ตอนที่ 350 องค์รัชทายาทแคว้นเหลียง
ต่อมาจึงพลิกหาหนังสืออย่างหนักว่าที่ใดมีบันทึกเลือดเขาละมั่ง
แต่ทุกคนหากันอยู่นาน ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเลือดเขาละมั่งเลย
ตอนนั้นรู้สึกหมดหวัง จึงนำทหารออกจากวังไป
เขาได้ยินชื่อเลือกเขาละมั่งก็ต้องรู้สึกแปลกใจ ขมวดคิ้วคิดแล้วคิดอีก จึงกล่าวกับซือถูเย้น “ข้าน้อยได้ยินมาว่าองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงเคยมีเลือดเขาละมั้งอยู่คู่หนึ่ง เคยเป็นของหมอเวินยี่ ต่อมาก็ยกให้กับองค์หญิงจิงม่อ และได้ยินมาว่าองค์หญิงยกให้กับองค์รัชทายาทแคว้นเหลียง
คำของหย้วนพ่าย ทำให้ทุกคนเลือดขึ้นหน้า
เพราะองค์รัชทายาทแคว้นเหลียงจะเดินทางมายังเมืองนี้ในค่ำนี้ หากเขามาเลือดเขาละมั่งจริงและยินดีให้ยืน จักต้องกลับไปเอาที่แคว้นเหลียงและต้องใช้เวลาถึงสิบวัน
ตอนนี้หนอนเจ็ดปล้องทำไปอยู่ในร่างกายได้เพียงเจ็ดวัน มีเวลาเพียงสามวัน บวกกับระยะเวลาเดินทางอีกสิบวัน
องค์รัชทายาทเคยมาที่แคว้นต้าโจวสองครั้ง รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม
ทุกครั้งที่มาล้วนได้การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากแคว้นต้าโจว แต่คงไม่สู้ครั้งนี้
เขายังไม่ทันถึงหน้าประตูเมืองก็เห็นทหารยืนเรียงรายขนาบทั้งสองข้าง พรมแดงปูยาวตั้งแต่ประตูเมืองยาวไปครึ่งไมล์ ทั้งสองข้างทางมีผู้คนยืนเคารพไปตลอดทาง เมื่อเห็นม้าของเขาก็เริ่มบรรเลงเพลงและจุดดอกไม้ไฟ เพราะว่าฟ้ายังไม่มืดจึงไม่ได้สวยมากนัก แต่มันทำให้องค์รัชทายาทซ่งรุ่ยหยางแห่งแคว้นเหลียงน่าเกรงขามจริงๆ
เมื่อกองทหารเข้ามาใกล้ เขาเห็นคนกลุ่มนึงเป็นเงาๆลุกขึ้นยืนตรงหอกำแพง เมื่อเพ่งพินิจถี่ถ้วนก็เห็นว่าเป็นคนในราชวงศ์เกือบทั้งหมด อ๋องหลี่ชิน ฮ่องอานชิน อ๋องซื่อเจิ้ง อ๋องติ้งโก๋ อ๋องเหลียง อ๋องเป่ยเซียง เหลียงเหาเย๋ และคนในวังอีกมากมาย
เขารีบถามไถ่ผู้คนที่รายล้อมเขา “แคว้นต้าโจวแห่งนี้เกิดอันใดขึ้น เหตุใดจึงต้อนรับข้ายิ่งใหญ่เช่นนี้”
ผู้ติดสอยห้อยตามมาก็ตกใจเช่นกัน “หม่อมฉันก็มิรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น เหล่าท่านอ๋องซื่อเจิ้งออกมาต้องรับค่อนข้างผิดปกติ”
ต้องรู้ว่าอ๋องซื่อเจิ้งบัดนี้รอราชาเป็นแคว้นสหาย ต้อนรับองค์รัชทายาทของแคว้นอื่นท่านนี้ ก็ไม่ควรต้องมาลงแรงเช่นนี้ หากอยากต้อนรับก็ไม่จำเป็นต้องมาถึงประตูเมือง
ขบวนรถหยุดลง องค์รัชทายาทแคว้นเหลียงซ่งรุ่ยหยางก้าวลงจากรถ ผ้าทรงเครื่องสีขาวพัดปลิวไสวอยู่ท่านกลางสายลมหนาว ถึงแม้ว่าอายุสามสิบหกสามสิบเจ็ดแล้ว กลับรูปโฉมงดงามไม่เปลี่ยน
ในวังของแคว้นเหลียงเป็นดั่งยก ใต้ฟ้าบนดินล้วนรู้ดีว่าองค์รัชทายาทผู้นี้จะต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ของแคว้นเหลียง และบรรพบุรุษของซ่งรุ่ยหยางนั้นรูปโฉมงามเลอค่า
ซ่งรุ่ยหยางนำคณะทูตเข้าไปในวัง ซือถูเย้นก็ก้าวเข้าไปเช่นกัน ยังไม่ทันคณะทูตจะได้คำนับ ซือถูเย้นก็คว้ามือของซ่งรุ่ยหยาง ภาพที่คุ้นเคยกันดี “พี่น้องซ่ง เดินทางมาเหนื่อยเลยใช่หรือไม่ ข้าจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับเลย”
พี่น้องซ่งคำนี้ทำเอาซ่งรุ่ยหยางตาโตเกือบจะถลนออกมา เขามองซือถูเย้น ดวงตาฉายแววสงสัย “ท่านอ๋อง…นี่” เขากลับไปมองทางด้านหลัง คณะทุตรีบคำนับทันที
“อืม!” ซือถูเย้นคิดเรื่องขนมขึ้นมาได้ โบกมือห้าม “พวกเราแคว้นต้าโจวและแคว้นเหลียงก็เหมือนพี่น้องกัน พิธีรีตองไม่ต้องมากมาย ไม่ต้องมากพิธี ไม่ต้องมากพิธี”
“ขอบพระทัยอ๋องซื่อเจิ้ง” เหล่าคณะทูตกล่าว
ซ่งรุ่ยหยางรู้สึกประหลาดใจจนเข้ามาถึงในพระราชวัง เพิ่งลงรถมาก็พบว่ากองทหารของราชสำนักนั้นมากมาย ปากประตูมีประทัดดังขึ้นมา เมื่อเข้าเข้าไปก็เกิดเสียง “ปัง ปัง ปัง” ขึ้น เขาทำให้รู้สึกกลัวจนหน้าซีดขาว
เขายังไม่ทันได้ทั้งตัวก็ถูกนำเข้าสู้โถงงานเลี้ยง เหล่าท่านอ๋องพากันมาคำนับถ้วยเหล้าอย่างต่อเนื่อง เขาจึงดื่มไปแล้วเจ็ดแปดถ้วย
มีขุนนางท่านหนึ่งอยากช่วยเขาสำรวจส่วนผสมเหล้า ซือถูเย้นเข้ามาจับถ้วยเหล้าไว้ ยกถ้วยทำความเคารพ อ๋อง ท่านอื่นๆก็เคารพเช่นกัน ขุนนางท่านนี้เพียงต้องการช่วยองค์รัชทายาทดื่ม สุดท้ายตนเองก็ดื่มไปถึงเจ็ดแปดถ้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...