พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 392

ตอนที่ 392 นางต้องหึงหวง

หลังจากซือถูเย้นออกมาจากวัง ก็ได้ยินข่าวดีที่หลีโม่บอก จึงดีใจขึ้นมา ทั้งสองไม่ได้พูดเรื่องในวัง มองเพียงเรื่องที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้ทำได้เพียงต้องหาตัวหมอหลี่ ให้เจอ ซือถูจิ้งก็ยังมีความหวังเช่นเดียวกัน

เมื่อหลิวเยว่เห็นคนต่างก็เดินเข้าออกกันวุ่นวาย ในใจก็แอบกังวล นางรู้สึกว่าที่นางพูดชื่อหมอหลี่ออกมา ทำให้พวกเขามีความหวังอีกครั้ง สุดท้ายหากหาตัวหมอหลี่ไม่เจอ เช่นนั้นคงเสียใจมาก

แต่ว่านางก็อยู่ที่ตำหนักอ๋องเหลียงไม่ได้ อีกทั้งยังถูกซ่งรุ่ยหยางพาตัวออกไป ซ่งรุ่ยหยางบอกว่าจะพานางกลับไปพักที่ ยี่กว่านก่อนชั่วคราว

เซียวโธ่คิดจะรั้งพวกเขาเอาไว้ แต่กลับถูกซ่งรุ่ยหยางส่งสายตาดุร้ายให้ เขาหยุดคำที่จะพูดเอาไว้ทันที จากนั้นก็กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “เดินระวังๆ นะ”

เฉินหลิ่วหลิ่วเห็นว่าทุกคนต่างก็เงียบกัน จึงพูดกับหลีโม่ว่า “ในเมื่อองค์หญิงยังสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ เช่นนั้นข้าก็มีเรื่องจะประกาศ”

หลีโม่มองไปที่นาง “เจ้าจะประกาศเรื่องอะไร?”

หลิ่วหลิ่วหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นว่าอย่างขวยเขิน แต่กลับเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ “เซียวโธ่จะแต่งงานกับข้าแล้ว”

หลีโม่มองเซียวโธ่ด้วยสายตาราบเรียบ “พวกเรารู้แล้วล่ะ”

หลิ่วหลิ่วตะลึงงัน “รู้แล้วงั้นหรือ? พวกเจ้ารู้กันได้อย่างไร?”

“เซียวโธ่บอกเอง” หลีโม่กล่าว

หลิ่วหลิ่วมองไปทางเซียวโธ่ “เจ้าบอกเมื่อไหร่กัน?”

“ตอนที่พวกเรามาได้นานเท่าไหร่ ข้าก็บอกแล้ว บอกให้ทุกๆ คนรู้แล้ว” เซียวโธ่กล่าว

หลิ่วหลิ่วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “เหตุใดเจ้าต้องบอกกับทุกคนเช่นนี้? ค่อยประกาศตอนอยู่ด้วยกันไม่ได้หรืออย่างไร?”

“มันต่างกันตรงไหน?” เซียวโธ่มองนางอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็นท่าทางของนางราวกับผีห่าซาตาน จึงขมวดคิ้วพูดว่า “นี่เจ้าจะทำอะไร? อารมณ์ไหน? จะกินข้าหรืออย่างไร?”

หลิ่วหลิ่วท้อแท้ใจ “ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก ข้าแค่รู้สึกว่าเรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกเราควรจะหาโอกาสประกาศออกไป ไม่ใช่ว่าเจอใครก็บอกทีละคน”

“แล้วมันต่างกันหรือ?” เซียวโธ่ยังพูดอีกว่า “สตรีนี่เรื่องมากจริง”

หลิ่วหลิ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงแล้วมันก็ไม่ต่างอะไร เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็ล้วนดีใจกับนาง ทว่านางก็ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะยืนอยู่ด้วยกัน และประกาศให้ทุกคนรับรู้ด้วยใบหน้าที่ขวยเขิน จากนั้นก็รับคำอวยพรจากทุกคน

“เซียวโธ่ ต่อไปเจ้าเรียนรู้เรื่องประเพณีหน่อยได้หรือไม่?” หลิ่วหลิ่วเอ่ยถาม

เซียวโธ่ถอนหายใจออกมา ทันทีหลังจากนั้นก็ตะโกนออกมาหนึ่งประโยคอย่างมีพลัง “ยังไม่ทันจะได้แต่ง ก็ไม่พอใจนู่นไม่พอใจนี่แล้วหรือ? หากไม่ชอบอะไรอีก ข้าจะรีบไปเอามะพร้าวคืนมาจากจวนของเจ้าทันทีเลยคอยดู”

หลิ่วหลิ่วพลันฝืนยิ้มออกมา “นี่พูดเรื่องตลกอยู่หรือ? เอามะพร้าวอะไร เอาตรงๆ เลยนะ ของที่เข้าจวนของพวกข้าแล้วไม่มีทางส่งคืนได้ ของที่ออกจากจวนไปแล้ว ตระกูลข้าก็ไม่รับคืนเช่นกัน”

เมื่อหลีโม่ได้ยินว่ามะพร้าว ก็เงยหน้าขึ้นมามองเซียวโธ่ทันที “นั่นมันคือมะพร้าวที่อ๋องเหลียงขออี้เอ๋อร์แต่งงานไม่ใช่หรือ เจ้าขโมยไปงั้นหรือ?”

เซียวโธ่สะอึกออกมา กล่าวด้วยสีหน้าเหยเก “เรื่อง…เรื่องนี้ที่สำคัญก็คือข้าหามะพร้าวทั้งคืนก็ไม่เจอ เมื่อเห็นว่าไหนๆ ก็สิ้นเปลืองแล้ว ก็เลยขอยืมมาให้สักหน่อย ต่อไปในวันหน้าข้าก็จะซื้อคืนให้เขาสี่ลูก”

“ทำไมถึงต้องเอามะพร้าวไปด้วยเล่า? โอกาสเช่นนี้น่าจะเอามะพร้าวไปก่อนไม่ได้กระมัง?” จิ่นเฉิงเดินเข้ามา แล้วพูดสอดราวกับตนเข้าใจ แต่ความจริงแล้วไม่เข้าใจอะไรเลย

ทันใดนั้นหลิ่วหลิ่วก็ได้สติตัวขึ้นมา “เจ้าพูดกับทุกคนว่าอย่างไร?”

สีหน้าของเซียวโธ่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “ก็พูดความจริง ความจริงเป็นอย่างไรก็พูดเป็นเช่นนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม