พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 278

สรุปบท ตอนที่ 278 เกาะคนบ้า: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอน ตอนที่ 278 เกาะคนบ้า จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 278 เกาะคนบ้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 278 เกาะคนบ้า

ซือถูจิ้งมองไปที่เซียวเซียว ขมวดคิ้วเป็นปม ฮองไทเฮารับสั่งให้เขามาตรวจดูเขตแพร่ระบาด?

นางรู้จักเซียวเซียวอย่างถ่องแท้ เขาเป็นทหาร มีความรับผิดชอบสูง เมื่อถูกทาบทามให้รับผิดชอบต่อหน้าที่อย่าแน่วแน่ เขาจะต้องทำมันได้

ด้วยความแน่วแน่ เซียวเซียวกล่าวด้วยความเคร่งขรึม “ทุกสิ่งในที่แห่งนี้ ข้าจะกล่าวทูลให้ฮองไทเฮาทราบด้วยสัตย์จริง”

เหลียงไถ้ฝู้พยักหน้ารับ “มีใต้เท้าเป็นพยาน ข้าน้อยมิอาจขัดประสงค์”

เซียวเซียวไม่ได้กล่าวสิ่งใด กลับมีท่าทางผ่าเผย

อ๋องหลี่ชินมองดูใบหน้าพึงพอใจของหลียงไถ้ฝู้ ภายในใจไม่ยินดีนัก ดูท่าว่าวันนี้จะโดนคนใช้ประโยชน์อีกครา ครั้งแล้วครั้งเล่า!

————เล่าจื๊อคือองค์ชายสามที่ถูกใช้ประโยชน์จนได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส————

เกาะคนบ้า

เกาะคนบ้าเป็นเกาะที่อยู่ภายนอกหลี่ชุน หากไปหลี่ชุนต้องใช้เวลาหนึ่งวัน ข้ามผ่านทะเลไป อย่างน้อยที่สุดต้องใช้เวลาวันครึ่ง

หลีโม่ไปพบเซียวโธ่ให้ไปด้วยกัน เดิมทีเซียวโธ่ไม่เห็นด้วย แต่ให้เขาดูสิ่งหนึ่ง และกล่าวเพียงประโยชน์เดียว เขาจึงตามนางไป

สิ่งที่หลีโม่ให้เขาดูคือรอยฟันบนข้อมือ นางกล่าว “หวางหยูกัดข้า”

เกาะคนบ้ามีคนคุ้มกันอยู่ โดยปกติขุนนางที่ทำผิดจะถูกนำมาปล่อยไว้ที่เกาะคนบ้าแห่งนี้เป็นทหารเฝ้ายาม พวกเขาไม่สามารถกลับไปได้ ทำได้เพียงเฝ้าดูคนบ้ากลุ่มหนึ่งอย่างไม่รู้วันรู้คืน นานวันเข้าจิตใจของเขาก็เริ่มเปลี่ยนจนโหดเหี้ยมทารุณ

เขาไม่ได้ขึ้นฝั่งทางด้านหน้าเกาะ แต่เป็นทางด้านหลังภูเขา

“ข้าว่าเจ้าบ้าไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะทำให้หวางหยูกัดเจ้าได้ เจ้าติดเชื้อแล้ว หากข้าไม่ไยดีเจ้า แน่นอนว่าต้องฆ่าเจ้าให้ตายไปเสียก่อน” กล่าวประโยคเช่นนี้ไปตลอดทาง

หลีโม่รู้สึกว่าหูของตนยานหมดแล้ว หลังจากขึ้นฝั่ง เขาย่อตัวนั่งลงดื่มน้ำบนเกาะแล้วกินพีซวงตามไป มองดูรอยกัดผมข้อมือ ตอนนี้วันที่สองแล้ว แผลไม่อักเสบเท่าวันแรก

เจ้าเบื่อหรือไม่ล่ะ? ข้าเคยบอกแล้วว่าพีซวงสามารถรักษาบาดแผลที่เพิ่งถูกกัดได้ “ความประโยคนี้ หลีโม่ก็ฟังมาแล้วตลอดทางเช่นกัน

” ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ใช้พีซวงรักษาผู้ติดเชื้อเหล่านั้นสิ “เซียวเซียวกล่าวด้วยอาการพิษไข้สูง

” ข้าก็เคยกล่าวไว้เช่นกัน พีซวงใช้ได้เพียงแค่ผู้ติดเชื้อที่เพิ่งโดนกัดมาเท่านั้น ตอนนี้ข้าไม่มีหนทางรักษาผู้ที่ติดเชื้อมานานแล้ว พีซวงไม่สามารถนำมาใช้ได้ ถ้าหากมากกว่าครึ่งชั่วโมงพีซวงไม่สามารถนำมาใช้ได้ เจ้าคิดว่าเมื่อเกิดโรคระบาดเป็นวงกว้าง พวกข้าจะสามารถปกป้องคนที่ถูกกัดรักษาให้ยาได้ทันภายในครึ่งชั่วโมงหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นพีซวงไม่สามารถใช้เกินขนาดได้ เมื่อเป็นพิษก็ยากจะควบคุม อาจเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าคิดว่าที่เกาะคนบ้ามียาถอนพิษหรือ? ”

หลีโม่กล่าว” ตั้งแต่โรคระบาดแพร่ออกไปจากเกาะคนบ้า โรคแบบนี้มักมีที่มาที่ไปลักษณะเช่นเดียวกันกับยาพิษ ที่ใดมียาพิษ ที่นั่นย่อมมียาถอนพิษ ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าพีซวงสามารถลดอาการของโรคได้ และรู้ดีว่าคนที่เพิ่งถูกกัดสามารถนำพีซวงมาถอนพิษได้ เป็นคำอธิบายต่อราชสำนักได้ในท้ายที่สุด แต่พวกเราต้องหลีกเลี่ยงความล้มเหลวอย่างถึงที่สุดเพื่อชัยชนะ จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อถอนรากถอนโคนเรื่องนี้ให้สิ้นซาก ต้องหาสูตรยาก่อน จากนั้นค่อยตามหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่นำผู้ติดเชื้อผีดิบเข้ามา”

เซียวโธ่กล่าวด้วยความสลดใจ” แต่หลายวันมานี้เจ้าไม่พบผู้ใดเลย มีคนกล่าวหาว่าเจ้าหนีมาอย่างแน่นอน”

” บอกแล้วเป็นอันใดเล่า? ตอนนี้พวกเขายังหาข้าไปพบ ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะเป็นผู้ร้าย แต่เมื่อข้านำตำรายากลับไปได้ ข้าก็จะเป็นวีรบุรุษ “หลีโม่ไม่สนใจสักเพียงนิด

” แม้แต่ท่านอ๋องเจ้าก็ไม่ได้บอกกล่าว ก็นับว่าไม่ถูกต้อง “เซียวโธ่พยายามหาเหตุผลตำหนินาง

หลีโม่ลุกยืนขึ้นแล้วเดินต่อ” ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากบอกเขา แต่หลังจากที่ข้าไปหาเจ้า พบว่ามีคนสะกดรอยตาม ข้าต้องรีบหาทางสะบัดคนเหล่านั้นให้พ้น”

” ปากคอฉอเลาะนัก เจ้ากล่าวสิ่งใดล้วนถูกไปเสียทุกอย่าง “เซียวโธ่เดินตามต่อไปด้วยเช่นกัน

หมู่บ้านเฉินฟู

” แม่เฒ่าคิดว่า ใต้เท้าไม่จำเป็นต้องไปเกาะคนบ้าด้วยตนเอง สั่งให้คนไปก็เพียงพอแล้ว “เฉินไท่จูนสูบปล้องยาสูบ ท่าทางอันสงบเยือกเย็น

“ดูท่า ไท่จูนคงจะแน่ใจแล้วว่านางไปที่เกาะคนบ้า”

เฉินไท่จูนพ่นวงควัน โบกมือพร้อมหัวเราะ” มิใช่ แม่เฒ่าไม่แน่ใจ แม่เฒ่าเพียงคาดเดา”

ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้นำมาโดยแม่ชี จากอุโมงค์ใต้ดินขึ้นมา การซุ่มโจมตีของซือถูเย้นเป็นผลสำเร็จ จับเอาไว้ได้สิบกว่าคน

ตอนองครักษ์รายงาน ซือถูเย้นขมวดคิ้วมุ่น “สิบกว่าคน? ”

“ขอรับ บัดนี้ส่งไปที่เขตแพร่ระบาดแล้ว พอดีกับที่ซูชิงส่งผู้ติดเชื้อที่กองทหารและถนนซีเป่ยเข้าไป”

ซือถูเย้นลุกขึ้น กล่าวด้วยท่าทีเข้มงวด “ประกาศกฎอัยการศึกให้ทั่วเมือง ไม่ว่าผู้ใดก็มิอาจออกไปไหนได้ทั้งสิ้น”

องครักษ์ประหลาดใจ “ใต้เท้า เพราะเหตุใดกัน? ”

“เป็นไม่ไม่ได้ที่จะมีเพียงแค่สิบกว่าคน พวกมันยังมีรังอยู่ที่อื่นอีกแน่” ซือถูเย้นกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

คำสั่งกฎอัยการศึกออกมาช้าเกินไป หลังจากรับสั่งมาแล้ว มีผู้คนมารายงานอยู่ไม่ขาด กล่าวว่าในเมืองหลายแห่งพบผู้ติดเชื้อผีดิบคลุ้มคลั่งกัดผู้คน

ไม่พ้นค่ำคืน จำนวนผู้ถูกกัดที่ได้รับรายงานทะลุไปกว่าร้อยราย หากแต่จำนวนนี้เป็นเพียงผู้ป่วยที่ได้รับการรายงาน ที่ยังไม่ได้รับมิอาจทราบได้ว่ามีอีกเท่าใด

เช้าวันรุ่งขึ้น เซียวเซียวเข้าวังไปทูลรายงานต่อฮองไทเฮาว่าหลีโม่ไม่ได้อยู่ในเขตแพร่ระบาด

เหลียงไถ้ฝู้ตามมากล่าวความเพิ่มเติม รายงานว่าหมอที่เขตแพร่ระบาดบอกว่าเสี้ยหลีโม่ไม่มีหนทางรักษาโรคให้หายได้จึงหนีไปแล้ว

ฮองไทเฮาเดือดดาล ไม่ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วน รับสั่งให้จับกุมเสี้ยหลีโม่เสีย ยิ่งไปกว่านั้นยังบีบบังคับให้ เฉิงเสี้ยงเสี้ยที่รับสั่งมาจากกองทัพมาด้วยกันรับโทษ

ก่อนรุ่งสาง ซือถูเย้นสั่งให้เซียวเซียวนำทหารม้าที่กลับมาแล้วเข้าเมืองไปรักษาความวงบเรียบร้อย หากพบผู้ติดเชื้อผีดิบ ให้รีบนำส่งไปที่เขตแพร่ระบาดทันที

รุ่งอรุณฟ้าสาง เขาสั่งให้ปิงปู้ซื่อหลางไม่ต้องตรวจสอบเรื่องการรบในกองทัพไปสักระยะ เขาต้องการสั่งการให้ทหารม้าประจำการอยู่ในเมืองและรอบนอก คอยตราจคนเข้าออกเมือง

แต่ต้องประสบกับคำคัดค้านของเหลียงไถ้ฝู้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม