ตอนที่ 446 ฮ่องเต้มีรับสั่ง
ในตำหนักซีเวย
ซือถูเย้นได้เจรจาเหตุผลการไม่ออกทัพกับฮองไทเฮา
“ออกกำลังทัพ ศึกครั้งนี้ถึงยากจะหยุดยั้ง กองทัพของพวกเราไม่จำเป็นต้องออกไป ไม่สามารถทำศึกกันในเมืองหลวงได้ ข้าไม่ได้ส่งสัญญาณใดออกไปเพื่อลวงตาพวกเขา ศึกครั้งนี้มีเล่ห์กล ดังนั้นไม่กล้าลงมือง่ายๆ แน่ ข้าคาดเดาได้ไถ้ฝู้มิอาจรอได้ แต่อ๋องหนานหวยไม่กล้าโจมตีเขายังคงเกรงกลัวอยู่ อำนาจตัดสินของเขาไม่มีสิทธิ์ขาดอยู่ในเมืองหลวง เขาจะต้องเลือกวิธีมองไฟปะทุอยู่ริมธารอย่างแน่นอน เช่นนั้นไถ้ฝู้ก็ยากที่จะลงมือเพียงผู้เดียว คนของเฉินไท่จูนและตระกูลเซียวดูแลปกป้องประตูพระราชวังเอาไว้อยู่ รอจนกว่าหนังปลอมจะสวมอยู่บนตัวของฮ่องเต้เรียบร้อย ค่อยออกมาปรากฏตัว ไถ้ฝู้ก็จะสยบลง”
“เจ้าไม่คิดว่าทำเช่นนี้มันเสียงเกินไปหรือ? หากเจ้าคาดการณ์ผิดพวกเขาก็จะบุกเข้ามาได้ ถึงแม้ว่าบนแขนของฮ่องเต้จะไม่มีแผลพุพองแล้วก็ตาม แต่บนหน้าก็ยังคงมีเส้นโลหิตแดงไปทั่วใบหน้า แผลพุพองไม่ใช่เพียงมองแค่ว่านั้นเป็นตัวปรสิตใด” ฮองไทเฮากล่าวด้วยความกังวลใจ
“ยิ่งเป็นเรื่องราวเช่นนี้ ยิ่งต้องใส่ใจวางแผน ไม่สามารถจู่โจมกองทหารในเวลาใดก็ได้ ชีวิตทหารทัพของพวกเรานั้นมีค่าดั่งทอง ใช้เพื่อเพียงปกป้องบ้านเมืองเท่านั้น ไม่จำเป็นเลยเพคะ ข้าจะไม่รวมพลทหาร ถึงไถ้ฝู้จะโจมตีเข้ามาจนได้ ข้าก็จะใช้กำลังปกป้องไว้ไม่ให้พลาด เสด็จแม่วางใจเถอะเพคะ”
“อาจจะเป็นไปได้ เจ้ายังมีเรื่องให้จัดการ?” ฮองไทเฮาถามขึ้น
ซือถูเย้นยกยิ้มบาง “ข้าให้องค์ชายเก้าไปจัดการแทนที่เมืองหวงเฉิงเป็นเวลาสี่สัปดาห์อยู่ก่อนแล้วเพคะ”
ฮองไทเฮาถอนหายใจอย่างโล่งอก “เช่นนั้นก็ดี องค์ชายเก้าออกไปพบปะก่อนก็ดี”
“ของง่ายๆ แค่นี้ กล้าไปออกไปปรากฏตัวก่อนด้วยหรือ? เหอะ” ซือถูเย้นส่งพ่นลมหายใจ
“เจ้าก็อย่าไปว่าอะไรให้มากความกับเขานักเลย เขาก็อยู่เงียบๆ มานมนานหลายปี เมื่อตอนที่เจ้าต้องการเขา มีสักครั้งที่ไหนเขาจะไม่ช่วยเหลือเจ้า ครั้งก่อนที่เจ้าแต่งงาน ไม่ใช่เขารึที่ช่วยเจ้าลักพาตัวหลีโม่…”
“หึ หึ”
บทสนทนาของทั้งสองลอยเข้าไปในหูของหลีโม่ เขากำลังขู่คำรามอยู่ภายในใจ
เหล่าขุนนางที่อยู่ในที่แห่งนี้กำลังสบายอกสบายใจ แต่อีกฝั่งนั้นสถานการณ์น่ากังวล
เหลียงไถ้ฝู้รู้ว่าวันนี้ไม่ว่าจะถอยทัพหรือบุกเข้าไปได้ล้วนไม่มีหนทางที่จะหลีกเลี่ยงอีกแล้ว เพราะได้พูดกับเฉินไท่จูนไปตรงๆ เสียแล้วว่าองค์รัชทายาทเป็นแผลพุพอง หากยอมแพ้ก็เท่ากับว่าสละประโยชน์ให้อีกฝ่ายไป
ดังนั้นเขาจะไม่ใจเย็นเหมือนกับอ๋องหนานหวยเด็กขาด
และหลังจากที่ได้ปรึกษากับสนมเหลียง เขาก็ได้เจรจากับอ๋องหนานหวยเช่นกัน
“ไม่ว่าจะเข้าไปหรือถอยออกมา ก็อยู่ที่คำของท่านอ๋องคำเดียว” ไถ้ฝู้พูดอย่างไม่อ้อมค้อม
อ๋องหนานหวยได้คำปรึกษามาจากซุนฟางเอ้อร์ ไม่ควรรีบร้อนหุนหันพลันแล่น กำลังจะพูดคำเจรจานั้นออกไป ซุนฟางเอ้อร์กลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน “ท่านอ๋อง บุกเถอะเพคะ”
อ๋องหนานหวยประหลาดใจ แต่รีบทำสีหน้ากลับมาให้เป็นปกติ “ไถ้ฝู้ เรื่องมาถึงบัดนี้แล้ว ไม่มีหนทางเลี่ยงได้ บุก!”
ในใจของไถ้ฝู้รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา “ดี พวกเรารวมพลทหารม้าตอนนี้เลย บุกเข้าไป”
“ดี ข้าจะไปรวมพลด้วยตัวเอง” อ๋องหนานหวยกล่าว
เหลียงไถ้ฝู้พูดขึ้น “ดี หลังจากสองชั่วโมงนี้ รวมพลทหารม้าที่หน้าประตูทิศใต้ บุกเข้าไปทางด้านประตูทิศใต้”
“รับทราบ!” อ๋องหนานหวยพร้อมแล้วที่จะเสี่ยงกับทุกสิ่ง เมื่อกล่าวจบก็กลับไป
อ๋องหนานหวยจะต้องหนี ใครก็ไม่อาจหยุดได้ เฉินไท่จูนจ้องมองไปที่เขา ประหลาดใจแต่ก็ถอยหลบให้เขาควบม้าออกไป
“ท่านพ่อ เขาว่าอย่างไรบ้าง?” สนมเหลียงและองค์รัชทายาทก้าวเข้ามาหา
เหลียงไถ้ฝู้กัดฟันกรอด “เจ้าลูกหมานั่นหดหัวไปแล้ว”
“หดหัว?” สนมเหลียงตกใจ “แต่หม่อมฉันก็เห็นท่าทีว่าจะเจรจากันได้เป็นอย่างดีไม่ใช่หรือ? เหมือนกับว่าเขาจะพยักหน้า ไม่ใช่ว่าไปรวบรวมกำลังพลหรือเพคะ?”
เหลียงไถ้ฝู้ขึ้นเสียง “เขาหนีไปแล้ว ไม่กลับมาอีก”
องค์รัชทายาทเริ่มโกรธขึ้นมาบ้าง “เขาหลอกพวกเรารึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...