ตอนที่ 349 เลือดเขาละมั่ง
ซื้อสมุนไพรมาแล้ว เสี้ยฮ่าวหรานให้เสี่ยวพ่างต้มยา ฉินจื่อสั่งให้คนนำหม้อดินและกาใส่ยามาอย่างละสิบกว่าใบ เพื่อต้มยาข้างในจวน
หลีโม่และหมอหลวงก็เข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน หลีโม่มองอยู่ที่หน้าประตู
เขาได้คิดคำนวณสารพิษไว้หลายชนิดแล้ว แต่ว่ายังมีอีกไม่กี่ชนิดที่มีลักษณะแตกต่างกัน วิธีการถอนพิษก็จะไม่เหมือนกันเช่นเดียวกัน ตอนนี้เรื่องที่เขาต้องทำคือถอนพิษแต่ละชนิดให้ได้ จากนั้นค่อยนำมาผสมกันเพื่อถอนพิษทั้งหมดเป็นทั้งตอนสุดท้าย แต่นี่เป็นงานหนักทีเดียว ระยะเวลาเพียงวันเดียวไม่เพียงพอที่จะสำเร็จได้
ดังนั้นหลังจากวิเคราะห์ดูชุดแรกเสร็จ หลีโม่จึงถามเสี้ยฮ่าวหรานขึ้น ”ฮ่าวหรานข้าอยากถอนเข็มผนึกเส้นทาง แต่เช่นนี้พิษก็จะแล่นไปทั่วทันที ตอนนี้เจ้ามีวิธีชะลอการกระจายของพิษหรือไม่“
เสี้ยฮ่าวหรานพลิกกระเป๋าไปมาค้นหาของ เขานำขวดใยหนึ่งออกมา ในขวดบรรจุหนอนตัวหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับตะขาบ แต่ไม่ได้มีขามากมายเท่าตะขาบ แต่ละปล้องเป็นสีแดง มันคลานช้าๆอยู่ในขวด ”ใช้เจ้านี่“
”นี่คืออะไร“ หลีโม่ถาม
เสี้ยฮ่าวหรานตอบ ”นี่คือหนอนเจ็ดปล่อง ทุกปล่องสามารถผลิตพิษได้ หากได้รับเข้าไปมันจะดูดพิษส่วนใหญ่ของร่างกาย แต่หนอนเจ็ดปล่องมันจะตายภายในเจ็ดวันหากเข้าไปอยู่ในร่างกาย เมื่อตายแล้วพิษในตัวของมันก็จะปะทุขึ้นเช่นกัน และมนุษย์ก็จะตายลง“
”กล่าวได้ว่า สามารถระงับพิษไว้ได้เจ็ดวัน“ หลีโม่ถาม
”ใช่แล้ว หลังจากเจ็ดวันก็จะนำหนอนเจ็ดปล่องนี้ออกมา“
”ถ้านำออกมาแล้ว พิษขององค์หญิงก็ถูกถอนแล้วหน่ะสิ“ หลีโม่คาดหวังในคำตอบ ฟังประโยชน์จากเขาแล้ว หากหนอนเข้าไปในร่างกายก็จะดูดซับพิษออกมาได้มาก ถ้าเช่นนั้นเมื่อนำหนอนเจ็ดปล่องออกมาก็แปลว่านำพิษออกมาด้วย
เสี้ยฮ่าวหรานส่ายหัว ”พี่หญิง หากทำเช่นนั้นได้จะต้องการยาถอนพิษไปทำไมเล่า หลังจากที่หนอนเจ็ดปล่องเข้าสู่ร่างกายมันจำนำปล้องของมันเก็บพิษแค่ชั่วคราวเท่านั้น มันจะไม่สามารถขยับได้อีก หากขยับปล่องนั้นจะคลายพิษทันที พิษที่เก็บไว้ในปล่องก็จะแพร่กระจายออกมาทันที“
หลีโม่ไม่เข้าใจจริงๆ หนอนตัวนึงสามารถดูดซับพิษได้ แต่หากมันอยู่ในลำไส้จะดูดพิษทั้งหมดในร่างกายได้อย่างไร เมื่อพิษกระจายหลอดเลือดและอวัยวะภายในก็จะเป็นพิษไปด้วย
อ่า เอาเถอะ นางสับสนนัก ช่วงนี้สมองนั้นทำงานได้ไม่ดีเลยจริงๆ
เมื่อจุดฝังเข็มถูกถอนออก การไหลเวียนของเลือดก็จะทำงานอีกครั้ง พิษจะแพร่ไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อนั้นก็ทำการดูซับสารพิษเอาไว้
แต่หนอนเจ็ดปล้องนี้พิลึกเกินไป
หากกลับมาในยุคปัจจุบันได้ นางอยากจะกลับมาค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง ในยุคปัจจุบันนางไม่เคยพบสิ่งเหล่านี้
ด้วยเหตุนี้หลีโม่จึงราวกับเพื่อนตัวน้อยร่วมชั้นศึกษาปรุงยาถอนพิษกับเสี้ยฮ่าวหราน เพียงแค่เริ่มต้นนางก็เริ่มเป็นผู้นำอย่างช้าๆ เพราะแม้ว่าเสี้ยฮ่าวหรานจะรู้การแก้พิษ สามารถแยกชนิดพิษได้ แต่ไม่ได้มีประสบการณ์จริง น้ำหนักมือยังไม่เสถียรนัก หลีโม่และหมอหลวงจึงค่อยๆแก้ให้เขา
เสี้ยฮ่าวหรานมีเข็มเงินอยู่เล่มหนึ่ง เอาไว้ทดลองยาพิษโดยเฉพาะ เข็มเล่มนี้มีลักษณะพิเศษคือแยกพิษที่ต่างกันออกไปจากสีเข็มที่ต่างกันออกไป
หลีโม่เริ่มไม่เชื่อว่าเข็มเงินนั้นสามารถแยกยาพิษได้ สมัยก่อนนั้นใช้เข็มเงินทดสอบยาพิษเนื่องจากสมัยก่อนนั้นใช้พีซวงเป็นพิษกันมากมายเกินกว่าครึ่ง พีซวงจะสกัดสิ่งปฏิกูลออกไปจะเหลือคราบกำมะถัน และเล่มเข็มนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีดำ หากพิษไม่มีสิ่งปฏิกูลอื่นๆ เข็มก็จะไม่เปลี่ยนเป็นสีดำ ดังนั้นหากใช้เข็มเงินก็จะไม่สามารถตรวจสอบพิษอื่นๆได้
แต่เข็มเล่มนี้ของเสี้ยฮ่าวหรานกลับใช้แยกสีที่แตกต่างกันในพิษชนิดที่ต่างกันออกไปได้ น่าแปลกจริง
หลีโม่รู้สึกว่าตนนั้นประเมินภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนต่ำไปเสียแล้ว และคนในสมัยก่อนอาจไม่สามารถจินตนาการได้ว่าในยุคหนึ่ง มนุษย์สามารถรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ได้ด้วยกระดาษทดสอบเพียงแผ่นเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...