พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 53

สรุปบท ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอน ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา

หลังจากที่เฉิงเสี้ยงเสี้ยและหลิงหลงฮูหยินออกจากตำหนักโส้อานไป หยางมามาก็รีบตามออกไป

“ฮูหยินเพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงเชิญท่านไปดื่มน้ำชา ณ พระตำหนักจิ่งหนิงเพคะ”

พระตำหนักจิ่งหนิงคือตำหนักที่ฮองเฮาประทับอยู่ หลิงหลงฮูหยินย่อมรู้จักเป็นอย่างดี

เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางหยางมามาอย่างเตรียมความพร้อม “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไรอยากพูดด้วยอย่างนั้นหรือ ?”

หยางมามายิ้มพลางพูดขึ้นว่า "ไม่มีอะไรเพคะ แค่อยากคุยไปพลางดื่มน้ำชาไปพลางเพคะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยคิดสักพัก “งั้น เปิ่นเสี้ยงเองก็ไปพร้อมกันเลย"

หยางมามาโค้งตัวคำนับ “ท่านอ๋องกลับไปก่อนเถอะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงและฮูหยินมีเรื่องผู้หญิงต้องคุยกัน ท่านอ๋องอยู่ที่นี่ไม่เหมาะสมนักเพคะ”

หลิงหลงฮูหยินรู้ได้ด้วยตัวเองว่าที่ฮองเฮาเหลือนางทิ้งไว้เพียงคนเดียว จะต้องเป็นเรื่องที่ไม่บริสุทธิ์ใจอย่างแน่นอน

แต่ฮ่องไทเฮาก็ล้วนแล้วแต่ไม่เอาผิด ฮองเฮาจะพูดอะไรได้ละ?

นางดึงชายเสื้อของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลใจว่า : “ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่อยากไปพระตำหนักจิ่งหนิงคนเดียวเลยเพคะ จะเป็นไรไหม ถ้าท่านจะให้หมุนเฟยไปเป็นเพื่อนหม่อมฉันหน่อย"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดขึ้นว่า : “ได้ เจ้าไปกับหยางมามาก่อน ข้าจะไปตามหมุยเฟยเหนียงเนียง”

หยางมามายิ้มออกมา แต่ดวงตากลับแสดงแววตาเคร่งขรึมออกมาแทน “เฉิงเสี้ยง อย่าไปรบกวนหมุยเฟยเหนียงเหนียงเลยเพคะ”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยยิ้มกลับมา “หญิงสาวมักกลัวไปก่อน มีคนไปด้วยมันก็เป็นเรื่องดี”

หยางมามาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “งั้นก็แล้วแต่พระทัยของท่านอ๋องเลยเพคะ เพียงแต่ว่า ญาติสนิทผู้นี้ กลับทำให้หนูปี้อดคิดไม่ได้เพคะ จริงๆแล้วคุณหนูใหญ่เสี้ยกับเฉิงเสี้ยงก็เป็นญาติกันนะคะเพคะ”

วันนี้หลิงหลงฮูหยินก็ได้รับรู้ความจริงมากพอแล้ว ณ ตำหนักโส้อานของไทเฮา อ๋องซื่อเจิ้งเองก็อยู่ในตำหนักโส้อานด้วย จึงส่งผลให้นางสนมกล้าที่จะต่อว่านาง แล้วไหนจะมีหยางมามาที่คอยกระตุ้นอีก บรรยากาศแบบนี้เคยเกิดขึ้นในจวนมาก่อนที่ไหน?

นางมองไปทางหยางมามา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "ถึงฮองไทเฮาจะไม่ถามเรื่องในจวนเฉิงเสียง เจ้าเป็นนางสนมผู้หนึ่ง กล้าดียังไงมาบุ่มบ่ามออกความเห็นเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องของข้า? เจ้าทิ้งหัวสมองไปแล้วรึยังไง?"

หยางมามาไม่โต้กลับพลางยิ้มออกมา "สมองของหนูปี้ยังอยู่เพคะ หากฮูหยินอยากได้ ก็นำไปได้เลยเพคะ"

หลิงหลงฮูหยินบันดาลโทสะขึ้นทันใดพลางพูดขึ้นว่า : "ทำไมเจ้าถึงได้กล้าดูหมิ่นข้าเช่นนี้? ข้าเป็นฮูหยินของเฉิงเสี้ยงนะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางใบหน้าของหลิงหลงฮูหยินที่แสดงออกถึงความโหดร้าย จิตใจคงจะโหดเหี้ยมมากขึ้นไปอีกเป็นแน่ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าตนเองนั้นจะหาแม่นางที่อ่อนโยนได้เลยสักคนเดียว เมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับนาง นางมีความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษมาก วาดภาพก็งดงาม ต่อมาบอกว่าจะไม่จับพู่กันวาดภาพอีก เพราะกลัวหลี่ซื่ออิจฉา เขาจึงได้คิดว่านางเป็นคนใจกว้าง และละทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเขา

