พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 295

ตอนที่ 295 ให้ยืมเครื่องแต่งกาย

ชิงหนิงเก๋อของกุ้ยไทเฟย

“ไทฮองไทเฮามีพระราชทานสมรสด้วยตนเอง อีกทั้งพิธีอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นสามวันให้หลังอีก รู้ไม่ว่าเป็นบุตรสาวตระกูลไหน? ”กุ้ยไทเฟยถามอาฝู

อาฝูตอบ “ไม่มีใครรู้เลย เกรงว่าแม้แต่ฮองไทเฮาเองก็ไม่รู้”

“ไม่ ข้ารู้สึกว่านางรู้”กุ้ยไทเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็คิดไม่ออกว่าไทฮองไทเฮาจะพอใจบุตรสาวตระกูลไหน ถึงกระทั่งออกโรงพระราชทานสมรส

นี่ทำให้รับรู้ถึงความอันตรายที่มีอยู่รอบตัว

อาฝูพูด “ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนดีกว่าเสี้ยหลีโม่”

กุ้ยไทเฟยพูด “ไม่ผิด ดีกว่าเสี้ยหลีโม่อย่างแน่นอน ในเมื่อวันนี้เสี้ยหลีโม่มีชื่อเสียงในหมู่ราษฎร ราษฎรเคารพเคารพเลื่อมใสนางดุจพระโพธิสัตว์ ถ้าหากนางยังไม่ตายแล้วกลับมาแต่งงานกับซือถูเย่ ไม่ส่งผลดีต่อพวกเรานัก”

อาฝูพยักหน้า “ใช่แล้ว ถ้าเสี้ยหลีโม่กลับมา จะไม่เอื้ออำนวยต่อไท่เฟยและอ๋องหนานหวย การอภิเษกครั้งนี้ฉุกละหุกเช่นนี้ มีเวลาตระเตรียมแค่เพียงสามวัน ถึงตอนนี้จะส่งจดหมายให้อ๋องหนานหวย ท่านอ๋องก็คงกลับมาไม่ทัน ไม่อย่างนั้น กุ้ยไทเฟยเข้าวังไปปรึกษากับฮองไทเฮาสักหน่อย ดูว่าจะสามารถเลื่อนวันอภิเษกออกไปได้หรือไม่ พูดว่าอยากให้อ๋องหนานหวยกลับมาดื่มสุรามงคลของพี่ชายสักจอก นี่คงไม่เกินไปหรอกกระมัง? ”

กุ้ยไทเฟยส่ายมือ “ยากมากทีเดียว ไทฮองไทเฮาทำเช่นนี้ ข้าสงสัยว่าคงต้องการให้เสร็จงานอภิเษกโดยไว ไม่ให้เหล่าปากลับมา”

“แต่ว่า ท่านอ๋องไว้ทุกข์อยู่ไม่ใช่หรือ? สามารถนำเหตุผลนี้ไปพูดกับฮองไทเฮาได้ แล้วค่อยให้ฮองไทเฮาพูดกับไทฮองไทเฮาก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? ทั้งหมดนี้ไม่สามารถอภิเษกได้ในช่วงไว้ทุกข์มิใช่หรือ? ”อาฝูพูด

กุ้ยไทเฟยพูด “ซือจู๋ตายไปแล้วจนถึงตอนนี้ ยังไม่ครบร้อยวัน ถ้าแต่งงานภายในร้อยวัน ก็ใช้ข้ออ้างเพื่อไว้ทุกข์ได้ ไทฮองไทเฮาเจาะช่องโหว่ตรงนี้ ดังนั้นเลยใช้เหตุผลนี้ไม่ได้”

บิดามารดาแท้ๆ ตายจากไป ต้องไว้ทุกข์ยี่สิบเจ็ดเดือนหรือสามปี พ่อแม่ที่เลี้ยงมาตายไว้ทุกข์หนึ่งปี นี่คือประเพณีของแคว้นต้าโจว

ยังมีสถานการณ์อีกอย่าง นั่นก็คือบิดามารดาตายไปแล้วแต่งงานภายในหนึ่งร้อยวัน ก็ใช้ข้ออ้างเพื่อไว้ทุกข์ได้

ประชาชนใช้วิธีเช่นนี้กัน อีกทั้งในจรรยาบรรณก็มีกล่าวไว้ชัดเจน ถ้ามีเหตุผลที่ขัดไม่ได้ สามารถนำจรรยาบรรณตรงข้ามกับการไว้ทุกข์มาใช้ได้

แต่ว่าขุนนางชั้นสูงจนกระทั่งตระกูลของราชวงศ์มักจะทำเช่นนี้กันน้อย เพราะว่าคนพวกนี้ล้วนให้ความสำคัญกับข้อห้ามสองคำนี้ พิธีศพพึ่งผ่านพ้นไป ก็จัดงานมงคล ค่อนข้างจะมีโชคไม่ดี ยิ่งเป็นผู้มีอำนาจหรือร่ำรวยมากๆ ยิ่งไม่ยอมทำเรื่องเช่นนี้ ยอมที่จะรอสักหนึ่งปีหรือสามปีดีกว่า

อีกทั้งในวันนี้ไม่ได้เข้มงวดกับการไว้ทุกข์มากขนาดนั้นแล้ว คนจำนวนมากล้วนไว้ทุกข์แค่หนึ่งปี

หนึ่งร้อยวันกับหนึ่งปีนี้ เดิมทีก็ไม่ได้แต่งต่างกันมากนัก ตระกูลที่มีอำนาจร่ำรวยจัดงานมงคล อย่างไรก็ต้องใช้เวลาตระเตรียมหลายเดือน แม้กระทั่ง ถ้าจะจัดงานใหญ่โตมโหฬารต้องใช้เวลาตระเตรียมหนึ่งปีขึ้นไป

อาฝูเสียดายโอกาสครั้งนี้มาก “ถ้าท่านอ๋องสามารถกลับมาเมืองหลวงในเวลานี้ได้ คงจะดีมากเชียว”

กุ้ยไทเฟยก็คิดอย่างนั้น แต่ว่างานอภิเษกครั้งชัดเจนว่าไม่สามารถให้เหล่าปากลับมาได้

แต่ว่าไว้ทุกข์สองคำนี้ กลับทำให้นางได้สติขึ้นมา

ถ้าไม่ใช่เพราะจะมีงานมงคลละ แต่เป็นงานศพแทน?

“ใช่แล้ว นายหญิงแก่จวนเฉิงเสี้ยงตายไปแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่? ”กุ้ยไทเฟยถาม

อาฝูพูด “ตายในเขตโรคระบาดแล้ว ถูกราษฎรทำร้ายจนตาย ช่างน่าเวทนานัก ใบหน้าเละ แม่ทัพหลี่เก็บร่างแล้ว แต่ถูกราษฎรแย่งชิงมาอีกรอบ พูดว่าให้ซากกระดูกนางไม่มีเหลือให้ฝัง”

กุ้ยไทเฟยคิดถึงแผนการของนาง “น่าเสียดาย”

ถ้าสามารถใช้ประโยชน์จากนางได้ นายหญิงแก่ผู้นี้ก็เป็นกองหน้าของนางคนหนึ่ง

“ในเมื่อวันนี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยยังอยู่ในคุกของสิงปู้ ไทเฟยยังต้องการหรือไม่? ”อาฝูทดลองถามดู

กุ้ยไทเฟยฝืนยิ้ม “เฉิงเสี้ยงเสี้ยที่ไม่มีนายหญิงแก่ จะมีประโยชน์อันใด? ”

สามวันต้องตระเตรียมงานอภิเษกที่ใหญ่โต ทำให้หลี่ปู้และตำหนักนางในลำบากหันมาก

พวกเขาล้วนใช้ทักษะความสามารถของทุกคน ก่อนอื่นก็ตกแต่งตำหนักอ๋อง ต่อมาก็ตระเตรียมของต่างๆ ที่เกี่ยวกับพิธีอภิเษก

แต่ว่าก็ลดขั้นตอนไปไม่น้อยก็คือไม่รู้ว่าเจ้าสาวเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องฝึกมารยาทและกฎระเบียบพวกนั้น ไม่ต้องพิจารณาพวกสินทอด

แต่ใช้เวลาสามวันในการตระเตรียมงานอภิเษกที่ใหญ่โต ก็แทบทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

เพื่อประหยัดเวลา นางในก็หาหูฮวนซีของติ่งเฟิงเจอ ให้นางจัดเตรียมงานเลี้ยง ก็พูดได้ทั้งหมดในงานเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบอาหารจนถึงพ่อครัวล้วนเป็นติ่งเฟิงภายใต้ร้านจู้เสียนทั้งสิ้น แต่ว่าเพราะตำหนักอ๋องไม่เคยจัดงานเลี้ยงใหญ่ๆ มาก่อน อีกทั้งยังเป็นยังเป็นราชโองการจากไทฮองไทเฮา ขุนนางที่อยู่ในราชสำนักเช้านั้นล้วนต้องเข้าประชุมออกเสียง มีนัยว่าจะมีแขกมาจำนวนมาก

สิ่งที่ทำให้ลำบากที่สุดในตำหนักก็คือชุดแต่งงานของเจ้าสาว นี่จะทำอย่างไรได้? มีเวลาแค่สามวัน ถึงแม้นว่าพวกช่างปักผ้าจะทำงานทั้งวันทั้งคือก็ไม่อาจทำออกมาได้

เพราะว่าชุดแต่งงานขององค์ชาย ช่างปักก็ซับซ้อนมาก ทำให้ละเอียดๆ หน่อยก็ทำเป็นครึ่งปีก็มี ถึงแม้นไม่ค่อยพิถีพิถัน อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งเดือน

สามวันนี้ จะไปเอาชุดเจ้าบ่าวขององค์ชายออกมาจากไหนได้?

นางในทางนั้นนับว่าจะระเบิดแล้ว ไม่มีทางเลือก หัวหน้านางในเลยไปหาฮองไทเฮา ฮองไทเฮาคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูด “รีบทำไปก็ไม่ทันแล้ว เอาแบบนี้แล้วกัน ตอนพิธีอภิเษกของอ๋องหลี่ชินตอนนั้น ชุดมงคลเป็นตัวข้าเองที่สั่งให้คนทำให้ ข้าไปยืมมาจากเขาแล้วกัน”

หัวหน้านางในฝืนยิ้ม “ถามอ๋องหลี่ชินเพื่อยืมของ ไม่ใช่ว่ายากกว่ารีบทำให้เสร็จหรือเพคะ”

อ๋องหลี่ชินไม่ใช่คนใจแคบหรือขี้เหนียว เขาเพียงแค่คิดว่าสิ่งของบางอย่างเป็นเฉพาะตน ไม่สามารถให้ผู้อื่นยืมได้

ฮองไทเฮายิ้ม “แน่นอนว่าข้ามีหนทางจัดการเขา”

หลังจากหัวหน้านางในออกไป ฮองไทเฮากำชับให้ซุนกงกงเตรียมตัว แล้วเรียกให้อ๋องหลี่ชินเข้าวัง

เป็นไปตามคาด อ๋องหลี่ชินได้ยินว่าฮองไทเฮาถามจะยืมชุดมงคลของเขา ก็ดึงหน้าไม่พอใจแล้วพูด “นี่ไม่สามารถให้ยืมได้ นี่จะให้คนอื่นยื่มได้อย่างไรกัน? ทุกอย่างยืมได้หมด กางเกงในก็ยืมได้”

“เหล่าซาน นี่ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยหรอกหรือ? ”ฮองไทเฮาพูดชักจูง

“ก็สามารถไปยืมคนอื่นได้นิ ทำไมต้องจงใจมาถามข้าละ? ”อ๋องหลี่ชินพูด

“เย้นเอ๋อร์เป็นอ๋องซื่อเจิ้ง ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด ชุดของเจ้าละเอียดพิถีพิถันและงดงามที่สุดแล้ว”

อ๋องหลี่ชินพูดฉีกหน้า “การแต่งงานไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด จะต้องพิถีพิถันกันขนาดนั้นเชียวหรือ? ไม่สามารถใส่ใส่ไปสักชุดหรือ? สามารถใช้ชุดองค์ชายของเขาได้นิ ชุดของอ๋องซื่อเจิ้งก็ใช้ได้”

“เอาเถอะ ข้าก็ไม่ถามเจ้าแล้ว จำสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าเมื่อก่อนได้ ชุดมงคลของเจ้าก็สำคัญมาก ต่อไปพูดไม่ได้ว่าเจ้าอาจจะได้แต่งงานอีก เจ้าเก็บไว้เถิด หลีกเลี่ยงว่าภายหลังจะได้ไม่ต้องทำอีก”ฮองไทเฮาพูด

อ๋องหลี่ชินตกตะลึง พูดอ้ำอึ้ง “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดเล่นหรอกหรือ? ”

ตอนนั้นที่อภิเษก ไม่ชอบหวางเฟยมากๆ คนไม่งาม แถมยังดุร้ายมากอีก ดังนั้นตอนเข้าวังมาคำนับ ทุกคนล้วนต่างพูดถึงเรื่องนี้ขึ้น พูดว่าภรรยาเขาดุร้าย เขาก็เลยพูดว่าต่อไปจะแต่งงานอีกสักคน

ล้วนเป็นคำพูดตอนที่เขาโกรธทั้งสิ้น ชีวิตนี้เคยเกิดเรื่องขบขันขนาดนั้นครั้งหนึ่ง

“เป็นเรื่องขบขันก็ดี เรื่องจริงก็ดี ข้าได้ยินเจ้าพูดถึงภรรยาว่าไม่ใช่หลายครา วันนี้คิดไปคิดมา เก็บชุดมงคลนี้ไว้ก็ดี ข้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะต้องเปลี่ยนสะใภ้สักคนแล้ว”

อ๋องหลี่ชินเบิกตากว้าง “พูดเหลวไหล ข้าพูดเมื่อไหร่กันว่านางไม่ใช่? ”

“เจ้าเคยพูดว่านางดุร้ายใช้หรือไม่? ”

อ๋องหลี่ชินคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เคยพูด”

“เจ้าพูดว่านางหยาบคาย? ”

อ๋องหลี่ชินพยักหน้า “เหมือนว่าจะเคยพูด”

“เจ้าพูดว่านางไม่สวย? ”

อ๋องหลี่ชินกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง “อันนี้ ไม่สวยก็ไม่สวย มองแล้วสบายตาก็ไม่เป็นไรแล้ว ”

“อั๊ย องค์หญิงเป่ยอานที่สง่าผ่าเผยแต่งกับเจ้า กลับถูกเจ้าพูดว่าทั้งหยาบคายทั้งดุร้ายทั้งไม่สวย นี่ช่างไม่เป็นธรรมเสียเลย”ฮองไทเฮาพูดแล้วถอนหายใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม