พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 54

ตอนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย

ฮองเฮาหมุนตัวเข้าไปในตำหนัก ก่อนพูดขึ้นว่า “เจ้าไปซ่อนอยู่ด้านหลังฉากกั้นก่อนเถอะ ให้เปิ่นกงได้เห็นอย่างชัดเจน ความสามารถนี้ของซูหลิงหลง จะมีคนตกใจกันกี่คนเชียว”

ฮองเฮานั่งลง ก่อนจะดื่มน้ำชาไปอึกหนึ่ง ไม่นานหยางมามาก็ได้นำซูหลิงหลงเข้ามา

การคุกเข่าทำความเคารพมาตลอดเส้นทาง ทำให้หน้าผากของนางบวมปูดขึ้นมา และเริ่มช้ำเลือด จนยืนทรงตัวไม่ได้

ฮองเฮาชำเลืองมองไปทางหลิงหลงฮูหยิน หยางมามากระซิบข้างหูของนางเบาๆก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

เฉิงเสี้ยงเสี้ยไปหาหมุยเฟยเหนียงเหนียง เดิมทีหมุยเฟยนั้นไม่ยอม แต่เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้พูดกับนางไว้ประโยคหนึ่ง หมุยเฟยจึงได้ไตร่ตรองสักครู่ แล้วจึงมา

แต่เมื่อมาถึงพระตำหนักจิ่งหนิงหยางมามาที่รักษาการ อยู่หน้าประตูได้พูดขึ้นว่า : “หมุยเฟยเหนียงเหนียง เฉิงเสี้ยงเพคะ เชิญท่านทั้งสองไปดื่มน้ำชา ณ ตำหนักตะวันตกก่อนเพคะ เหนียงเหนียงมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับฮูหยิน

หมุนเฟยนิ่งไป พระตำหนักจิ่งหนิงสถานที่นางมาเป็นประจำ ย่อมรู้ว่าตำหนักตะวันตกสามารถมองเห็นทุกอย่างของตำหนักทั้งหลังได้จากหน้าต่างม่านมุก

ฮองเฮาต้องการจะเล่นอะไรกันแน่?

นางและเฉิงเสี้ยงเสี้ยสบตากัน จากนั้นก็ตามหยางมามาไปยังตำหนักตะวันตก

จวนตะวันตกและตำหนักใหญ่ มีช่องว่างห่างกันแค่หน้าต่างม่านมุก แต่ด้านหลังของหน้าต่างม่านมุกเป็นผ้าม่านผืนใหญ่ที่ปักด้วยดิ้นทอง ดังนั้น ตำหนักใหญ่จึงมองไม่เห็นคนของตำหนักตะวันตก

หยางมามาได้จากไปหลังจากที่พาทั้งสองคนเข้าไปยังด้านหลัง หมุยเฟยจึงได้เปิดม่านออก แล้วมองทะลุม่านมุกออกไป

ทุกอย่างในตำหนัก สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บทสนทนาทั้งหมดต่างก็ดังเข้ามาในหูอย่างชัดเจนเช่นกัน

ฮองเฮามาประคองหลิงหลงเหนียงเหนียงด้วยตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นพลางยิ้มแก้มปริว่า : “ที่เปิ่นกงเชิญเจ้ามาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะข้อร้องเจ้าหนึ่งเรื่อง”

หลิงหลงฮูหยินแสดงออกถึงความไม่เข้าใจต่อฮองเฮา แต่ก็ไม่กล้ามากล่าวโทษ จึงได้พูดขึ้น : “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีอะไรรับสั่ง ทรงกล่าวได้เลยเพคะ”

ฮองเฮากวัดแกว่งมือ เพื่อให้คนนำภาพม้วนแผ่นหนึ่งออกมา แล้วกางออกต่อหน้าของหลิงหลงฮูหยินช้าๆ

หลิงหลงฮูหยินตื่นตกใจ ภาพม้วนนี้ นางรู้จักเป็นอย่างดี นี่คือภาพวาดที่นางให้กับเฉิงเสี้ยงเสี้ย เฉิงเสี้ยงเสี้ยหลงใหลในภาพๆนี้ ทั้งสองคนจึงได้จับมือเดินไปด้วยกันจนถึงตอนนี้

นี่คือภาพวาดทิวทัศน์ภูเขาและน้ำ มันไม่ใช่ภาพสเก็ตช์ แต่ล้วนแล้วเป็นสีทั้งสิ้น โทนสีก็ใช้ได้อย่างงดงาม อีกทั้ง โทนสีเช่นนี้ แม้แต่จิตรกรในวังก็ยังทำออกมาไม่ได้

วัสดุสีนี้ ช่างพิเศษมาก

เฉิงเสี้ยงเสี้ยเองก็นึกถึงเรื่องราวของหลิงหลิงหลงฮูหยินขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพวาดนี้ ความหวาดกลัวที่พุ่งทะยานก่อนหน้านั้นได้ถูกความหอมหวานของเรื่องราวกลบสิ้น บางที่อาจเป็นเพราะภาพนี้ ที่ยังคงรู้ตื่นตระหนกไม่มีที่สิ้นสุด

การวาดอย่างงดงามไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่การลงสีนี้สิเป็นดั่งภูษาฟ้าไร้ตะเข็บเสียจริงๆ ทำให้รู้สึกราวกับว่าได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย ภูเขาเขียวชอุ่ม แม่น้ำใสแจ๋ว นกน้อยกลางปีกโบยบิน ดอกไม้แข่งกันบานแข่งกันร่วงโรย ราวกับเคลื่อนไหวไปมา ภาพนี้ได้ทำให้เขาตื่นตกใจในช่วงพริบตาเดียว

เพียงแต่ว่า ภาพนี้ถูกซ่อนไว้ภายในห้องนี้ ทำไมถึงได้ไปอยู่ในมือของฮองเฮาได้?

เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่รู้ว่า ภาพนี้คือภาพที่เสี้ยโล่เยว่ขโมยออกมาจากคลังไปให้กับไท่จื่อ ไท่จื่อไม่ชอบสมุดภาพ จึงได้ส่งมอบให้กับฮองเฮา ฮองเฮาจึงสั่งให้บัณฑิตชั้นตรีไปทำการวินิจฉัย จึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของหลี่ซื่อ

“เปิ่นกงได้ยินมาว่า ปีนั้นฮูหยินได้นำภาพวาดนี้ไปให้กับเฉิงเสี้ยง” น้ำเสียงของฮองเฮาไม่มีความชื่นชมเลยแม้แต่น้อย "จิตรกรในวัง ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าได้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม