ตอนที่ 373 ปาฏิหาริย์มีจริง
นางสูดน้ำมูก แล้วก็ยื่นมือมาจับผมเขา จัดเอาผมที่ยุ่งๆของเขาให้เป็นระเบียบ แล้วก็เอามือมาปัดที่คิ้วและดวงตาของเขา เหมือนกับว่าจะดูให้แน่ใจว่าคนนี้เป็นคนที่นางรู้จัก
“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าไม่น่าจะไปหาองค์รัชทายาทเลย ไปแล้วก็ได้รับโทษเช่นนี้ ทำอะไรบ้าๆ ” อี้เอ๋อร์กล่าว เนื่องจากมีคนอยู่ตอนนั้นจำนวนมาก นางไม่ค่อยสะดวกเท่าไร เสียงค่อนข้างสั่นเครือ
นางนิ่งไป แล้วกันมาบอกหลีโม่ว่า “ข้าต้องพูดอะไรบ้าง?”
หลีโม่เช็ดน้ำตา “พูดอะไรก็ได้”
อี้เอ๋อร์ตอบรับ แล้วหันไปจับอ๋องเหลียง แต่กลัวดึงเขาเจ็บก็เลยเอามือเขามาวางบนหลังมือตนเอง แล้วพูดเบาๆว่า “ตอนนี้ข้าไม่ทำการค้าแล้ว แม่ข้าบอกว่ามันหาเงินได้ไม่เยอะ แถมยังโดนหลอกอีก ตอนนี้ข้าอยู่บ้านเลี้ยงซื่อเย่น ตอนเช้าก็เอามันออกเดินเล่น กลางวันออกอีกที ตอนเย็นก็พาออกไปอีกที ตอนที่ข้าพามันออกไปนั้น ข้าก็คิดถึงเจ้า ข้าเคยลองไปหาเจ้า แต่ไม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหน เมืองหลวงก็กว้างใหญ่ ข้าถามไถ่หลายคน ก็ไม่มีใครรู้จักเจ้า พวกเขาบอกว่าไม่รู้จักชื่อต้าโถวเลย มีคนหนึ่งบอกว่ารู้จักเจ้า แต่จะเอาเงินตั้ง5ตำลึง ข้าก็เลยกลับไปขโมยเงินแม่ข้ามาให้เขา แต่สุดท้ายเขาไม่นำทางข้าไป เอาเงินของข้าหนีไป กลับบ้านมาก็ถูกท่านแม่ตีอีก”
“แม่ข้าโหดมาก หยิบอะไรได้ก็เอามาตีหมด ตอนนั้นที่ข้าขโมยเงิน แม่เอาด้ามไม้กวาดมาตีข้า เจ็บมาก แต่ว่า ตอนหลังนางก็เอายามาทาให้ข้า ยังปลอบข้าอีกว่า อย่าเสียใจไป แม่เจ้าก็จะปลอบเจ้าเช่นกันนะ”
อี้เอ๋อร์พูดไปพูดมา ก็ไม่รู้จะพูดอะไร จริงๆแล้วชีวิตนางก็ไม่มีอะไรให้เล่ามากมาย
คิดไปคิดมา นางก็หันหน้าไปมองหลีโม่ ถามเบาๆว่า “ข้าถามเขาได้มั้ย?”
“ได้สิ” หลีโม่ตอบ
อี้เอ๋อร์หน้าเริ่มแดง “แต่ว่าคำถามข้านั้นไม่อยากให้ทุกคนได้ยิน”
“งั้นเดี๋ยวพวกเราออกไป หรือไม่เจ้าก็พูดข้างหูเขา ” หลีโม่กล่าว
อี้เอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง จะให้พวกหลีโม่ออกไปก็ไม่ค่อยเหมาะ เพราะทุกคนก็เป็นห่วงเขา ก็คงอยากจะดูเขา
ดังนั้น นางก็เลยเอนตัวข้างๆหูของอ๋องเหลียงแล้วพูดเบาๆ คนข้างๆไม่ได้ยิน หลีโม่ก็ไม่ได้ยิน แต่ว่า หลังจากถามแล้ว หนังตาของอ๋องเหลียงก็กระตุก นิ้วก็เริ่มกระดิก
คนในห้องตื่นเต้น ไม่กล้าพูดเสียงดัง
สีหน้าอี้เอ๋อร์นี่แดงฉาด ทุกคนก็สงสัยว่านางถามอะไรไป
“เจ้าพูดอีกสิ ” หลีโม่ยุให้นางพูดอีก
อี้เอ๋อร์ตอบรับ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก คิดอยู่พักหนึ่ง ก็พูดว่า “ถ้าเจ้ายินยอมก็ให้ไปหาแม่ข้า เจ้าต้องหายไวๆนะ”
ในที่สุดอ๋องเหลียงก็ค่อยๆลืมตาช้าๆ ดวงตาจ้องไปที่อี้เอ๋อร์ แล้วพูดเสียงแหบๆว่า “ได้เลย ” หลังจากนั้น ทุกคนก็เห็นเขาน้ำตาคลอเบ้า
อี้เอ๋อร์ก็ยิ้มขึ้น หัวเราะทั้งน้ำตา “เจ้าฟื้นแล้วหรือ? ข้าตกใจหมดเลย”
กลีโม่รีบสั่ง “เร็วเข้า รีบเอายามา”
เขาฟื้นแล้ว ป้อนยาได้แล้ว
อ๋องเหลียงกินยาแล้วก็พยายามยื่นมือมาเช็ดน้ำตาอี้เอ๋อร์ แล้วขำเบาๆ “เจ้าเด็กโง่ ”
“เจ้าจะหายมั้ย?” อี้เอ๋อร์จับมือเขาไว้ แล้วก็ใบหน้าบูดเบี้ยว ทั้งกังวลทั้งจริงจัง “แม่ทัพเซียวบอกว่าเจ้าต้องพึ่งตนเอง เจ้าต้องหายให้ได้นะ”
อ๋องเหลียงบอก “ได้เลย ”
เขานอนอย่างลำบาก แต่ก็เปลี่ยนท่านอนไม่ได้ ได้แต่นอนคว่ำเช่นนี้ เขาพยายามหันหน้าไปหาอี้เอ๋อร์ แล้วก็มองนางอย่างนั้น ไม่ยอมให้นางปล่อยมือ
“เจ้าพูดกับข้าสิ” อ๋องเหลียงพูดเสียงแหบ หนังตาเริ่มจะควบคุมไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...