พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 486

ตอนที่ 486 อ๋องหนานหวยที่น่าสงสาร

จดหมายนั้นถูกแนบส่งมาพร้อมกับสารส่งข่าว สารนั้นถูกส่งไปตามเส้นทางของม้าวิ่งจนถึงจุดเปลี่ยนม้าในการเดินทาง ผ่านไปสามวัน ก็มาถึงมือของหลีโม่

ในตอนที่หลีโม่เห็นสองตัวอักษรว่า “รักษาตัวด้วย” นั้น ก็รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ช่างขี้เหนียวจริงๆ สัญลักษณ์อะไรก็ไม่เขียนลงไปแม้แต่ตัวเดียว

นิสัยก็เป็นแบบนี้ ใครใช้ให้เจ้ายังชอบอีกล่ะ?

การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ กล่าวว่าหลังจากอ๋องเย่ก่อเรื่องวุ่นวายไปครั้งหนึ่ง ความนิยมก็เพิ่มมากขึ้น มีบางคนในราชสำนักก็ได้ยินกันบ้างแล้ว

อ๋องเย่ที่เอ้อระเหยลอยชายผู้นี้ สามารถอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังจะรนหาที่ตายอย่างบ้าคลั่งต่อไป

ในวันนี้ เขาเข้าวังมาเยี่ยมฮ่องเต้ ฮ่องเต้ที่กำลังป่วยหนักกำลังพูดคุยกับเขาอย่างอารมณ์ดีครู่หนึ่ง ในการพูดคุยกันครู่หนึ่งนี้ อ๋องเย่พูดถึงเป้าหมายของตน นั่นก็คือต้องการขับไล่อ๋องหนานหวยออกไปจากวังหลวง

เดิมทีเขาอยู่ในวังหลวงก็เพื่องานอภิเษก แต่ต่อมาก็มีราชโองการให้เขากลับไปอภิเษกที่แคว้นหนาน จนสุดท้ายฮองไทเฮาสวรรคต เขาก็อยู่ในวังหลวงเพื่อไว้ทุกข์ แต่ตอนนี้กุ้ยไท่เฟยก็ย้ายเข้าไปในพระราชวังซีอานเพื่อไว้ทุกข์เป็นตัวแทนให้กับเขาแล้ว เช่นนั้นลูกชายที่เกิดจากชายาอนุผู้นี้ ก็ไม่มีธุระอะไรอีกแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องไปได้แล้ว

อ๋องหนานหวยได้รับคำสั่งขับไล่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เขาไม่โกรธไม่ร้อนรนเลยสักนิด เพราะเขาได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง และเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีสำหรับวันนี้

เขาอยากจะอยู่ในวังหลวง ก็มักจะมีวิธีอยู่เสมอ

เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้งานใหญ่นั้นสำเร็จ

ความกดดันจากสงครามในตอนนี้ เขาจึงไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้

เขามาที่เรือนของซุนฟางเอ๋อร์ เขาได้สั่งให้คนไปก่อกวนคนติดตามของซุนฟางเอ๋อร์ เพื่อไม่ให้คนได้ยินบทสนทนา

“ท่านอ๋องอยากจะอยู่ในเมืองหลวง เหมือนกับว่าไม่มีหนทางอื่นแล้ว” หลังจากซุนฟางเอ๋อร์ได้ยินเจตนาที่เขามาแล้ว จึงพูดออกไปตามตรง

ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียทีเดียว เพียงแต่นางรู้สึกท้อแท้ใจ ไม่อยากจะเปลืองสมองไปคิดอีกแล้ว

“ไม่ใช่ให้เจ้าคิดหาหนทาง แต่ให้เจ้ามอบหนอนพิษแก่ข้า ข้าต้องการชีวิตของคนผู้หนึ่ง ภายในเวลาห้าวันนี้ พิษจะกำเริบจนทำให้คนผู้นั้นสิ้นใจ” อ๋องหนานหวยกล่าว

“ภายในเวลาห้าวัน?” ซุนฟางเอ๋อร์เหลือบตาขึ้นมอง “ท่านอ๋องอยากจะสังหารผู้ใดกัน?”

“ใครที่ตายแล้ว จะทำให้ข้าได้อยู่ในเมืองหลวงต่อเล่า?” อ๋องหนานหวยยิ้มอย่างเย็นชา สายตาพลันประกายความโหดเหี้ยมออกมา

สถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าไม่ใช่กุ้ยไท่เฟยตาย ก็ต้องเป็นฮ่องเต้สวรรคต แต่ถ้าจะใส่หนอนพิษกับฮ่องเต้นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้

เขาจะลงมือกับมารดาที่ให้กำเนิดตนเองงั้นหรือ

ซุนฟางเอ๋อร์หลุบตาลงต่ำ “เหตุใดต้องกำเริบในห้าวัน?”

“อีกสามวันข้าต้องออกไปจากเมืองหลวง พิษในตัวนางจะกำเริบหลังจากที่ข้าออกไปจากเมืองหลวงได้สองวัน ไม่มีใครสงสัยในตัวข้าอย่างแน่นอน อีกอย่างในเวลาสองวันนี้ ข้าจะไม่ได้ไปไหนไกล จะกลับมาเมืองหลวงก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน”

ใบหน้าของซุนฟางเอ๋อร์มีรอยยิ้มที่เย็นชาประดับอยู่ “ท่านอ๋องช่างคิดรอบคอบจริงๆ”

อ๋องหนานหวยยื่นมือออกไปสัมผัสกับใบหน้าของนาง “บางครั้ง ข้าก็สงสัยจริงๆ ว่าเหตุใดซือถูเย้นถึงไม่มีความรู้สึกอะไรกับเจ้าเลยสักนิด เจ้าดูโดดเด่นกว่าหลีโม่มากมายนัก”

“ท่านอ๋องอยากจะพูดอะไรกันแน่?” ซุนฟางเอ๋อร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับการที่เขายื่นมือมาสัมผัส จึงถอยหลังออกไปเล็กน้อย

“อยากจะบอกว่าการที่ซือถูเย้นไม่ได้เลือกเจ้า มันคือการสูญเสียของเขา เจ้าเองก็ไม่ได้คิดเช่นนี้เหมือนกันหรือ? เจ้าคิดอยากจะพิสูจน์ให้เขาเห็นมาตลอด ครั้งนี้ หากเสด็จแม่ตายแล้ว เขาก็จะตายด้วยใช่หรือไม่?” อ๋องหนานหวยจ้องไปที่นาง

ซุนฟางเอ๋อร์สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”

อ๋องหนานหวยอย่างเย็นชา “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ฟางเอ๋อร์ เจ้าใช้หนอนพิษกับซือถูเย้นเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ใช้กับร่างกายของข้าและเขา แต่เป็นการใช้กับร่างกายของเสด็จแม่และเขา ใช่หรือไม่? เป็นเสด็จแม่ที่ให้เจ้าทำเช่นนี้ เพราะนางต้องเตรียมการเอาไว้ ถ้าหากวันหนึ่งซือถูเย้นจะลงมือทำร้ายนาง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม