ตอนที่ 447 เข้าตำหนักซีเวย
เห็นเหล่าขุนนางคุกเข่าลง ลู่กงกงก็เริ่มอ่านพระราชสาส์น “ด้วยโองการแห่งฟ้า พระราชาจึงมีพระบัญชา ตัวข้าประชวรมาจนถึงบัดนี้ ผู้คนล้วนเป็นกังวล มีการคาดเดาล่ำลือไปมากมาย ข่าวลือแพร่ไปไม่หยุดยั้ง ช่วงนี้ได้ยินว่ามีสิ่งใดมากกวานั้น กล่าวว่าข้าตกอยู่ในการบัญชาจากสวรรค์ ประชวรด้วยโรคแผลพุพอง จึงเกิดการก่อกบฏขึ้น เป็นเรื่องที่น่าชังนัก ทั้งยังได้ยินมาจากเหล่าขุนนางกังวลใจต่อข้า ข้ารู้สึกพอพระทัยอย่างมาก จึงรับสั่งให้เหล่าขุนนางเข้ามาในตำหนักซีเวยเพื่อเข้าเฝ้าได้ ด้วยความยินดีของข้าพเจ้า!”
กระอักกระอ่วนใจอย่างมาก เหลียงไถ้ฝู้ต้องการบุกเข้าไปในวังเพราะแน่ใจว่าฮ่องเต้เป็นแผลพุพอง ครั้งนี้จะสามารถกดดันให้ฮ่องเต้สละราชย์ได้ ตอนบัดนี้ฮ่องเต้กลับรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้า เช่นนั้นการบุกเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว
พวกเขาสามารถไปเข้าเฝ้าได้ แต่ทหารม้าสามารถเข้าไปได้หรือ? หากเข้าไปก็เท่ากับว่าก่อกบฏ
และถ้าฮ่องเต้ไม่ได้รับสั่งลงมาด้วยตนเอง เป็นซือถูเย้นที่วางแผนเล่นกับดัก หลังจากที่พวกเขาเข้าไปจะสามารถออกมาอีกได้หรือไม่? คนของพวกเขายังรอบุกเข้าไปอยู่ด้านนอกประตูวัง
องค์รัชทายาทและสนมเหลียงสับสนอย่างมาก ฮ่องเต้รับสั่งมาจนถึงตรงนี้แล้ว พวกเขาไม่สามารถนำกองทหารม้าเข้าไปได้ ไม่สามารถเปิดศึกกับเฉินไท่จูนได้ เช่นนั้นก็จะถูกประณามตัดสินว่าเป็นผู้ก่อกบฏชิงบัลลังก์ฮ่องเต้
แต่ถ้าหากเข้าเฝ้าเช่นนี้ จะเป็นอย่างไร?
ลู่กงกงแย้มยิ้ม “ไถ้ฝู้ ความจริงฮ่องเต้ต้องการพักฟื้น แต่ได้ยินว่าทุกคนกังวลกับอาการประชวร จึงรับสั่งให้ทุกคนเข้าเฝ้า รับบัญชาการเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ไถ้ฝู้ไม่กล้าตกลงรับบัญชา ถือว่าเท่ากับมีพระราชโองการให้เข้าตำหนัก ไม่รู้วันหน้าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ยิ่งองค์รัชทายาทแล้วก็ยิ่งไม่มีสิ่งใดยืนยันความบริสุทธิ์ได้ ถึงแม้พวกเขาได้เห็นแผลพุพองของฮ่องเต้ และฮ่องเต้ยินยอมสละราชย์ และองค์รัชทายาทเองก็ดูหมิ่นฮ่องเต้มาตั้งแต่เริ่ม มีใจไม่ภักดีและอกตัญญู การเป็นทายาทครองบัลลังก์ก็สั่นคลอนไม่ชัดเจน
“ไถ้ฝู้ เกิดอันใดขึ้น?” รอยยิ้มของลู่กงกงหุบลง ไม่ใช่ว่าท่านต้องการเข้าตำหนักไปพบฮ่องเต้หรอกหรือ? ฮ่องเต้มีพระราชโองการให้ทุกคนเข้าเฝ้าได้ เหตุใดจึงไม่ตอบรับพระราชโองการเล่า?”
องค์รัชทายาทก้าวเข้ามา ตอบรับ “ลูกตอบรับพระราชโองการ”
ไถ้ฝู้ตกใจ “ฝ่าบาท!”
องค์รัชทายาทกระซิบ “ไถ้ฝู้ ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว หากพวกเราไม่มีทีท่าจะได้ออกมาเสียทีก็ให้คนบุกเข้าไปเสีย”
ไถ้ฝู้รู้ว่าตรงหน้ามีแค่แผนการเดียวแล้ว เขาหันกลับไปปรึกษากับกองทัพไม่กี่ประโยค อย่างน้อยๆ ภายในหนึ่งชั่วโมงยังไม่มีคนออกมารายงาน บุกเข้าไปทันที
ตอนไถ้ฝู้เกณฑ์คนเข้าไปในวัง ตอนเข้าไปเป็นยามชวดพอดี
ในตำหนักเสียงกลองตีขึ้นระรัว ดังสนั่น ราวกับว่าใจเต้นอย่างสิ้นหวัง ทำให้เหล่าขุนนางที่เข้ามาในวังรู้สึกกระวนกระวายใจ
ขุนนางที่เข้ามาในตำหนัก คนของกุ้ยไท่เฟยไปแล้ว มีเพียงคนที่ตามสนมเหลียงและไถ้ฝู้มา
ใจของพวกเขาพร้อมที่จะก้าวเข้าไปเผชิญ แต่ความกล้านั้นยังไม่มากพอ เพราะตั้งแต่วินาทีที่เขาได้เดินเข้ามาในประตูวัง ในใจของพวกเขายังไม่หยุดสั่นไหวเลยสักวินาที
ในตำหนักซีเวย การผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อย หนังเทียมอยู่ในระหว่างจัดเตรียม รอต้มจนพร้อมเป่าจนแห้งจึงจะใช้ได้
ในระยะเวลาอันรวดเร็ว คาดการว่าจะทำเสร็จสิ้นทุกอย่างในยามชวด
และจนบัดนี้เหลือเวลาอีกไม่มาก ยังมีเวลาอีกสองชั่วยาม นั่นคือสี่ชั่วโมง
ตอนนี้ในเวลาที่เหลืออยู่ สามารถทำได้แค่รอ
ซือถูเย้นสั่งคนให้ไปจัดเตรียมมื้ออาหารสำหรับหลีโม่
ยุ่งมาทั้งวันหลายชั่วยาม นางทั้งเหนื่อยและหิว หลังออกมาจากห้องโถงเขาก็ทรุดลงบนเก้าอี้ไม่ขยับไปไหน
“ประกาศพระราชโองการไปแล้ว?” หลีโม่ถามซือถูเย้น เขาเพิ่งจะออกมาจากในโถง ลู่กงกงกำลังออกไปประกาศ
“ประกาศแล้ว เดี๋ยวอีกประเดี๋ยวพวกเขาจะมาถึง” ซือถูเย้นตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...