บทที่533 เขากลับมา
ทันใดนั้นอะชู่นก็ปล่อยนาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเจ้าไม่มีจิตสำนึกความเสี่ยงอะไรสักหน่อย มีคนแปลกหน้ามาที่จวน เจ้าไม่เตรียมตัวป้องกันอะไร”
หลีโม่ห่อร่างกายตัวเอง เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางก็หรี่ตาแล้วมองเขาอย่างละเอียด จากนั้นนางก็ยื่นมือออกไปดึงขนบนใบหน้าของเขา เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยและน่ารำคาญ
นางตกตะลึงโผกอดเขาเต็มแรง หัวใจเต็มไปด้วยความสุข “เจ้ากลับมาได้อย่างไร?”
นางกอดเขาสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้า ซือถูเย้นหลอกข้าว่าเป็นคนบ้า ทำให้ข้าตกใจ?” หลีโม่โมโหฟาดกำปั้นใส่เขา
ซือถูเย้นเอาแต่ถอดเสื้อผ้า ไม่ได้ต่อต้านหรือหลบเลี่ยง “รีบตีเร็วๆเข้า ตอนนี้ข้ายุ่ง”
หลีโม่ตะโกนเมื่อเห็นเขาถอดเสื้อผ้า “เจ้ายุ่งไปคนเดียวเถอะ คืนนี้อย่าได้คิดที่จะแตะต้องตัวข้า เพราะเจ้าทำให้ข้ากลัว”
“ใครจะแตะต้องตัวเจ้า ข้าจะอาบน้ำ หลายวันแล้วที่ข้าไม่ได้อาบน้ำ เนื้อตัวมีแต่คราบสกปรก” ซือถูเย้นพูดเสร็จเขาก็หย่อนตัวลงอ่าง
หลีโม่อดไม่ได้ที่จะปวดใจ นางเดินไปรอบๆเพื่อช่วยเขาสระผม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้สระผม โดยปกติเขาจะผูกผมไว้ หลีโม่เทแชมพูแล้วขยี้เบาๆ
“กลับบ้านมันดีเช่นนี้” ซือถูเย้นถอนหายใจอย่างสบายๆ เขายื่นมือมาจับข้อมือหลีโม่ แล้วดึงนางไปด้านหน้าเพื่อมองหน้านาง “มีหนึ่งประโยคที่อยากจะบอกเจ้า เมื่อข้าอยู่ชายแดน”
หลีโม่รู้ว่ามันไม่ใช่คำพูดที่ดี เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ เขามักจะมองนางด้วยความจริงจังและเป็นครั้งคราวที่จะมองด้วยความรัก แต่ถ้าหากพูดออกมามันอาจจะทำให้นางแย่ก็ได้
นางใช้มือที่เต็มไปด้วยฟองล้างหน้าให้เขา แล้วพูดอย่างไม่ได้มีความมสุขนัก “เอาล่ะ จะพูดอะไรก็พูดเถอะ ข้าจะตั้งใจฟัง”
เขาจับมือนางไว้ “ข้าพูดเรื่องจริงจัง เจ้าอย่าเพิ่งทำตัวไม่ว่าง”
“ค่ะ ค่ะ เจ้าพูดสิ”
หลีโม่จุ่มมือลงอ่างแล้วมองดูเขา
“ข้าชอบเจ้า” ซือถูเย้นพูดสี่คำออกมาในทันใด
หลีโม่ตกใจ “เจ้าพูดอะไร?”
ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? เขาพูดคำสี่คำ? ถึงแม้ว่านางจะตั้งตารอคำสามคำ แต่ว่าคำสี่คำก็ไม่เลว
“มานี่!” ซือถูเย้นจับมือหลีโม่ แล้วลากนางไปข้างหน้าจากนั้นเขาก็จูบริมฝีปากแดงระเรื่อของนาง
มันเป็นการจูบที่ยาวนาน ในที่สุด มันก็กลายเป็นความบ้าระห่ำและป่าเถื่อน
เขายืนขึ้น กอดนางและพานางไปที่เตียง
หลีโม่ยังคงมีสติ “ไม่ เช็ดตัวเจ้าให้แห้งก่อน”
ซือถูเย้นหันกลับมา “ได้ ข้าฟังเจ้า”
เขาอุ้มนางแล้วเดินกลับไปที่อ่างน้ำแล้ววางนางลง ปล่อยให้นางโน้มตัวไปจับอ่างน้ำ จากนั้นเขากอดนางจากด้านหลัง อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นและเหมือนจะเป็นโรคติดต่อเพราะแม้แต่อากาศก็เหมือนกำลังเผาไหม้
เขาอ้าปากค้าง “ข้าเคยเห็นพี่ชายคนที่สามแห่งแคว้นต้าจินก็ทำเช่นนี้”
หลีโม่สาบาน หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางจะปิดปากของเขา
หลังจากออกรบมาสองเดือน พลังที่ปะทุและความอดทนที่ยาวนาน เสมือนหมาป่าที่หิวโหย โจรที่พร้อมจะปล้นทุกสิ่ง
ในที่นี่ตัดคำเสริมคำอุทานออก 37,823 คำ!
หลีโม่เช็ดผมให้เขา ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงอยู่ในผ้าห่ม และเริ่มเข้าสู่การสนทนา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...