พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 511

บทที่ 511 คลื่นเมฆทรยศ

อี๋กุ้ยเฟยสูดลมหายใจเข้ายังเยือกเย็น “เจ้าน่ากลัวมากเลย เริ่มคิดการวางแผนมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน หากอ๋องซื่อเจิ้งเป็นใจเดียวกับเจ้า เจ้าคงจะได้ครอบครองแผ่นดินแต่แรกแล้ว?”

“คำพูดพวกนี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีกแล้ว เจ้าลองคิดใคร่ครวญก่อนที่จะทำอะไรก็แล้วกัน องค์ชายเจ็ดจะต้องอยู่ข้างกายค่ะ มีเพียงข้าที่จะสามารถปกป้องคุ้มครองเขาได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าพาเขาไป ข้าก็มีวิธีที่จะทำให้ฮ่องเต้ได้รู้ว่าพ่อที่แท้จริงของเขาคือใคร แบบนั้นไม่ว่าข้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ พวกเจ้าทั้งสองแม่ลูกก็จะต้องตาย”

หลังจากที่อี๋กุ้ยเฟยหายจากการตกตะลึงแล้ว ก็เริ่มครุ่นคิด หากที่นางพูดล้วนเป็นความจริง อย่างนั้น ตนเองต้องช่วยเหลือให้นางประสบความสำเร็จ และนี่ก็เป็นเพียงวิธีเดียวที่ยังจะสามารถทำได้แล้ว

แต่ตึกเสหานของอ๋องเย่....

นางก็ไม่กล้ามีปัญหากับตึกเสหาน หากตึกเสหานมีคำสั่งฆ่า ต่อให้นางหลบไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าฟ้าก็หลบไม่พ้น

ซ้ายก็ไม่ดี ขวาก็ไม่ดี จนอี๋กุ้ยเฟยไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี

ที่ผ่านมานางคิดว่านางสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่เมื่อกระทำถึงที่สุดจริงๆแล้ว นางถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองน่าขำแค่ไหน

นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอ๋องเย่ ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกุ้ยไท่เฟย

“เจ้าไปเถอะ” กุ้ยไท่เฟยออกคำสั่งไล่

อี๋กุ้ยเฟยประคองโต๊ะลุกขึ้น ขาทั้งคู่อ่อนแรง จนก้าวเท้าเดินไม่ไหว

มุมปากกุ้ยไท่เฟยอมยิ้ม ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความอนาถ นี่เป็นหนทางสุดท้ายของนาง แล้วหากไม่สำเร็จ นางก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว

อี๋กุ้ยเฟยกลับออกมาจากพระราชวังซีอานอย่างขวัญหนีดีฝ่อ องค์ชายเจ็ดรออยู่ด้านนอกตำหนัก อี๋กุ้ยเฟยมองดูเขา รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนกับฮ่องเต้เลยจริงๆ และก็ไม่เหมือนตัวเอง น่าเห็นใจฮ่องเต้ที่หลายปีมานี้ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

“ท่านแม่” องค์ชายเจ็ดยืนอยู่ด้านข้างนางอย่างสงบนิ่ง “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ลูกรู้ความคิดของกุ้ยไท่เฟยดี ลูกอาศัยความช่วยเหลือของนาง แต่จะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างของนาง เมื่อไหร่ที่ลูกได้เป็นฮ่องเต้ ท่านก็จะต้องได้เป็นฮองไทเฮา”

“ลูก” อี๋กุ้ยเฟยกอดเขา ร่างกายสั่นเทา “ลูกรัก แม่รู้ว่าลูกมีความกตัญญู”

เพียงแต่ เด็กคนนี้กลับไม่รู้ว่า กุ้ยไท่เฟยสามารถควบคุมความคิดของเขา พิษหนอนนี้ สามารถทำให้คนกลายเป็นหุ่นเชิด ถึงขั้นเป็นอาวุธฆ่าคน

อี๋กุ้ยเฟยกลับมาถึงตำหนัก ก็เริ่มป่วยแล้ว ประกาศแก่ภายนอกว่าป่วยอย่างรุนแรงมากไม่สามารถที่จะเจอหน้าใครได้

ข่าวคราวรู้ไปถึงทางด้านพระราชวังฮุยชิง หลีโม่หัวเราะพร้อมพูดว่า “เห็นที อี๋กุ้ยเฟยไม่อยากที่จะช่วยเหลือพวกเรา”

“ข้าก็ไม่คาดหวังให้นางช่วยเหลือ แค่ไปข่มขู่ที่ตำหนักนางเท่านั้น ให้นางไม่ต้องเข้ามากับยุ่งเรื่องนี้” อ๋องเย่พูดอย่างเรียบเฉย

หลีโม่พูดขึ้นว่า “อืม ที่จริง หลายปีมานี้อี๋กุ้ยเฟย ก็สะสมทุนทางการเมืองอยู่ไม่น้อย และมีความสัมพันธ์กับคนอยู่ไม่น้อย หากนางช่วยเหลือกุ้ยไท่เฟย พวกเรายังต้องแบ่งความคิดไประมัดระวังนางด้วย”

“ด้านของเจ้าจัดการเรียบร้อยหรือยัง?” อ๋องเย่ถาม

หลีโม่ยกถ้วยน้ำชาขึ้น “อืม จัดการเรียบร้อยแล้ว เกมกำลังจะเริ่มขึ้น”

อ๋องเย่ก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้น เห็นท่าทางของนางที่สบายอกสบายใจ จึงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เจ้ากับหูฮวนซีมีความสัมพันธ์อะไรกันหรือเปล่า?”

“ความสัมพันธ์?” หลีโม่อึ้ง “ความสัมพันธ์อะไร? พวกเราจะมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”

“พวกเจ้า...” อ๋องเย่ใช้ฝาแก้วปัดใบชาในแก้วช้าๆ “พวกเจ้ามีสิ่งที่คล้ายกันหลายอย่างมาก คำพูด ความคิด และท่าทีการทำงาน เด็ดขาด หยิ่งยโส ไม่ใช่โลก...”

หลีโม่หัวเราะออกมาเบาๆ “เริ่มแรกก็ดีอยู่ ต่อมากลับเริ่มเลวร้ายแล้ว เห็นที เถ้าแก่หูของเราจะทำให้ท่านอ๋องปวดหัวไม่น้อย”

อ๋องเย่ทำท่าทีครุ่นคิด “หูฮวนซีหรือ... นิสัยเผ็ดร้อน เสแสร้ง วิธีการโหดเหี้ยมมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ค่าดูหนังแล้วก็รู้สึกเหมือนมีอย่างหนึ่ง...”

เขาขมวดคิ้ว เหมือนไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกแบบนั้นยังไง

หลีโม่คิดอยู่แต่แรกแล้วว่าพวกเขาทั้งสองมีอะไรกัน ตอนนี้เห็นเค้าพูดถึงหูฮวนซี ด้วยสีหน้าท่าทางที่พูดยาก ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นข่าวดีแน่

“มีความรู้สึกเหมือนในใจหวั่นไหว?” หลีโม่ถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม