไม่? เจ้าจงไปตามนางกลับมา”

เหลียงไถ้ฝู้พูดด้วยท่าทีอ้ำๆ อึ้งๆ “นี่…ตอนนี้ก็ไม่ทราบดีว่านางไปเก็บตัวยาอยู่ที่ใดแล้ว”

“ไม่รู้ได้อย่างไร? นางเป็นหลักสำคัญของเขตแพร่ระบาด นางไปที่ใดไม่บอกกล่าวพวกเจ้าเอาไว้เลยหรือ” เหลียงไถ้ฝู้กล่าวเสียงเข้ม

เจ้าเมืองโหรวเหยาพูดขึ้น “ไถ้ฝู้รุกรนเพราะเหตุใด? ท่านเองก็บอกว่าหลีโม่เป็นหลักสำคัญของเมืองแพร่ระบาดนี้ นางต้องการไปที่ใด ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางเป็นหลัก พวกข้าไปถามไถ่อันใดไม่ได้หรอก”

“เจ้าเมืองโหรวเหยา เดิมทีท่านก็ไม่ควรมาอยู่ในที่แห่งนี้ เขตแพร่ระบาดมีหมออยู่แล้ว เจ้าไม่ได้ถูกเรียกให้เข้ามา ควรต้องห่างออกไปเสียเดี๋ยวนี้” เหลียงไถ้ฝู้เชิดหน้ามองไปยังประตู

เจ้าเมืองโหรวเหยาเริ่มไม่สบอารมณ์ “ประกาศราชสำนัก มองหาหมอ หมอท่านอื่นล้วนเข้ามาได้ มีเหตุอันใดข้าจึงไม่สามารถเข้ามาได้? ผู้อื่นเห็นแก่ว่าได้เงินทอง ข้าอยากจะเห็นแก่ได้บ้างไม่ได้หรือ”

เหลียงไถ้ฝู้ปั้นสีหน้าตอบกลับ “รายนามราชสำนักถอนกำลังออกไปแล้ว และเจ้าก็เข้ามาในเขตแพร่ระบาดมานานมากแล้ว ทั้งยังไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ ชัดเจนว่าเจ้ามิใช่ผู้ที่ฮ่องเต้ต้องการ หากจัดการให้โดยไวที่สุดเจ้าจำเป็นต้องออกไปภายในคืนนี้”

“เจ้าเมืองโหรวเหยาโกรธจนใบหน้าไร้อารมณ์ใด “ข้าไม่ไป! ผู้เปล่าเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่ข้าดูแลรักษามาตลอด หากพวกเขาไม่หายเป็นปกติข้าจะไม่ไปไหน”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าเมืองมีหนทางทำให้พวกเขาหายเป็นปกติงั้นหรือ? ” เหลียงไถ้ฝู้ถามด้วยความอุกอาจแกมตำหนิ

เจ้าเมืองโหรวเหยาเปลี่ยนสีหน้า “ข้าไม่สน ผู้ใดจะมาข้าก็ไม่ไป แม้นข้าไม่มีหนทางรักษาให้พวกเขาหายเป็นปกติ แต่ข้าก็สามารถช่วยพวกเขาลดอาการเจ็บปวดลงได้ ท่านไม่ใช่ผู้ดูแลควบคุมของที่นี่ ท่านไม่มีสิทธิ์มาไล่ข้า”

เหลียงไถ้ฝู้ตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ “ดี เจ้าไปตามเสี้ยหลีโม่กลับมา ข้าจะคุยกับนาง”

แม่ทัพโหรวเหยาและแม่ทัพหลี่สบตากัน ในตามีแต่ความโกรธ ทั้งยังกังวลใจ ดูท่าแล้วเหลีงไท้ฝู้มาเพื่อก่อกวนโดยแท้

สุดท้ายแล้วหลีโม่ไปที่ใด? ผ่านไปสองวันแล้วก็ยังไม่กลับมา หากเหลียงไถ้ฝู้กลับไปรายงาน แน่นอนว่าจะต้องกล่าวหาว่านางละเลยหน้าที่ หรือไม่ก็ใส่ร้ายป้ายสีนางว่าหลบหนีไป

