พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 427

ตอนที่ 427 ข้าจะไปฆ่าคน

บนรถม้าที่กำลังออกจากวัง ซือถูเย้นเห็นหลีโม่กำลังครุ่นคิด จึงถามขึ้นว่า “ได้ข้อมูลอะไรไหม?”

หลีโม่เงยหัวมองหน้าเขา ดวงตาเขาประกายมีความหวังอย่างลึกๆ หวังอยากที่จะได้ยินนางพูดข่าวดีออกมา

หลีโม่พูดว่า “ปานแดงบนใบหน้ากับหน้าคนบนแขนไม่ใช่โรคเดียวกัน ตามร่างกายของเขาก็มีปานแดงใช่ไหม? โรคแบบนี้เรียกว่าปานผีเสื้อสีแดง เป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง เอาล่ะ เราไม่พูดภาษาทางการแพทย์ โรคนี้ นับว่าอาการหนัก ข้าก็เข้าใจที่เจ้าบอกว่าไม่มีทางรักษา แต่ความจริงแล้ว ข้าก็ไม่มีหนทางรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมได้”

“เจ้าสามารถควบคุมได้?” ซือถูเย้นดูเหมือนไม่อยากเชื่อ “เจ้าเคยเห็นโรคแบบนี้หรือ? โรคแบบนี้พบเจอได้น้อยมาก อย่างน้อยก็มีบันทึกไว้ไม่มาก”

“มีบันทึกไว้ไม่มาก บางทีอาจเป็นเพราะทุกคนคิดว่าโรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับการสาปแช่ง ไม่มีการพบหมอ บวกกับการแพทย์ของพวกเจ้าที่นี่ ก็ระบุว่าเป็นโรคระยะสุดท้าย รู้สึกว่าคนที่ป่วยเป็นโรคนี้แล้วไปหาหมอก็ไม่มีประโยชน์”

“การแพทย์ของพวกเจ้าที่นี่?” ซือถูเย้นมองดูนาง เอาล่ะ ยังไม่พูดถึงเรื่องนี้ หน้าคนนั่นล่ะจะอธิบายยังไง? หัวคนเล็กๆที่ปูดออกมา คงไม่สามารถรักษาได้ใช่ไหม?”

“นี่ไม่ใช่โรค เป็นเนื้องอก คนสมัยโบราณเรียกว่าแผลเป็นหน้าคน ไม่ใช่แผลเป็นหน้าผี หากให้ข้าไปรักษา ข้าจะเลือกที่จะทำการผ่าตัดทิ้ง แต่ในตำราแพทย์แผนจีนก็มีการใช้ยารักษา ใช้ยาหลายชนิดบดเป็นผงรวมกันแล้วเอามาทา แล้วก็จะสามารถหลุดออกไปเอง แต่ว่าขั้นตอนการรักษาค่อนข้างนาน”

ซือถูเย้นรู้สึกเป็นเรื่องไม่คาดคิด “ที่เจ้าพูดมา เป็นเรื่องจริง?”

“ข้าเหมือนกำลังพูดล้อเล่นหรือ?” หลีโม่ถามย้อน

“แต่...” ซือถูเย้นยังคงไม่เชื่อคำพูดของนาง นางบอกว่าสามารถควบคุมปานแดงได้ แผลเป็นหน้าผีนางบอกว่าสามารถตัดทิ้งได้ งั้นสำหรับนางแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรงเลย

“เจ้าคิดว่าอาการป่วยของฮ่องเต้ไม่ร้ายแรงหรือ?” ซือถูเย้นถาม

หลีโม่ส่ายหัว “ไม่ ผีเสื้อสีแดงร้ายแรง หากเป็นผีเสื้อสีแดงแบบระบบ อาการป่วยตอนนี้น่าจะลุกลามถึงไตกับหัวใจแล้ว ดังนั้นข้าถึงพูดว่าสามารถควบคุมได้แต่รักษาให้หายขาดไปได้”

“เจ้ากำลังพูดว่า หากเจ้าได้ไปรักษาเร็วกว่านี้ ก็สามารถรักษาได้?”

“ไม่” หลีโม่ส่ายหัว “โรคนี้ไม่ว่าจะมีอาการเพิ่งเริ่มหรือลุกลามจนถึงตอนนี้ ล้วนไม่มีหนทางรักษาให้หายขาด ต่อให้.....ข้า ก็ทำได้เพียงพยายามควบคุมเท่านั้น อีกอย่างยารักษาค่อนข้างขาดแคลน ก็ทำให้ควบคุมโรคนี้อย่างเป็นไปได้ยาก”

“เจ้าพูดว่า สองโรคนี้ เจ้าสามารถรักษาอันนั้น...เนื้องอก และสามารถควบคุมผีเสื้อสีแดง หมายความแบบนี้ใช่ไหม?”

หลีโม่พูดว่า “ก็หมายความประมาณนี้”

“ควบคุมไม่ใช่การรักษา?”

หลีโม่มองดูเขา “ซือถู สติปัญญาเจ้าด้อยลงไปอย่างมาก”

“…” ใช่

“ข้าสามารถควบคุมอาการกำเริบของโรค สามารถทำให้อาการของเขาไม่ทรุดหนัก แต่ข้าไม่รักษาให้หายขาดได้” หลีโม่พูดอธิบายอีกครั้ง

ซือถูเย้นเข้าใจความหมายของนาง เพียงแต่ไม่อยากเชื่อ นางพูดเหมือนกับไม่ร้ายแรงเลย แต่ทุกคนต่างก็รู้ แผลเป็นหน้าผีเป็นโรคระยะสุดท้าย ไม่สามารถรักษาได้ และเป็นโรคจากการสาปแช่ง และก็ไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้

“เจ้าสามารถควบคุมได้นานแค่ไหน?” ซือถูเย้นถาม

หลีโม่ส่ายหัว “ข้าไม่รู้ ตอนนี้เท่ากับว่าข้ายังไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วย นี่เป็นเพียงการสันนิษฐานเบื้องต้น สภาพการณ์ยังต้องตรวจอย่างชัดเจนถึงจะรู้ หากเจ้ายินยอมให้ข้าไปรักษา พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปเข้าเฝ้าทูลขอฮองไทเฮา”

ซือถูเย้นพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ต้องไป ข้าจะไปพูดกับท่านแม่เอง เรื่องนี้เจ้าก็อย่าคิดเอะอะไป”

“ได้”

เช้ารุ่งหลังจากว่าราชการเสร็จแล้ว ซือถูเย้นก็ไปพูดกับฮองไทเฮาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฮองไทเฮาไม่เชื่อ “ผีเสื้อสีแดงอะไร? เห็นอยู่ว่าเป็นแผลเป็นหน้าผี และเจ้าคิดว่าข้าไม่เคยพูดกับฮ่องเต้หรือ? ฮ่องเต้ไม่ยอม”

“แต่หลีโม่บอกว่าสามารถรักษาได้ ถึงจะไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ก็สามารถควบคุมได้ ท่านแม่ ลองไปพูดกับฮ่องเต้อีกครั้งดูไหม” ซือถูเย้นพูดขอร้อง

“ไม่ ในเมื่อเขาไม่ยินยอม งั้นก็ช่างเถอะ โรคนี้เจ้าไม่ควรที่จะพาหลีโม่ไปดู ผู้หญิงเรื่องมาก ไม่แน่ว่านางอาจจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับคนอื่น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม