พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 39

ตอนที่ 39 รายงานข่าวดี

หลีโม่เองก็ค่อนข้างละอายเช่นกัน “อันที่จริงข้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชูเซี่ย และไม่รู้ว่านางเป็นบุคคลยิ่งใหญ่อะไร เดิมทีคิดว่าไม่มีคนรู้จัก จึงกล่าวอ้างชื่อนี้ขึ้นมาหลอกลวง นี่ถือเป็นความผิดของข้าเอง”

“สมองมักง่าย” ซือถูเย้นแค่นเสียง แต่จากนั้นกลับสงสัยขึ้นมา “แม้แต่ชูเซี่ยเจ้าก็ไม่รู้หรือ”

“ข้ารู้ว่านางเป็นฮองเฮาของแคว้นเหลียง อีกประการ มีหนังสือเข็มทองคำอันเลื่องชื่อ ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้อยู่ในจวน”

ซือถูเย้นลุกพรวดพราดขึ้น “เจ้าว่าอะไรนะ หนังสือเรื่องเทคนิคทางเข็มทองคำเล่มนี้อยู่ในจวนรัฐ?”

“พูดให้ถูกต้องก็คือ อยู่กับท่านแม่ของข้านั่นเอง” หลีโม่เห็นว่าเขาตกใจเช่นนี้ ก็ค่อนข้างระวัง เอ่ยถามลองใจดู “เทคนิคทางเข็มทองคำอันนี้ เก่งกาจมากหรือ”

“เทคนิคการฝังเข็มของเจ้า ก็เรียนมาจากหนังสือเล่มนี้?” ดวงตาของเขาล็อกนางเอาไว้ ก่อนเอ่ยถาม

“ก็ใช่” หลีโม่ตอบอย่างกำกวม

ซือถูเย้นนั่งลง สีหน้าค่อยๆ เข้าใจขึ้นมา “อืม”

ซือถูเย้นช่างข่มความตื่นเต้นในก้นบึ้งหังวใจเอาไว้ไม่ได้เสียจริง ถ้าหากบอกว่าทักษะการแพทย์ของนางร่ำเรียนมาจากเทคนิคทางเข็มทองคำล่ะก็ เช่นนั้น นางจะต้องรักษาอาฮ่าวให้หายขาดแน่

เทคนิคทางเข็มทองคำที่คนตั้งมากมายเท่าใดใฝ่ฝันหา หลายกี่ปีมานี้ ต่อให้เป็นเจียงหูโลกทางการแพทย์ก็ยังเสาะหาการตกทอดของหนังสือเล่มนี้ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะตกอยู่ในมือของหลี่ซื่อ ใครจะไปคาดคิดได้กันเล่า

“ต่อไปอย่าเที่ยวเอ่ยกับคนอื่นว่าเทคนิคทางเข็มทองคำอยู่ในมือเจ้า” ซือถูเย้นกล่าวอย่างขึงขัง

หลี่ไม่ไม่เข้าใจ “ทำไมกันเล่า” หนังสือเรื่องเทคนิคทางเข็มทองคำเล่มนี้ ยอดเยี่ยมเพียงนี้จริงๆ หรือ

นางเพียงแต่อ่านสองหน้าแรกเท่านั้น ไม่ได้ดูอย่างละเอียด ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าในเทคนิคทางเข็มทองคำบันทึกเนื้อหาอะไร มีความยอดเยี่ยม แค่ไหนกันเชียวด้วยซ้ำ

“จำคำข้าไว้ก็พอแล้ว” ซือถูเย้นกล่าวเบาๆ

หลีโม่เห็นว่าเขาไม่เต็มใจพูดอีก จึงไม่ถามต่อแล้ว “เจ้าค่ะ”

อ๋องเหลียงเริ่มตัวร้อนขึ้นในค่อนดึก ความร้อนสูงพุ่งขึ้นด้วยความรวดเร็ว หลีโม่สั่งคนให้ไปต้มซุปยาร้อนมา จากนั้นก็รับเหล้าร้อนมาให้ขันทีช่วยเช็ดตัวอ๋องเหลียงบรรเทาอุณหภูมิร่างกายลง

อ๋องเหลียงไม่ตื่นคืนสติมาท่ามกลางอุณหภูมิสูง กำมือของหลีโม่แน่น ในปากพึมพำชื่อหนึ่งอยู่ หลีโม่ฟังไม่ถนัด ราวกับเรียกหรู่เอ๋อร์หรือว่าหยู้เอ๋อร์อะไรสักอย่าง

เห็นชัดว่าเขาโศกเศร้า แม้ยามฝันยังร้องเรียกอย่างตกใจขึ้นมา เสียงร้องปวดร้าวนัก

หลีโม่มองเขานิ่งงัน ความฝันนี้จะต้องน่าเศร้ายิ่งนักเป็นแน่

ซือถูเย้นทอดถอนใจเบาๆ แทบจะไม่ได้ยิน

หลีโม่หันหน้ากลับไปมองเขา “ท่านอ๋อง?”

“สุดท้ายเขาก็ลืมไม่ลง” ซือถูเย้นหมุนกายดินมาหยุดอยู่ที่ศาลา นั่งลงบนเก้าอี้ ท่าทางดูหมองเศร้า

หลีโม่ไม่กล้าถาม แต่สามารถเดาได้โดยสังเขปว่าหรู่เอ๋อร์หรือว่าหยู้เอ๋อร์คนนี้ น่าจะเป็นคนที่อยู่ในใจของอ๋องเหลียง

คนในใจของเขารังเกียจที่เขาพิการดังนั้นจึงจากไปหรือ หรือว่าเป็นเพราะอุปนิสัยโหดเหี้ยมของเขา

แต่อย่างไร ปัจจุบันนี้ตำนานเล่าขานจากด้านนอก หลีโม่ยังคงรำลึกอยู่

ความร้อนสูงค่อยๆ ส่างไปตอนที่ฟ้าใกล้สาว อ๋องเหลียงเองก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึก

หลีโม่นั่งอยู่บนแท่นนอน มองใบหน้ายามหลับของอ๋องเหลียง อันที่จริงอ๋องเหลียงมีรูปโฉมหล่อเหลา ค่อนข้างมีความคล้ายกับซือถูเย้น จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นเขา กำลังนั่งอยู่บนอานม้า เขาสวมชุดเจ้าบ่าว ผยองราวกับพิราบตัวหนึ่ง ตอนนั้นเพราะว่าในใจยังมีความเดียดฉันท์ ดังนั้นหลีโม่มองเขาไม่รื่นตา แต่ว่าปัจจุบันเขานอนราบบนเตียงคนไข้ สีหน้าซีดจาง ก็เป็นเพียงคนป่วยธรรมดา ใบหน้าและความรู้สึกของผู้ป่วยคนนี้เห็นชัดว่าโดดเด่นยิ่งนัก

ท่ามกลางวังกัลปสุขของไทเฮา

ทั้งราตรีไทเฮาไม่ได้บรรทม ในมือถือภาพม้วนม้วนหนึ่ง เป็นภาพที่อ๋องเหลียงวาดให้แก่นาง นางในภาพ ประทับนั่งบนเก้าอี้ เมตตาอารี รอยสรวลอบอุ่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม