ตอนที่ 279 ยื้อไว้ไม่รู้จบ
เหลียงไถ้ฝู้ไม่เพียงคัดค้านกองกำลังทหารม้าของซือถูเย้น ยังเสนอให้ซือถูเย้นสั่งการให้ฆ่าผู้ติดติดเชื้อผีดิบที่หมู่บ้านสือโถวทิ้งเสีย ยิ่งไปกว่านั้น หากพบผู้ป่วยผีดิบอีกให้ยิงทิ้งทันที ไม่จำเป็นต้องส่งไปยังเขตแพร่ระบาด
ข้อเสนอของเหลียงไถ้ฝู้ได้รับเสียงเห็นพ้องอยู่มาก แม้แต่ขุนนางที่เป็นกลางมาตลอด บัดนี้ล้วนเห็นด้วยกับความคิดของเหลียงไถ้ฝู้อย่างล้มหลาม
เหตุเพราะเหตุเพราะผู้ติดเชื้อผีดิบเกิดอาละวาดเมื่อคืนก่อน ผู้ติดเชื้อจึงแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างเข้าไปในเมือง ทำให้คนเกิดหวาดผวา ไม่มีใครรู้ได้ว่าเมื่อใดจะถูกกัด เพื่อป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นทุกคนล้วนคิดว่าเมื่อพบผู้ติดเชื้อก็ฆ่าทิ้งเสียเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ทัศนะของซือถูเย้นมั่นคงแน่วแน่ “ประการแรก ข้าต้องสั่งการให้ทหารม้าออกตรวจ มิได้ขอความเห็นจากพวกเจ้า นี่เป็นการชี้ขาดของข้า ประการต่อมา ข้าไม่สามารถสั่งการให้ฆ่าผู้ติดเชื้อผีดิบได้ ระยะเวลาของเสี้ยหลีโม่ที่รับสั่งจากกองทัพยังไม่ถึงกำหนด รับสั่งจากกองทัพฉับนี้ควบคุมนางไว้อยู่ และควบคุมราชสำนักไว้เช่นกัน ดังนั้นเรื่องยิงเพื่อฆ่าต้องหยุดเอาไว้เจรจาอีกครั้ง
เหลียงไถ้ฝู้น้ำตาไหลอย่างเจ็บปวด “ใต้เท้าเผด็จการ ปกป้องเสี้ยหลีโม่ เป็นต้นตอทำให้เหตุร้ายขึ้น”
เหลียงไถ้ฝู้ร้องไห้ต่อหน้าฮองไทเฮา
ฮองไทเฮากล่าวด้วยความโกรธแค้น นางรู้สึกกังวลใจไม่จบสิ้น “ข้าสั่งการให้จับกุมเสี้ยหลีโม่แล้ว รออีกสักสองวันเถิด”
เหลียงไถ้ฝู้กล่าวอย่างโกรธแค้น “ฮองไทเฮา บัดนี้อ๋องซื่อเจิ้งตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว ไม่สนใจความเห็นของข้าราชบริพาร ทั้งยังปกป้องเสี้ยหลีโม่ ชัดเจนว่ามีหมอให้การไว้ว่าเสี้ยหลีโม่หลบหนีไป เขาเพิกเฉยอยู่เต็มเปา กระหม่อมเสนอให้ฆ่าผู้ติดเชื้อทิ้งเสีย ยับยั้งความหายนะครั้งใหญ่ เขากลับรอเสี้ยหลีโม่กลับมา ผู้ใดจะทราบได้เล่าว่านางจะกลับมาหรือไม่? หากไม่กลับมา รอเช่นนี่ต่อไป แคว้นต้าโจวของกระหม่อมไม่ช้าก็เร็วคงกลายป็นดินแดนอันมอดไหม้”
ฮองไทเฮาไม่เห็นพ้องต้องความ “ไท่ฝู้วิตกต่อแคว้นต้าโจว เป็นกังวัลจนโกรธแค้นก็มิอาจหักห้ามได้ แต่อย่าก่อเหตุตื่นตระหนกไปเลย”
เหลียงไท้ฝู้ร้อนรน” ไทเฮา กระหม่อมมิได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด นี่ยังไม่พ้นค่ำคืนนี้ไป ผู้ติดเชื้อผีดิบในเมืองได้ทะลุไปถึงพันรายเสียแล้ว”
ฮองไทเฮาทราบดีว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อผีดิบอาละวาดกัดผู้คน แต่คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะรุนแรงถึงเพียงนี้
“ฮองไทเฮาสั่งการคนไปตรวจดูเสียหน่อย เสี้ยหลีโม่เผ่นหนีไปแล้ว ผู้ติดเชื้อผีดิบไม่มีทางรักษา บัดนี้บ่งชี้ได้ว่าเป็นสัญญาณว่าจะเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในเมือง กระหม่อมรอฎีกาจากราชสำนักวันนี้ รับสั่งให้ใต้เท้าฆ่าผู้ป่วยผีดิบทิ้งเสีย กระหม่อมรู้ดีวิธีนี้ทารุณมาก แต่หากไม่มีทางเลือก เหตุเพราะไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็คงไม่พ้นจากความตาย แทนที่จะปล่อยไปตามชะตากรรมสู้ชิงปลิดชีพพวกเขาเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยยังรักษาจำนวนผู้ติดให้ลดลงได้”
ครานี้ทำฮองไทเฮาลังเลใจ ตามจำนวนผู้ติดเชื่อในคืนก่อน ถ้าหากคืนนี้ปรากฏผู้ติดเชื้อแพร่ออกไปอีก เช่นนั้นก็มิอาจมีผู้ใดทราบได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นอีกเท่าใด
หากแต่ว่า จะต้องฆ่าพวกเขาจริงหรือ? บัดนี้พวกเขาแม้ถูกแพร่เชื้อ แต่เดิมทีเป็นเพียงชาวบ้านที่มิรู้ความอันใด
“เฉิงเสี้ยงเล่า? ”
“เฉิงเสี้ยงอยู่ด้านนอกขอรับ” ซุนกงกงรายงาน
“ตามเข้ามา” ฮองไทเฮารับสั่ง
“พ่ะย่ะค่ะ” ซุนกงกงขานรับ เชิญเฉิงเสี้ยงเสี้ยที่อยู่ด้านนอกโถงให้เข้าเฝ้า
เฉิงเสี้ยงเสี้ยคุกเข่าลงบนพื้น สีหน้าซีดเผือด “ไทเฮา กระหม่อมมีความผิด”
ไทเฮามองเขา คิดเรื่องเหล่านั้นที่เขากระทำขึ้นมาได้ ภายในใจไม่สามารถละความเกลียดชังได้ “แน่นอนว่าเจ้ามีความผิด คำสั่งของกองทัพเจ้าก็ได้รับสั่งการเช่นกัน บัดนี้ไม่พบตัวลูกของเจ้า เจ้าว่ามาสิ เรื่องนี้ควรจัดการอย่างไร? ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยโน้มตัวลงต่ำ “กระหม่อมมิทราบว่าลูกทรพีจะหลบหนีไป เดิมทีนางรับปากอย่างจริงใจว่าจะรักษาให้หาย เมื่อกระหม่อมรับสั่งจากกองทัพ ย่อมยอมถูกลงทัณฑ์ ไทเฮาโปรดตัดสินโทษ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...