เหลียงไถ้ฝู้มองไปที่อ๋องหลี่ชิน “ใต้เท้า ท่านเห็นสถานการณ์กับตา เสี้ยหลีโม่ไม่อยู่ มีเพียงหมอไม่กี่คนที่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนอยู่ที่นี่ คนที่กรมฮุ่ยหมินเข้ามาไม่ได้เช่นกัน เช่นนี้เป็นการวางลำดับสำคัญผิดแท้ๆ โปรดรับสั่งให้เจ้าเมืองถอยกลับไป ให้คนของเมืองฮุ่ยหมินเข้ามาชั่วคราว

อ๋องหลี่ชินกำลังจะกล่าว พอดีกับประตูหลังสวนถูกเปิด องค์หญิงใหญ่ซือถูจิ้งเดินทอดน่องออกมาช้าๆ สีหน้าเต็มไปด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน “ไถ้ฝู้เพิ่งจะมาที่แห่งนี้หรือ? ข้าไม่ทราบคิดไปว่าไถ้ฝู้จะมาที่แห่งนี้ทุกวันเสียอีก ข้ารู้ว่าเจ้าเมืองมาที่นี่ได้หลายวันแล้ว แลัทราบดีว่าหมอของสำหนักฮุ้ยหมินไม่สามารถเข้ามารักษาผู้ป่วยในวิหารได้”

เหลียงไถ้ฝู้ไม่คาดคิดว่าซือถูจิ้งจะอยู่ที่นี่ เกิดประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย “ถวายบังคมองค์หญิง”

เซียวเซียวที่ยืนอยู่ข้างเขามองซือถูจิ้งไม่กะพริบตา จากนั้นยกมือโค้งคำนับ “หม่อมฉันเซียวเซียว ถวายบังคมองค์หญิง”

ในวิหารที่โกลาหลแห่งนี้ รอบทิศอบอวลไปด้วยกลิ่นซากศพ ซือถูจิ้งเงยหน้าขึ้นมองเซียวเซียวที่ไม่พบหน้ามาเป็นเวลานาน ราวกับว่าอยู่ในโลกขนานกัน

แต่รู้สึกได้เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นทุกสิ่งก็กลับสู่ความสงบอีกอีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่กลับมาแล้ว? ”

“เป็นเช่นนั้น!” เซียวเซียวมองนาง นัยน์ตา,นัยนาปรากฏสิ่งที่ไม่อาจใช้คำพูดใดมาอธิบายได้ “ข้ากลับมาแล้ว”

ข้ากลับมาแล้ว ข้ากลับมาแล้ว!

เช่นเดียวกับเมื่ออดีตที่เขาอยู่เคียงคู่กันภายในวัง บางครากลับจวนไปไม่กี่วัน เมื่อได้กลับเข้าวัง เขามักไปหานางก่อนเพื่อกล่าวกับนางว่า ข้ากลับมาแล้ว

“เสี่ยวกูกู” อ๋องหลี่ชินคำนับอย่างสุภาพ

“อ่า พี่สามก็มาด้วย! ” ซือถูจิ้งมองดูอยู่เงียบๆ “เขตแพร่ระบาดไม่ควรมีคนมากเช่นนี้ พี่สามโปรดระมัดระวังถูกผู้ใดใช้เป็นคมดาบ”

อ๋องหลี่ชินทราบความหมายของซือถูจิ้งดี แต่เขาหาได้สนใจไม่ สุดท้ายแล้วเขามุ่งมั่นในงานเท่านั้น ไม่ใช่มุ่งไปที่ผู้ใด

ซือถูจิ้งมองไปที่หมอผู้นั้นในขณะนั้น “ข้าเพิ่งได้ยินเจ้ากล่าวอยู่เมื่อสักครู่ ก่อนหลีโม่จะไปได้พูดกับเจ้าไว้ว่าไม่มีหนทางรักษาโรคให้หายได้ ต้องการหนีไป ใช่หรือไม่? ”

หมอผู้นั้นตอบกลับ “รับสั่งองค์หญิง เป็นเช่นนั้น ความจริงก่อนองค์หญิงจะเสด็จมาถึง ส่งคนมาบอกกับพวกเราทุกคนอย่างมั่นคง กล่าวกับทุกคนว่าหมอเสี้ยไปเก็บตัวยา ข้าไม่เห็นด้วยนัก หากหมอเสี้ยหนีไปจริงควรรายงานให้ราชสำนักทราบโดยไว ให้ราชสำนักรับสั่งคนให้มารับมือกับสถานการณ์ในพื้นที่แพร่ระบาด”

“หนี? หนีไปแล้ว? ” ข้าหลวงที่เหลียงไถ้ฝู้นำมาจ้องถามคำถามไปที่หมอผู้นั้น “เจ้าแน่ใจรึว่านางหนีไปแล้ว? ”

หมอกล่าวตอบ “ไม่พบนางมาสองวันแล้ว นอกจากนั้นก่อนไปนางกล่าวเช่นนั้นกับข้าจริงแท้แน่นอน จึงตั้งสมมติฐานได้ว่านางหนีไป”

เหลียงไถ้ฝู้ถามต่อ “วันก่อนที่องค์รัชทายาทมาเยือนบอกว่าไม่พบนาง ใช่หรือไม่ว่าตั้งแต่รัชทายาทมาตรวจดูจวบจนตอนนี้ นางยังไม่กลับมา”

“ใช่แล้วขอรับ!” หมอกล่าว

เหลียงไถ้ฝู้หัวเราะอย่างเยือกเย็น “ถ้าไม่ใช่หนีไป เหตุใดจึงไม่กลับมาตั้งสองวันแล้ว? องค์หญิงกลับหาคำใดมาโต้แย้ง!”

ซือถูจิ้งกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “ข้าเคบบอกไปแล้ว นางไปเก็บตัวยา ยังไม่ถึงระยะเวลาที่กำหนด ไถ้ฝู้จะร้อนรนไปไย? ”

เหลียงไถ้ฝู้กล่าวนิ่งๆ “เก็บตัวยาต้องนำคนไปตัวหรือ? และเหตุใดไปเก็บตัวยาจึงต้องกล่าวกับหมอผู้นั้นว่านางไม่อาจรักษาโรคให้เป็นปกติได้กัน? ”

” ถูกต้องแล้ว! นางต้องการหนี เหตุใดต้องบอกกับผู้อื่นว่าไม่มีทางรักษาเล่า? ไถ้ฝู้คิดว่าหลีโม่โง่เขลาไปหน่อยกระมัง? ”

คำกล่าวนี้เซียวเซียวเคยพูดเอาไว้แล้ว ตอนซือถูจิ้งพูดเขาจ้องมองนางอยู่

เหลียงไถ้ฝู้หัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง “ดี เมื่อองค์หญิงกล่าวเช่นนั้น นางก็คงไปเก็บตัวยาแล้วล่ะ หากแต่ไปได้สองสามวันแล้ว ไม่ละเลยต่อหน้าที่ไปหน่อยหรือ? มีตัวยาใดที่จำเป็นต้องไปเก็บด้วยตัวเอง? กว่าห้าหกสิบกว่าชีวิตกำลังรอนางอยู่ นางไม่กลับมาเพียงไม่กี่วันไม่นับว่าหนีและหน้าที่ของตน”

” ละเลยหน้าที่? หลีโม่มีหน้าที่อันใดหรือ? เหตุใดข้าจึงไม่รู้? “ซือถูจิ้งหัวเราะ

เหลียงไถ้ฝู้มองเซียวเซียว “แม่ทัพใหญ่คิดว่าอย่างไร? นางรับสั่งให้มาเขตแพร่ระบาดแต่สองสามวันนี้กลับไม่พบนาง คำสั่งกองทัพนี้ยังมีความหมายอยู่หรือไม่? ถ้าหากอยู่ในกองทัพ ผู้ที่กองทัพรับสั่งลงมาดำเนินการเช่นนี้จะได้รับโทษอย่างไร? ฮองไทเฮาให้แม่ทัพใหญ่มาตรวจสอบดูเขตแพร่ระบาด สถานการณ์ของที่แห่งนี้ แม่ทัพใหญ่จะทูลให้ฮองไทเฮาทราบเช่นนี้ได้จริงหรือ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม