พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 439

ตอนที่ 439 เข้าวังรักษาโรค

สิ่งที่ฮองไทเฮาคิดเอาไว้นั้นมันง่ายเกินไป ความระแวดระวังของฮ่องเต้นั้นมีไม่น้อย ตั้งแต่กินยาให้ได้สติ เขาก็ไม่ยอมใช้กินยากใดๆ อีก เพราะเขาเห็นฮองไทเฮาใจอ่อนกับเสี้ยหลีโม่

แต่ซือถูเย้นกลับไม่คิดจะใช้แผนการของฮองไทเฮา เขานอนพลิกตัวไปมาเป็นเป็นเวลา ก็คิดออกมาได้ว่าต้องให้ฮองไทเฮาเห็นด้วยกับการที่หลีโม่จะเข้าไปในตำหนักซีเวยอย่างถูกต้อง

หลังจากเขาพาหลีโม่เข้าไปพบฮองไทเฮา ก็พาตัวหลีโม่ไปที่ตำหนักซีเวย

ระหว่างทางที่เดินไป หลีโม่ถามเขาว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าหากข้าเข้าวังมารักษาฮ่องเต้ จะมีกลอุบายต่างๆ อยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้วรึ?”

“พวกนางจะวางแผนต่างๆ แต่ซุนฟางเอ๋อร์สามารถไปรักษาฮ่องเต้ได้ ทว่าเสด็จแม่กลับไม่อนุญาตให้นางเข้าไป ที่ข้ารอคอยก็คือรอให้ท่านแม่ปฏิเสธพวกนาง ดังนั้นหากหลังจากเจ้าเข้าไป ข้าก็จะรีบสั่งการให้ปิดล้อมตำหนักซีเวยทั้งหมด ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ และไม่อนุญาตให้ทหารคนใดออกจากหน้าที่ แม้จะเป็นการพักผ่อนก็ต้องพักที่ตำหนักเวยซีเท่านั้น

“ฮ่องเต้ไม่ยอมให้ข้ารักษาอาการป่วย เจ้ามีความมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือว่าจะโน้มน้าวเขาได้?” หลีโม่ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ

“ข้าทำไม่ได้ แต่มีคนหนึ่งที่จะทำได้” ซือถูเย้นพูดด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม

“ใคร?”

“เจ้าเดาไม่ถูกหรือ? ลองเดาดู”

หลีโม่คิดถึงคนผู้หนึ่ง “ไทฮองไทเฮา?”

ซือถูเย้นยิ้มแย้มกล่าว “ไทฮองไทเฮาย่อมไม่จำเป็นต้องพูดโน้มน้าว เพียงมีราชโองการก็ใช้ได้แล้ว แต่บรรพบุรุษกลับไม่อยู่แล้ว”

“เช่นนั้นเป็นใคร? เลิกทำให้มันน่าตื่นเต้นได้แล้ว” หลีโม่ตอนนี้ไม่มีใจอยากทายอะไรทั้งนั้น

ซือถูเย้นส่ายหน้า “ไม่มีความอดทนเอาเสียเลย เอาล่ะ บอกเจ้าก็ได้ เป็นเสี่ยกูกู ฮ่องเต้ยังติดหนี้เสี่ยวกูกูอยู่ คำพูดของเสี่ยวกูกู เขาฟังอยู่หลายส่วน”

“เจ้าจะให้ซือถูจิ้งไปพูดกับฮ่องเต้งั้นหรือ? ซือถูจิ้งจะยอมหรือ?” ซือถูจิ้งยิ่งเกลียดฮ่องเต้อยู่ด้วย

“ตอนที่เจ้าถูกขังอยู่ในคุก ข้าได้ส่งคนที่เจรจาเก่งไปหาเสี่ยวกูกูแล้ว ก่อนที่พวกเราจะเข้าวัง เสี่ยวกูกูก็ได้เข้าวังมาก่อนแล้ว”

หลีโม่ยิ้มแย้มกล่าว “คนเจรจาเก่งผู้นี้ คือเหล่าไท่จูนหรือไม่?”

“ฉลาด!” ซือถูเย้นเอ่ยชมเชย

“ดังนั้น ที่ฮองไทเฮาเรียกเจ้าให้เข้าวังตลอดเวลาเพื่อพูดให้ชัดเจน แต่เจ้าก็หาข้ออ้างเพื่อผลักออกไป ความจริงแล้วก็เพราะรอซือถูจิ้งให้เข้ามาพูดโน้มน้าวฮ่องเต้เองหรือ? อีกทั้งยังรอฮองไทเฮาปฏิเสธซุนฟางเอ๋อร์ด้วย ”

“ไม่ผิด ตอนแรกข้าคิดว่าเสด็จแม่จะยอมให้ซุนฟางเอ๋อร์เข้าวังจริงๆ และการเตรียมการหนึ่งอาทิตย์ก็สูญเปล่า แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะปฏิเสธ ครั้งนี้เสด็จแม่คงเห็นพวกเขาหงุดหงิดแล้ว”

หลีโม่ถอนหายใจอย่างเย็นชา “เอาล่ะ ซือถู ตอนนี้เจ้าซ่อนความลับเล็กๆ เอาไว้แล้ว เรื่องอะไรก็ไม่พูดให้ข้าฟังแล้ว”

“เจ้าเองก็ได้ออกแรงแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่ใช่เพราะเจ้าถูกขังคุกอย่างโหดเหี้ยมหรอกหรือ? นักว่ากลอุบายทำร้ายตนเอง เพื่อคลายความน่าสงสัยจากฝ่ายศัตรู โชคดีที่ฮ่องเต้รู้ว่าเจ้าเคยถูกคุมขังในคุกหลวงมาก่อน ในใจจึงรู้สึกสบายๆ หน่อย”

“อยากลงโทษใครก็ย่อมหาข้ออ้างมาได้เสมอไม่ใช่หรือ?ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่ข้าที่ปล่อยข่าว” หลีโม่กล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงยิ่ง

“เจ้าผิวหยาบเนื้อหนา หม้อสีดำหม้อนี้ ก็ทนแบกรับไปก่อน ย่อมมีหนทางปัดมันออกจากตัวไปได้เสมอ” ซือถูเย้นเอ่ยปลอบใจด้วยความหวังดี

ในใจของหลีโม่มีเพียงหมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังแผดเสียงคำราม การปลอบใจด้วยความหวังดีนี้นำพาเจตนาร้ายที่ร้ายแรงเข้ามา

ซือถูจิ้งเข้าวังมาพร้อมกับอ๋องหลี่ชิน นางไม่อยากมาเผชิญหน้ากับฮ่องเต้เพียงลำพัง ดังนั้นจึงลากอ๋องหลี่ชินมาด้วย

หลีโม่กับซือถูเย้นต่างก็ไม่รู้ว่าซือถูจิ้งพูดโน้มน้าวฮ่องเต้อย่างไร ถึงอย่างไรตอนที่ไปถึงตำหนักซีเวย ก็เห็นซือถูจิ้งกับอ๋องหลี่ชินออกมาจากตำหนัก ซือถูเย้นพยักหน้าให้ซือถูเย้น “พวกเจ้าเข้าไปเถอะ”

ความสนใจของหลีโม่ไปอยู่ที่อ๋องหลี่ชิน ขาสวมหมวกขนสุนัขจิ้งจอก แต่ไม่เห็นเส้นผมของเขา อีกทั้งใบหน้าของเขาก็ตุ่มหนองเยอะมาก ยืนอยู่ข้างซือถูจิ้ง ดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด

ไม่เพียงเท่านี้ เขายังยื่นมือเกาไปบนร่างกายของเขาอย่างรุนแรง เหมือนกับมีมดล้านตัวอยู่ทั่วร่างกายอย่างไรอย่างนั้น

หลีโม่เอ่ยถามว่า “”ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไป? ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?

อ๋องหลี่ชินส่ายหัว “ไม่เป็นอะไร”

“หน้าท่านเป็นอะไร?” โรคหน้าที่ของหลีโม่กำเริบแล้ว ในที่สุดนางรุดหน้าก้าวเข้าไปดูอย่างอดใจไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม