พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 474

ตอนที่ 474 เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว แต่ขาดเรื่องสำคัญไปหนึ่งเรื่อง

เรื่องที่จะไปออกรบ ยังไม่ได้มีการประกาศออกไป แต่ก็มีคนไม่น้อยทายทักไวแล้ว

ได้ยินว่าฮ่องเต้ได้เรียกอ๋องเย่ไปเข้าเฝ้าด้วยตัวเอง อ๋องเย่คนนี้พูดถึงแล้วก็ถือเป็นคนแปลก ไม่ค่อยถูกกับบรรดาราชวงศ์ ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก็ไม่ค่อยดี มีเพียงคนเดียวที่สนิทด้วยก็คืออ๋องซือเจิ้งซือถูเย้น

ครั้งที่แล้วตอนนี้พูดคุยเรื่องตำแหน่งองค์รัชทายาท เขาก็มา แต่ไม่ได้ออกความเห็นเข้าข้างใคร และก็ไม่พูดอะไร แค่มาร่วมฟังเท่านั้น

หลีโม่ก็ได้ยินข่าวนี้ ว่าฮ่องเต้เรียกเขาเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ จึงถามซือถูเย้นว่า “ไหนบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับราชวงศ์ไม่ดีไม่ใช่หรือ? ยังมีข่างร่ำลือว่าเขาถูกขับไล่ออกไปแล้ว”

“ที่โดนขับไล่ออกไป ก็เพราะทำให้ท่านพี่โกรธ” ซือถูเย้นพูด

“ไม่ได้ไล่ไปจริงๆ? เพียงล้อเล่นเท่านั้น?”

“ก็ไม่ใช่ล้อเล่น ตอนนี้ก็โกรธจริงๆ เพียงแค่ไม่ได้ถูกปลดตำแหน่ง เขายังเป็นอ๋อง เพียงแค่ให้เป็นอ๋องเย่เพื่อเยาะเย้ยเขา”

“นามว่าอ๋องเย่ ถือว่าเยาะเย้ยยังไงหรือ?” หลีโม่คิดถึงอ๋องเย่ในเกมอำนาจซีรีย์ฝรั่งคนนั้น ถือเป็นคนสำคัญนะ มีแต่ทำให้คนเกรงกลัวเท่านั้น ไม่ทำให้คนรู้สึกน่าขำตรงไหน

“อืม แต่ฮ่องเต้แต่งตั้งให้เขาเป็นอ๋องเย่เซียง (เย่เซียงอีกความหมายแปลว่าอุจจาระ)” ซือถูเย้นพูดอย่างไม่พอใจ “ต่อมาเขาไปหาฮองไทเฮา และไปหาหลี่ปู้บังคับให้เปลี่ยนจากอ๋องเย่เซียงเป็นอ๋องเย่”

หลีโม่อ้าปากค้างอย่างตะลึง อ๋องเย่เซียงกับอ๋องเย่ไม่เหมือนกันเลยนะ นี่เป็นความแตกต่างราวฟ้ากับดินเลยนะ

“ฮ่าๆ น่าขำมากเลย” หลีโม่หัวเราะอย่างขำขึ้นมาทันที

ซือถูเย้นพูดว่า “เจ้าอย่าเพิ่งหัวเราะ คนคนนี้มีความสามารถนะ ติดตามอาจารย์มาแล้วคน ตอนนี้ได้ยินว่ามีตำแหน่งสำนักในยุทธภพแล้วด้วย เขาก่อตั้งขึ้นมาเอง แต่ฮ่องเต้บอกว่าเขายังเป็นเด็กแค่เล่นๆเท่านั้น”

“เรื่องจริงหรือ?” หลีโม่แปลกใจ “เป็นถึงท่านอ๋องแต่ไปยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพ คงจะมีเพียงเขาคนเดียวแหละ”

“เขาคนนี้ ชอบทำสิ่งที่แตกต่าง ความคิดก็ไม่เหมือนกับคนอื่น แล้วนี่ได้ยินว่าไปรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขาบ้านหูฮวนซี หลังจากที่ฮ่องเต้ทราบเรื่อง จึงเรียกเขามาด่า”

“อ๋า?” หลีโม่ยอมเลย อ๋องเย่คนนี้ช่างรู้จักใช้ชีวิตจริงๆ

“หลังจากที่ข้าไปออกรบแล้ว เจ้าสามารถไว้ใจเขาได้ ไม่ว่าเรื่องที่เขาทำจะออกนอกลู่นอกทางขนาดไหน คนอื่นส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือเขา หรือว่าเจ้าเห็นอะไร ก็อย่าไปเชื่อ จำคำพูดของข้าไว้ เขาเป็นคนที่เจ้าสามารถไว้ใจได้” ซือถูเย้นพูดสั่งไว้

“ทำไมเจ้าถึงเชื่อใจเขาขนาดนี้? คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เจ้าไม่ใช่พยาธิในตัวเขาสักหน่อย ทำไมถึงเชื่อเขาทุกอย่าง?” หลีโม่รู้สึกน้อยใจ เชื่อว่าซือถูเย้นยังไม่เชื่อใจนางขนาดนี้

“อย่าไปสนใจ ระหว่างผู้ชาย มองตาก็รู้แล้ว” ซือถูเย้นพูดอย่างเชื่อมั่น

หลีโม่ก็ถามขึ้นว่า “เจ้าจะเดินทางไปออกรบเมื่อไหร่?”

ทั้งสองต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงวันเวลา หลายวันมานี้ ซือถูเย้นไปค่ายทหารอยู่ตลอด ก่อนที่จะไปออกรบ จะต้องมีการประชุมใหญ่ หลิ่วหลิ่วเคยมา บอกว่าเซียวโธ่กับซูชิงก็จะตามไปออกรบด้วย หลิ่วหลิ่วกลับมองในแง่ดี นางถึงขั้นพูดกับหลีโม่ว่า หากเซียวโธ่ไม่ได้กลับมา นางก็จะฆ่าตัวตาย ไปเป็นสามีภรรยาในโลกแห่งความตายกับเซียวโธ่

“อีกห้าวัน”

เร็วขนาดนี้เลยหรือ?

หลีโม่เงียบไปครู่หนึ่ง “ทางด้านแคว้นแคว้นเป่ยม่อตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

“กำลังเตรียมทหาร เสบียงและยุทโธปกรณ์ล้วนส่งมาแล้ว”

นี่ก็หมายความว่า การสู้รบในครั้งนี้ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว

“เซียนเป้ยกับแคว้นเป่ยม่อจะร่วมมือกัน เรื่องทำให้ข้าแปลกใจมาก” ซือถูเย้นพูดขึ้น

“ทำไมถึงพูดเช่นนี้?”

“แคว้นเป่ยม่อกับเซียนเป้ย แย่งผืนดินกันมาตลอด ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอม เป็นใครกันที่ยุยงให้พวกเขาร่วมมือกัน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม