ตอนที่ 483 ทุกคนต่างไม่เป็นอะไร
สีหน้าของแม่ทัพเปลี่ยนไปขนานใหญ่ รีบสาวเท้าผลักประตูเข้าไป เห็นเพียงเตียงนอนที่ไม่มีใครพร้อมกับผ้าห่มที่ยับยู่ยี่ “แย่แล้ว!”
คนของอี๋กุ้ยเฟยมองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง จึงได้เห็นรอยเท้าข้างหน้าต่าง กับร่องรอยกระดาษที่ฉีกขาดตรงขอบหน้าต่าง น่าจะปีนออกไปทางหน้าต่าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ยังไม่รีบไปตามหาอีกหรือ?”
แม่ทัพรีบนำคนออกไปตามหาทันที ค้นหาภายในสนามฝึกอยู่หลายรอบ ทั้งในเรือนและลานเล็กที่คนจะสามารถซ่อนตัวได้ต่างก็ค้นหาแล้ว
ก่อนยามจื่อ อี๋กุ้ยเฟยพาองค์ชายสามมาปรากฏตัวที่พระราชวังฮุยชิงด้วยรอยยิ้มอันเย็นชาที่ประดับอยู่บนใบหน้า
“ลูกแม่!” หมุยเฟยทั้งประหลาดใจและดีใจ โผเข้ากอดองค์ชายสามในทันที ร้องไห้สะอื้นพูดไม่เป็นคำ
อี๋กุ้ยเฟยมองไปที่หลีโม่ มุมปากยกยิ้มอย่างเย็นชา “เห็นชายสามเห็นแก่เล่นเกินไป หนีออกไปเที่ยวนอกวังตามลำพัง โชคดีที่องครักษ์ข้างกายข้าออกไปทำธุระและได้พบเขาพอดี จึงพาตัวเขากลับมาด้วย”
หมุยเฟยเอาตัวองค์ชายสามหลับไปด้านหลังของตน ก่อนจะกล่าวด้วยความโกรธ “เจ้าเอาตัวเขาไป ข้าไม่เคยทำร้ายเจ้า เหตุใดเจ้าถึงต้องทำกับข้าเช่นนี้?”
อี๋กุ้ยเฟยกล่าวด้วยความเย็นชา “หมุยเฟย เจ้าช่างไม่รู้จักน้ำใจคนจริงๆ คนของข้าอุตส่าห์ตั้งใจพาตัวเขากลับมา เจ้าไม่คิดจะขอบคุณทั้งยังมาด่าข้าฉอดๆ เช่นนี้หรือ?”
หลีโม่ก้าวเข้าไปดึงหมุยเฟย “กุ้ยเฟย คนดีย่อมได้รับการตอบแทนที่ดี องค์ชายสามกลับมาอย่างปลอดภัย โชคดีที่ได้กุ้ยเฟยช่วยเหลือ ทุกคนต่างบอกว่าคนรุ่นก่อนทำงานกันอย่างยากลำบาก คนรุ่นหลังก็มาเสพสุข กุ้ยเฟยมีน้ำใจขนาดนี้ องค์ชายเจ็ดจะต้องได้รับความสุขกลับมาแน่นอน”
อี๋เฟยจ้องไปที่หลีโม่ “หวังว่าทุกอย่างจะเป็นดั่งคำที่พระชายาพูดนะเพคะ”
เมื่อกล่าวจบนางก็หมุนตัวเดินจากไป
ซือถูจิ้งมองหลีโม่อย่างประหลาดใจ “เจ้าทำเช่นไร? ถึงได้ทำให้นางยอมเอาตัวองค์ชายสามออกมาได้?”
“รู้ผลลัพธ์ก็พอแล้ว ส่วนขั้นตอนนั้นไม่จำเป็นต้องรู้ มันสกปรกเกินไป” หลีโม่ยิ้มบาง ดึงองค์ชายสามให้นั่งลงแล้วเอ่ยถาม “รู้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
องค์ชายสามพยักหน้า “รู้พ่ะย่ะค่ะ”
“กลัวหรือไม่?” หลีโม่ถาม
“ไม่กลัว เพราะกลัวแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายสามอายุยังน้อยแต่กลับไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์คับขันแม้แต่น้อย ตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงตอนนี้ ไม่แสดงสีหน้าหวาดกลัวและตกใจออกมาเลยสักนิด
“เด็กดี ผ่านครั้งนี้ไปแล้ว จะต้องรู้จักระมัดระวังให้มากขึ้น” หลีโม่กล่าว
“ท่านอาสะใภ้วางใจได้พ่ะย่ะค่ะ ข้ารู้ชัดแจ้งแล้ว” องค์ชายสามยกมือขึ้นคำนับ “ข้ารู้ว่าท่านอาสะใภ้เป็นคนช่วยข้า บุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ ข้าจะจดจำไปตลอดชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าเด็กแก่แดด!” หลีโม่ลูบหัวเขาครู่หนึ่งพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ กลับไปพักผ่อนกับเสด็จแม่เจ้าได้แล้ว”
หมุยเฟยมองหลีโม่ด้วยความซาบซึ้งใจ กล่าวด้วยเสียงสะอื้น “เหมือนที่องค์ชายกล่าวเมื่อครู่นี้ บุญคุณของเจ้า จะจดจำไปตลอดชีวิต ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้า เกรงว่าองค์ชายสามคงจะไม่ได้กลับมา”
“อย่าพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าลูก รีบไปเถิด เด็กออกไปทั้งวัน กลัวว่าจะยังไม่ได้กินข้าว กลับไปทำอะไรให้เขากินเสียหน่อย และให้เขาพักผ่อนเร็วๆ
พรุ่งนี้ยังต้องไปเข้าเรียนอีก”
“ได้ๆ” หมุยเฟยเช็ดน้ำตาที่นองหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะมองหลีโม่ด้วยสายตาซาบซึ้งอีกครั้ง “เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ”
“อืม ไปเถอะ!”
หมุยเฟยขอทูลลากับซือถูจิ้ง และพยักหน้าให้กับหลีโม่ จากนั้นก็พาองค์ชายสามออกไป
“เสี่ยวเตา!” หลีโม่ตะโกนเรียก
“ขอรับ!” เตาเหล่าต้าเดินเข้ามาจากด้านนอกตำหนัก
“ไปที่ตำหนักอี๋หลาน แล้วบอกว่าเมื่อครู่นี้อาซื๋อกูกูได้ทำนายว่าองค์ชายเจ็ดอยู่ในห้อง อาจจะนอนหลับลึกเกินไป จึงตกลงไปอยู่ใต้เตียงนอน ให้พวกเขาลองไปหาดู” หลีโม่กล่าว
“ขอรับ!” เตาเหล่าต้ายิ้มก่อนจะออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...