ตอนที่ 480 เป็นคนของใคร
อาซื๋อกูกูพักอาศัยอยู่ที่พระราชวังซีอาน ทางด้านนั้น เฉินเหล่าจูนจึงโล่งอกไปที
นางมาบ่นอยู่ที่พระราชวังฮุยชิง “เจ้าคิดว่าข้าชอบไปที่นั่นหรือ? เห็นหน้าคนตายนั่นทุกวัน ในใจก็หงุดหงิด อาซื๋อกลับช่วยข้าเฝ้าไม่กี่วันก็ยังดี ข้าจะได้สบายใจหลายวันหน่อย”
หลีโม่หัวเราะพร้อมพูดว่า “ลำบากเหล่าไท่จูนแล้ว ต้องไปติดหนึบนางทุกๆวัน ท่านไม่พูดก็รู้ หน้าของนางนั้นช่างดูน่ารังเกียจยิ่งนัก”
“ไม่ใช่หรือ? วางท่าอย่างกับเป็นฮองไทเฮาแบบนั้น สง่าสูงส่ง พูดคุยกับนางก็สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง อย่างกับข้าต้องไปกราบขอร้องนางอะไรอย่างนั้นแหละ”
“ได้ ช่วงที่อาซื๋อกูกูอยู่ที่นี่หลายวัน ท่านกลับไปก่อนก็ได้” ซือถูจิ้งพูด
“พรุ่งนี้เช้าจะรีบกลับเลย ข้าไม่อยากอยู่ในวัง” เหล่าไท่จูนหาว แล้วพูดว่า “เฮ้อ อายุเยอะแล้ว อดหลับอดนอนไม่ไหวแล้ว”
“ท่านย่า งั้นท่านรีบไปพักผ่อนเลย” หลิ่วหลิ่วเอ็นดูนาง รีบไล่นางไปนอน
“ได้ พวกเจ้าคุยกันต่อ ข้าไปหาอะไรกินหน่อยแล้วก็เข้านอน” เหล่าไท่จูนมีความเคยชินอย่างหนึ่ง ทุกคืนก่อนนอนนางทานอะไรก่อนถึงจะนอนได้
เย็นเอ๋อร์เข้ามา “เตรียมไว้ให้แล้วค่ะ ก็รอท่านไปทานได้เลย”
“ยังดีมีเย็นเอ๋อร์รู้จักรักคนอื่น” เหล่าไท่จูนหัวเราะพร้อมลุกขึ้น แล้วเดินออกไปพร้อมกับเย็นเอ๋อร์
ในตำหนักจึงเหลือแค่หลิ่วหลิ่ว ซือถูจิ้งกับหลีโม่สามคน ถ่านไฟในตำหนักจุดอย่างสว่าง แต่เมื่อกี้เย็นเอ๋อร์เปิดประตู จึงมีลมเย็นๆพัดเข้ามา หลิ่วหลิ่วกอดตัวเองไว้แน่น พูดอย่างดีใจว่า “อาซื๋อกูกูกลับมาครั้งนี้ พวกเราก็สบายใจได้แล้ว ดีที่สุดขอให้นางจัดการคนร้ายพวกนั้นให้หมดก่อนแล้วค่อยกลับไป”
ซือถูจิ้งพูดว่า “เจ้าอย่าดีใจเร็วเกินไป บรรพบุรุษไม่มีอาซื๋อกูกูอยู่ไม่ได้หรอก มากสุดก็สามวัน ก็จะต้องพาคนกลับไปแล้ว”
“อืม อีกอย่างถึงแม้พวกเราจะชนะแล้วเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะพวกเขาจะลงมือกลับในไม่ช้าแน่ พวกเราคาดการณ์ในทุกๆสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แล้วเตรียมพร้อมรับมือดีกว่า” หลีโม่พูดขึ้น
“อ๋า?” หลิ่วหลิ่วโศกเศร้าขึ้นมาทันที “ยังจะโดนพวกเขาเอาคืนอีกหรือ? ช่างน่าเบื่อจริงๆ”
“เอาไม่เอาคืนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สู้รับกลับพวกเขาต้องทำแน่” ซือถูจิ้งมองดูหลีโม่ “หลีโม่ เจ้าคิดว่าพวกเขาจะเลือกลงมือกับใครก่อน?”
หลีโม่มองดูนาง “ไม่ต้องคิดเลย จะต้องเป็นเจ้าแน่องค์หญิง ไม่มีเจ้าองค์หญิงเจิ้นโก๋ พระฉายาอ๋องซื่อเจิ้งของข้าก็จะไร้ค่า แล้วพวกเขาอยากจะทำอะไรก็ได้ตามใจไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าพูดมีเหตุผล ใช่ เรื่องเหลียงพิงนั่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? อยู่ดีๆทำไมถึงกลายเป็นคนบ้า?” ซือถูจิ้งรู้สึกสงสัยอย่างยิ่ง อีกอย่าง หลังจากที่เหลียงพิงเป็นบ้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก และไม่มีใครติดใจเรื่องที่นางคิดฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายเป็นแค่ข่าวลือ แต่ก็ลือกันไปทั่วแล้ว หรือว่าอี๋กุ้ยเฟยไม่คิดที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่หรือ?
หรือว่า เรื่องที่เหลียงพิงฆ่าตัวตาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกนางจริงๆ?
หลีโม่พูดว่า “ข้าได้ให้หยางมามากลับไปดูแลเหลียงพิง และคอยจับตาดูว่ามีคนเข้าใกล้นางไหม แต่หยางมามาบอกว่า ไม่ปรากฏบุคคลน่าสงสัย อีกอย่างก็แทบไม่มีคนยินยอมเข้าใกล้นางเลย”
“ก็ไม่น่าแปลก แค่คนกระทำผิดคนหนึ่ง ใครจะไปเข้าใกล้นาง?” ซือถูจิ้งรู้ซึ้งกับความสัมพันธ์วังดี สนมที่หมดอำนาจแล้ว มีแต่จะโดนซ้ำเติม อยากมีคนช่วย? ยาก
“เห็นที ในวันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น คงมีเพียงเหลียงพิงที่รู้แล้ว” หลิ่วหลิ่วพูดขึ้น
หลีโม่กับซือถูจิ้งสบตากัน ใช่ เห็นทีวันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น คงมีเพียงเหลียงพิงคนเดียวที่รู้เรื่องแล้วจริงๆ
หลิ่วหลิ่วคิดอยู่แปบหนึ่ง แล้วก็พูดอีกว่า “พวกเจ้าว่า เป็นเพราะเหลียงพิงเห็นองค์ชายรัชทายาทถูกปลด อ๋องเหลียงก็ไม่สนใจนาง คิดไปคิดมา คิดอะไรไม่ออก ก็เลยเป็นบ้า หลังจากเป็นบ้านแล้วก็คิดผูกคอตาย คนบ้าฆ่าตัวตาย ไม่ถือว่าเป็นเหตุผล”
“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล” ซือถูจิ้งพยักหัวพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...