ตอนที่ 502 ตึกเสหาน
แต่ทว่า นางก็ดูถูกอ๋องเย่เกินไป ตอนที่ห่าฝนลูกธนูยิงพุ่งเข้ามานับสิบนั้น ร่างกายอ๋องเย่ก็เบาดั่งขนนก เขาหลบลี้หนีหลีกลูกธนูได้หมด กระโดดไม่กี่ทีก็มาหลบด้านหลังที่กำบัง แล้วก็เอามือคว้าคอขององค์ชายเจ็ด แล้วผลักเขาออกมา
อี๋กุ้ยเฟยก็รีบกระโดดออกมา แล้วก็เอามือรีบคว้าแล้วดึงไหล่ขององค์ชายเจ็ดไว้ อยากจะให้ไปหลบด้านหลังตน แล้วทหารยามของตำหนักอี๋หลานก็เข้าประตูมาล้อมอ๋องเย่ไว้
อี๋กุ้ยเฟยก็รีบลุกขึ้นออกไปจากวงล้อม แล้วพาองค์ชายเจ็ดออกไปด้วย แล้วก็หนีไปข้างใน
กระบี่ยาวพุ่งแทงเข้ามาข้างลำคอข้างขวา แล้วเสียบไปที่ตู้ไม้ในห้องโถง
นางรีบหันไปมอง พวกทหารพวกนั้นล้มนอนหมดแล้ว แต่ในห้องโถงมีคนชุดดำอยู่หลายคน ไม่รู้ว่ามาตอนไหน
อ๋องเย่ส่ายหัวอย่างอนาถใจ “กุ้ยเฟยนี่เชิญดีๆไม่ยอมนะ”
อี๋กุ้ยเฟยตอบอย่างโมโหว่า “ท่านอ๋อง อย่างน้อยข้าก็เป็นถึงกุ้ยเฟยของฮ่องเต้นะ เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดขององค์ชายเจ็ด เจ้ามาบังอาจที่ตำหนักอี๋หลาน ไม่กลัวว่าฮ่องเต้จะโมโหหรือ?”
“ไม่กลัว!” อ๋องเย่เดิมก้าวข้ามทหารแล้วเดินเข้ามาหาอี๋กุ้ยเฟย แล้วหัวเราะดังลั่น “ข้าไม่เคยกลัวอะไร ดูเหมือนว่าอี๋กุ้ยเฟยจะไม่ค่อยเข้าใจในตัวข้า หรือว่า พวกเราจะพบฮ่องเต้ด้วยกัน แล้วไปพูดกัน”
เขาพูดจบ ก็คว้ามืออี๋กุ้ยเฟยไว้ อีกมือหนึ่งก็เอามือมาสกัดจุดบนตัวนางไว้ อี๋กุ้ยเฟยก็รู้สึกว่าในคอเริ่มมีกลิ่นคาวเลือด แล้วนางก็สำลักเลือดออกมา สองขาไร้แรงจนแทบจะยืนไม่อยู่
“เจ้าปล่อยแม่ข้านะ!” องค์ชายเจ็ดโกรธ ยกเท้าจะถีบอ๋องเย่ อ๋องเย่ก็เอามือตบไป องค์ชายเจ็ดกระโดดออกไปอีกฝั่ง แล้วก็พุ่งเข้าหาอ๋องเย่ใหม่ อ๋องเย่ก็ยิ้มร้ายๆ แล้วยกมือพูดขึ้นว่า “เจ้าอยากตายหรือ?”
“อ๋องเย่!”อี๋กุ้ยเฟยตกใจตนขวัญหนีดีฝ่อ แล้วก็คว้ามืออ๋องเย่ไว้ แล้วรีบพูดว่า “ได้เลย ข้าจะฟังคำเจ้า”
“ท่านแม่ ไม่ต้องไปกลัวมัน อย่างมันเป็นคือตัวอะไร? บังอาจกล้าลงมือกับข้า มันน่าจะไม่รักชีวิตแล้ว”องค์ชายเจ็ดอารมณ์ร้อนมาก
อ๋องเย่บีบคางของเขาไว้ แล้วออกแรงยกขึ้น “เจ้าเด็กนี่ เจ้าว่าข้าเป็นตัวอะไรงั้นหรือ? เจ้าว่าข้าทำอะไรเจ้า ครั้งก่อนหลีโม่บอกจะถลกหนังเจ้า แต่นางไม่กล้า แต่ข้านั้นกล้า ไม่เพียงจะถลกหนังเจ้า ข้ายังจะควักลูกตาเจ้าด้วย แล้วดึงลิ้นเจ้าออกมาตัด แล้วก็ผ่าเอาเครื่องในเจ้าออกมาให้หมด แล้วย่างด้วยไฟร้อนๆบังคับให้แม่เจ้ากิน”
องค์ชายเจ็ดดูถูกว่า “เจ้าไม่กล้าหรอก ถ้าเจ้าร้ายถึงเพียงนั้น ก็คงไม่เป็นดั่งเช่นตอนนี้หรอก คนที่ไม่เอาไหนที่สุดในตระกูลซือถู ก็คือเจ้าและองค์รัชทายาทองค์ก่อน”
อี๋กุ้ยเฟยเห็นสายตาอำมหิตของอ๋องเย่ ก็รีบดุลูก “เจ้าหุบปาก เขาเป็นท่านอาเจ้านะ อย่าพูดเช่นนั้น”
“แต่ท่านแม่ แม่จะไปกลัวมันทำไม ถ้าเขาเก่งจริงก็คงไม่มีบีบบังคับท่านที่นี่หรอก เขาไม่มีคนช่วยจึงมาหาท่าน ในตำหนักอี๋หลานนี้ ถ้าเขากล้าฆ่าคน ก็แสดงว่าไม่รักชีวิตตนเองแล้ว ” องค์ชายเจ็ดตะโกน
พูดจบ เขาก็เอามือมาตีลงไปที่มือของอ๋องเย่ พูดโมโหว่า “เจ้ามาขอให้เราช่วยก็พูดกันดีๆ บางทีพวกเราอาจจะช่วย ถึงอย่างไรข้าไม่ค่อยชอบขี้หน้ายัยแก่นั้น แต่เจ้าลงมือจะฆ่าคน ข้าก็ไม่อยากจะช่วยเจ้าแล้ว เจ้าจะทำอะไรข้าได้? ถ้าเก่งจริงก็ฆ่าพวกเราเสียเลย ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะหนีออกจากวังหลวงนี้อย่างไร?”
ด้านหลังมีเสียงหัวเราะส่งออกมา คนชุดดำแอบหัวเราะอยู่ แล้วเดินเข้ามา เอามือตบไหล่อ๋องเย่ “เฮ้อ เจ้าถูกเด็กเล่นเสียแล้ว เจ้าก็มีวันนี้นะ”
อ๋องเย่มององค์ชายเจ็ด ในมือก็มีมีดพกปรากฏขึ้น มีลายดอกไม้ด้วย “ได้ๆ เอาตามเจ้าว่าก็แล้วกัน ฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่จะเอามีดกรีดบนร่างเจ้าสัก10แผล น่าจะได้”
เขายังพูดไม่จบ องค์ชายเจ็ดก็หน้าเสียนิ่งไป แล้วก็เอามือไปลูบมือที่เต็มไปด้วยเลือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...