ตอนที่ 471 อี๋เฟยที่แปลกประหลาด
เข้าไปในพระราชวังซูจินของเหลียงพิง อี๋เฟยยังไม่ทันได้ก้าวเท้าแรกเข้าไป ก็เห็นคนคนหนึ่งกระโจนออกมาจากข้างใน หัวศีรษะพุ่งตรงท้องอี๋เฟย จนอี๋เฟยกระเด็นลอยออกไปไกลเป็นวา
หลีโม่เห็นเท้าทั้งคู่ของอี๋เฟยลอยยกขึ้น แต่แล้วก็สามารถกลับมายืนได้ตัวตรง ปล่อยให้สาวใช้เข้ามาประคองไว้
แต่การกระทำนี้ กลับตบตาหลีโม่ไม่ได้ นางเป็นวรยุทธ
เหลียงพิงไม่ยอมหยุด ยังคงกระโจนเข้าไปหาอีก ครั้งนี้หลีโม่เลือกที่จะดูอยู่เฉย มองดูปฏิกิริยาของอี๋เฟย
ในปากอี๋เฟยกำลังด่าแช่งอยู่ เรียกคนเข้ามาดึงเหลียงพิง แต่เหลียงพิงที่บ้าคลั่งอยู่มีพละกำลังมากมาย อีกอย่างนางไม่กระโจนหาใคร กระโจนไปหาแต่อี๋เฟยคนเดียว
อี๋เฟยหลบซ้ายหลบขวา เห็นหลีโม่เท้าเอวมองดูอยู่ จึงตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “เสี้ยหลีโม่ เจ้ายังไม่เรียกคนมาดึงนางไว้?”
“ดึงได้หรือ?” หลีโม่สั่งอย่างเชื่องช้าว่า “พวกเจ้า ดึงเหลียงพิงไว้”
ทหารเฝ้าตำหนักเย็นล้วนช่วยกันดึงอยู่ แต่ก็ดึงไม่ไหว และก็ไม่กล้าใช้ความรุนแรง ทำได้เพียงมองดูเหลียงพิงกระโจนพุ่งชนอี๋เฟยครั้งแล้วครั้งเล่า
อี๋เฟยกลัวนางแล้วจริงๆ พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ช่างเถอะ อุตส่าห์มาเยี่ยมเจ้าอย่างหวังดี เจ้าไม่เห็นดีก็ช่าง”
พูดเสร็จแล้ว ก็เดินกะโผลกกะเผลกออกไป
หลีโมมองดูด้านหลังนางแล้วก็หัวเราะขึ้นมา เหลียงพิงอยากจะไล่ตามอี๋เฟยไป หลีโม่ใช้มือตีตรงท้ายทอยนาง เหลียงพิงสลบล้มลงกับพื้น
ซุนกงกงรีบโบกมือสั่งทหาร “ยังยืนซื่ออยู่ทำไม? รีบประคองเหลียงพิงสิ”
พวกทหารรีบยกเหลียงพิงเข้าไปอย่างตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หลีโม่ถามซุนกงกงว่า “กงกง เจ้าให้เสี่ยวเตาเอาอะไรใส่ในตัวอี๋เฟยหรือ?”
ซุนกงกงหัวเราะพร้อมพูดว่า “พระฉายาอย่าถามเลย บ่าวอยู่ในวังหลังมาหลายปี จำต้องรู้วิชาอะไรดีๆไว้บ้าง”
หลีโม่คิดว่าคงจะเป็นกลิ่นหอมที่มีฤทธิ์กระตุ้นอะไรสักอย่าง เตาเหล่าต้าเข้ามาเอากลิ่นหอมนี้กระตุ้นเหลียงพิงไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่ออี้เฟยเข้ามา จึงกระโจนพุ่งไปหาทันที
เหลียงพิงโดนตีสลบแล้ว หลีโม่จึงสามารถตรวจดูอาการของนางได้
ร่างกายของนางไม่ได้เป็นอะไรมาก มีแต่สภาพจิตใจที่มีปัญหา หลีโม่เขียนสูตรยาให้กับหยางมามา แล้วถามนางว่า “เจ้ายินยอมมารับใช้อยู่ที่นี่สักสองวันไหม?”
หลีโม่รู้ว่าเป็นการทำให้นางลำบากใจ ยังไงตำหนักเย็นนี้ก็ไม่ใช่สถานที่ที่น่าอาศัยอยู่
“ยินยอม” คิดไม่ถึงว่าหยางมามาจะยอมรับปาก
หลีโม่พยักหัว “ดี งั้นเจ้ามาดูแลสักสองวัน” แล้วก็พูดเสียงต่ำว่า “และเจ้าคอยสังเกตดูว่า สองวันนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษไหม หรือมีคนพิเศษเข้าใกล้เหลียงพิงหรือเปล่า”
หยางมามารู้ว่าหลีโม่สงสัยอะไร จึงตอบว่า “บ่าวรับทราบ”
หลังจากที่หลีโม่กลับไปแล้ว ก็รีบไปถามเกี่ยวกับข้อมูลของอี๋เฟย
อี๋เฟย เดิมมีชื่อเรียกว่าหลี่อี้หลัน เป็นลูกสาวคนโตของหมอโจวกวนลู่ เข้าวังมาแล้วแปดปี มีลูกชายหนึ่งคน ปีนี้อายุครบเจ็ดขวบ
บ้านตระกูลมารดาเป็นตระกูลสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดี ไม่ใช่ครอบครัวมั่งมีอะไร แต่ก็มีชื่อเสียงในเมืองหลวงอย่างมาก หมอโจวกวนลู่เป็นอาจารย์สอนลัทธิขงจื้อในเมืองหลวง มีลูกศิษย์มากมาย ขุนนางมากมายต่างก็เป็นลูกศิษย์ของเขา
“ตระกูลสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดี น่าจะไม่มีความรู้ทางด้านการต่อสู้” หลีโม่พูดพึมพำ
“นางต่อสู้ไม่เป็นนี่” ซือถูจิ้งพูด
“แต่ เมื่อกี้ตอนที่เหลียงพิงกระโจนพุ่งชนนางนั้น นางมีพื้นฐานนะ”
“เป็นไปไม่ได้ ท่านหลี่ไม่ชอบผู้หญิงฝึกเรียนการต่อสู้ และตัวเขาเองก็ไม่ชอบขุนนางที่มีความสามารถด้านการต่อสู้ จะยอมให้ลูกสาวตัวเองเรียนการต่อสู้ได้ยังไง?” ซือถูจิ้งรู้สึกว่าหลีโม่คิดมากไป “เจ้าดูผิดหรือเปล่า?”
“ข้าดูไม่ผิด ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งจะทำแบบนั้นไม่ได้ นางจะต้องเคยเรียนการต่อสู้มาแน่” หลีโม่พูดมั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...