ตอนที่ 461 ฝังพระศพฮองไทเฮา
กับข้าวของชุยยุ่นกูกูทำเสร็จแล้ว พอดีมีคนมาเพิ่มจริงๆ
คราวนี้เป็นอ๋องอานชิน มาถึงก็ไม่ทักทายกันสักคำ มาถึงไปนั่งข้างตันชิงเสี้ยนจู่เลย
“ท่านอ๋องไม่ได้เข้าวังไปแล้วหรือ?” ตันชิงเสี้ยนจู่ยิ้มถาม
“ไปมาแล้วกลับออกมาแล้ว ฮองไทเฮาไม่สบาย ก็เลยเลิกงานเร็ว ” อ๋องอานชินกล่าว
“พี่สอง เจ้ามายังบ้านแม่ยายข้าอย่างกับเป็นบ้านตัวเองเลยนะ หน้าไม่อายจริงๆ” ซือถูเย้นกล่าว
อ๋องอานชินก็มองหน้าเขา “กินไปๆเจ้าอะ ลมมันแรง อย่าพูดมาก เดี๋ยวลมพัดลิ้นหลุด”
หลีโม่มองแม่ตนเอง เห็นหน้านางมีรอยยิ้มมากขึ้น ก็เลยยิ้มตาม ดูเหมือนว่าวันนี้แม่นางก็อยากให้อ๋องอานชินมากินด้วยกัน
มื้ออาหารปีใหม่ก็สนุกสนานครึกครื้นต่อไปเรื่อยๆ อ๋องอานชินเหมือนว่าจะไม่ได้กินอะไรมาจากในวังเลย มาถึงที่นี่ก็จัดเต็ม
หลังจากกินเสร็จ เขาก็บอกอยากจะให้ตันชิงเสี้ยนจู่วาดภาพให้หน่อย แล้วก็ลากนางเข้าไปข้างใน
เตาไฟลุกโชนให้ความอบอุ่นในห้อง แขกเหรื่อก็พากันมาเรื่อยๆ
พอถึงเวลา3ทุ่มโดยประมาน ก็เห็นหูฮวนซี เซียวโธ่และภรรยา ซือถูจิ้ง และโหรวเหยา มากันหมด
ช่วงนี้ทุกคนไม่ค่อยได้รวมตัวกัน คืนนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ
หลีโม่ชอบให้คนมารวมกันเยอะๆแบบนี้ แล้วก็คุยกันสนุกสนาน ทำให้รู้สึกอบอุ่น และสวยงามอย่างมาก
หลังจากปีใหม่ไม่กี่วัน ก็เหมือนกับการฉลองปีใหม่ในเวลาปัจจุบันของหลีโม่ คือไปเยี่ยมเยือนบ้านต่างๆ
แต่ว่า ซือถูเย้นไม่ยอมไปสวัสดีปีใหม่บ้านอื่นๆ แล้วก็ไม่รับแขกด้วย สำหรับเขาแล้ว ปีใหม่ก็คือวันหยุดยาวครั้งเดียวของปี มันมีค่ามาก
ถึงแม้จะห่างจากการหยุดงานคราวก่อนไม่นาน เพราะตอนแต่งงานก็หยุดไปหลายวัน แต่ว่า มีใครบ้างเล่าที่จะไม่อยากมีวันที่สงบๆสักวัน
วุ่นวายกันมามาก ปีนี้ก็ผ่านไปแล้วอีกปี
ราชสำนักเริ่มงานวันที่8 ซือถูเย้นไม่อยากจะตื่นขึ้นมา แต่ก็ถูกหลีโม่ปลุกให้ลุก ทำอย่างไรได้ ก็ต้องตื่นขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าไปทำงาน อ้อไม่ใช่ ไปว่าราชการต่างหาก
เริ่มงานว่าราชการหลังจากหยุดยาว ก็ต้องพบกับปัญหาที่เหมือนๆกัน นั่นก็คือ งานจำนวนมากที่กองรออยู่
ซือถูเย้นกว่าจะกลับก็ปาเข้าไป3ทุ่ม เข้าจวนมากก็พุ่งลงเตียงนอน “เหนื่อยเป็นบ้าเลย”
หลีโม่ยกชาร้อนๆมาให้ พูดว่า “เหนื่อยไหม? มา ดื่มชาร้อนๆก่อน ไล่ความเย็นหน่อย”
ซือถูเย้นลุกนั่งรับชาไว้ ดื่มไป2อึก “วันนี้หนาวมาก เหมือนว่าหิมะจะตก ถ้าหิมะตกเจ้าอย่าเดินไปไหนมั่ว ร่างกายยิ่งไม่ดีอยู่”
“อืม ไม่มีที่ให้ไปหรอก อ๋องเหลียงก็ดีขึ้นมากแล้ว ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว” หลี่โม่กล่าว
“อืม แล้วอาการของฮ่องเต้เป็นอย่างไรบ้าง” ซือถูเย้นถาม
“ไม่ค่อยดีนัก ” หลีโม่ส่ายหัว “หลังจากปีใหม่ก็ไม่ค่อยมีสติ เกิดอาการบวม กินยาไปอาการก็ไม่ดีขึ้น ต้องอาศัยการฝังเข็ม ”
“แล้วได้พูดเรื่องแม่เจ้าอีกไหม?”
“ไม่ได้พูดแล้ว”
“ถ้าฮ่องเต้ถามอีก ตอนเจ้าตอบก็ระวังหน่อย ไม่รู้ว่าใจฮ่องเต้คิดอย่างไร แล้วก็ทางองค์ชายสาม เจ้าก็เข้าไปถามเรื่องการเรียนด้วย อาจารย์บอกว่าเขาดื้อ ไม่ฟังคำสั่งสอน หรือไม่เจ้าก็ไปคุยกับหมุยเฟยก็ได้”
“อืม ได้ๆ ” หลีโม่ตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...