ด้วยเหตุนี้ในชีวิตหลังจากนี้ การปฏิบัติตัวของนางจึงล้วนแล้วแต่ทำให้เขาไม่พอใจทั้งสิ้น แต่เมื่อเห็นนางให้กำเนิดบุตรทั้งสองเพื่อเขา จึงได้ปล่อยวางความสนใจในเรื่องภาพวาดของตัวเอง เขารู้สึกว่าต้องเข้าใจและอดทน

แต่วันนี้ฮองไทเฮากลับพูดเปรียบเทียบระหว่างนางกับหลี่ซื่อ หลี่ซื่อชนะนางเป็นร้อยเท่า จนเขาทนไม่ได้ในพริบตาเดียว

บุรุษก็เป็นเช่นนี้ เขาคิดว่ายังไงมันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อคนข้างกาย หรือแม้แต่คนที่มียศสูงกว่าเขาเริ่มพูดขึ้น เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

“ดี เฉิงเสี้ยงฮูหยิน เชิญ!” หยางมามากล่าวขึ้นอย่างประชดประชัน

หลิงหลงฮูหยินกลับพูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า : "ไม่ ข้าไม่ไป หากฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไร ก็รับสั่งให้คนมาแจ้งตรงต่อจวนเฉิงเสี้ยงเถอะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยลากหลิงหลงฮูหยินออกไป แล้วกล่าวตักเตือนด้วยเสียงต่ำๆว่า : "ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าไม่อาจล่วงเกินต่อฮองเฮาได้อีก มิเช่นนั้น โล่เยว่จะต้องเข้าพิธีสมรสกับไท่จื่ออย่างแน่นอน"

หลิงหลงฮูหยินนึกไม่ถึงว่าคำพูดของเฉิงเสี้ยงเสี้ยจะมาถึงขั้นนี้ นางเกิดความรู้สึกตกใจ "งั้นแบบไหนถึงดี?"

หลิงหลงฮูหยินแสดงความโกรธเคืองเดือดดาลออกมา น้ำตาเกือบจะไหลออกมา นางยังไม่เคยได้รับความเสียใจเช่นนี้มาก่อนเลย

ฮองเฮาได้ก้าวเท้าแรกเข้าไปในพระตำหนักจิ่งหนิง เมื่อครั้งที่นางกลับเข้าวังไป ก็ได้เห็นหลิงหลงฮูหยินที่คุกเข่าทำความเคารพจากที่ไกลๆ เข้าไปพอดี

นางยืนอยู่ตรงระเบียง มองไปทางหลิงหลงด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะถามหลีโม่ที่อยู่ด้านข้างว่า “รู้ไหมว่าทำไมเปิ่นกงถึงได้ทำเช่นนี้?”

ดวงตาของหลีโม่ได้ได้มองไปทางนางเช่นเดียวกัน แต่นางเองก็รู้สึกว่าที่ฮองเฮาทำไม่ค่อยมีประโยชน์สักนิด ตอนที่นางทำการรักษาอยู่ในวัง นางเองก็ได้รับความโหดร้ายเมื่อกลับไปยังจวนเฉิงเสี้ยง

“ทราบเพคะ เหนียงเหนียงออกหน้าเพื่อหม่อมฉัน” หลีโม่พูดขึ้น

ฮองเฮากลับส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ นิสัยของนาง ถึงเปิ่นกงออกหน้าเพื่อเจ้าไปก็ไร้ประโยชน์ เปิ่นกงอยากให้พ่อแม่เห็น ว่าแม่ของเจ้า ชนะนางไปไกล"

“หม่อมฉันไม่ค่อยเข้าใจเพคะ” หลีโม่พูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

หางตาของฮองเฮาได้เปล่งประกายความดุร้ายอย่างเย็นชาออกมา “รักษาคน ก็ต้องรักษาใจด้วย”

หลีโม่ยังคงแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ จากนั้นก็มองไปทางฮองเฮาด้วยความสงสัย

ฮองเฮาเอียงข้างไปถามว่า “เจ้ารู้เรื่องพ่อเจ้าและหลิงหลงฮูหยินหรือไม่?”

หลีโม่จึงพูดขึ้นว่า : “ไม่ค่อยเท่าไหร่เพคะ แต่ก็ได้ยินมาว่าเขาชื่นชมความสามารถของหลิงหลงมาก”

ฮองเฮายิ้มอย่างเย็นชาออกมา “ซูหลิงหลงมีความสามารถอะไรให้ชื่นชมกัน? เจ้าอยู่ในจวนมาหลายปี เคยเห็นไหมล่ะ? ในปีนั้นพ่อเจ้าถูกภาพวาดผืนหนึ่งดึงดูดไว้ ภาพวาดผืนนั้น ไม่ใช่ของซูหลิงหลง แต่เป็นของแม่เจ้า"

หลีโม่ส่งเสียงอ่าออกมา เป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจมาก เพราะเรื่องนี้นางไม่เคยรู้มาก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม