พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 53

ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา

หลังจากที่เฉิงเสี้ยงเสี้ยและหลิงหลงฮูหยินออกจากตำหนักโส้อานไป หยางมามาก็รีบตามออกไป

“ฮูหยินเพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงเชิญท่านไปดื่มน้ำชา ณ พระตำหนักจิ่งหนิงเพคะ”

พระตำหนักจิ่งหนิงคือตำหนักที่ฮองเฮาประทับอยู่ หลิงหลงฮูหยินย่อมรู้จักเป็นอย่างดี

เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางหยางมามาอย่างเตรียมความพร้อม “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไรอยากพูดด้วยอย่างนั้นหรือ ?”

หยางมามายิ้มพลางพูดขึ้นว่า "ไม่มีอะไรเพคะ แค่อยากคุยไปพลางดื่มน้ำชาไปพลางเพคะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยคิดสักพัก “งั้น เปิ่นเสี้ยงเองก็ไปพร้อมกันเลย"

หยางมามาโค้งตัวคำนับ “ท่านอ๋องกลับไปก่อนเถอะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงและฮูหยินมีเรื่องผู้หญิงต้องคุยกัน ท่านอ๋องอยู่ที่นี่ไม่เหมาะสมนักเพคะ”

หลิงหลงฮูหยินรู้ได้ด้วยตัวเองว่าที่ฮองเฮาเหลือนางทิ้งไว้เพียงคนเดียว จะต้องเป็นเรื่องที่ไม่บริสุทธิ์ใจอย่างแน่นอน

แต่ฮ่องไทเฮาก็ล้วนแล้วแต่ไม่เอาผิด ฮองเฮาจะพูดอะไรได้ละ?

นางดึงชายเสื้อของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลใจว่า : “ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่อยากไปพระตำหนักจิ่งหนิงคนเดียวเลยเพคะ จะเป็นไรไหม ถ้าท่านจะให้หมุนเฟยไปเป็นเพื่อนหม่อมฉันหน่อย"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดขึ้นว่า : “ได้ เจ้าไปกับหยางมามาก่อน ข้าจะไปตามหมุยเฟยเหนียงเนียง”

หยางมามายิ้มออกมา แต่ดวงตากลับแสดงแววตาเคร่งขรึมออกมาแทน “เฉิงเสี้ยง อย่าไปรบกวนหมุยเฟยเหนียงเหนียงเลยเพคะ”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยยิ้มกลับมา “หญิงสาวมักกลัวไปก่อน มีคนไปด้วยมันก็เป็นเรื่องดี”

หยางมามาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “งั้นก็แล้วแต่พระทัยของท่านอ๋องเลยเพคะ เพียงแต่ว่า ญาติสนิทผู้นี้ กลับทำให้หนูปี้อดคิดไม่ได้เพคะ จริงๆแล้วคุณหนูใหญ่เสี้ยกับเฉิงเสี้ยงก็เป็นญาติกันนะคะเพคะ”

วันนี้หลิงหลงฮูหยินก็ได้รับรู้ความจริงมากพอแล้ว ณ ตำหนักโส้อานของไทเฮา อ๋องซื่อเจิ้งเองก็อยู่ในตำหนักโส้อานด้วย จึงส่งผลให้นางสนมกล้าที่จะต่อว่านาง แล้วไหนจะมีหยางมามาที่คอยกระตุ้นอีก บรรยากาศแบบนี้เคยเกิดขึ้นในจวนมาก่อนที่ไหน?

นางมองไปทางหยางมามา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "ถึงฮองไทเฮาจะไม่ถามเรื่องในจวนเฉิงเสียง เจ้าเป็นนางสนมผู้หนึ่ง กล้าดียังไงมาบุ่มบ่ามออกความเห็นเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องของข้า? เจ้าทิ้งหัวสมองไปแล้วรึยังไง?"

หยางมามาไม่โต้กลับพลางยิ้มออกมา "สมองของหนูปี้ยังอยู่เพคะ หากฮูหยินอยากได้ ก็นำไปได้เลยเพคะ"

หลิงหลงฮูหยินบันดาลโทสะขึ้นทันใดพลางพูดขึ้นว่า : "ทำไมเจ้าถึงได้กล้าดูหมิ่นข้าเช่นนี้? ข้าเป็นฮูหยินของเฉิงเสี้ยงนะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางใบหน้าของหลิงหลงฮูหยินที่แสดงออกถึงความโหดร้าย จิตใจคงจะโหดเหี้ยมมากขึ้นไปอีกเป็นแน่ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าตนเองนั้นจะหาแม่นางที่อ่อนโยนได้เลยสักคนเดียว เมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับนาง นางมีความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษมาก วาดภาพก็งดงาม ต่อมาบอกว่าจะไม่จับพู่กันวาดภาพอีก เพราะกลัวหลี่ซื่ออิจฉา เขาจึงได้คิดว่านางเป็นคนใจกว้าง และละทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเขา

ด้วยเหตุนี้ในชีวิตหลังจากนี้ การปฏิบัติตัวของนางจึงล้วนแล้วแต่ทำให้เขาไม่พอใจทั้งสิ้น แต่เมื่อเห็นนางให้กำเนิดบุตรทั้งสองเพื่อเขา จึงได้ปล่อยวางความสนใจในเรื่องภาพวาดของตัวเอง เขารู้สึกว่าต้องเข้าใจและอดทน

แต่วันนี้ฮองไทเฮากลับพูดเปรียบเทียบระหว่างนางกับหลี่ซื่อ หลี่ซื่อชนะนางเป็นร้อยเท่า จนเขาทนไม่ได้ในพริบตาเดียว

บุรุษก็เป็นเช่นนี้ เขาคิดว่ายังไงมันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อคนข้างกาย หรือแม้แต่คนที่มียศสูงกว่าเขาเริ่มพูดขึ้น เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา

“ดี เฉิงเสี้ยงฮูหยิน เชิญ!” หยางมามากล่าวขึ้นอย่างประชดประชัน

หลิงหลงฮูหยินกลับพูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า : "ไม่ ข้าไม่ไป หากฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไร ก็รับสั่งให้คนมาแจ้งตรงต่อจวนเฉิงเสี้ยงเถอะ"

เฉิงเสี้ยงเสี้ยลากหลิงหลงฮูหยินออกไป แล้วกล่าวตักเตือนด้วยเสียงต่ำๆว่า : "ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าไม่อาจล่วงเกินต่อฮองเฮาได้อีก มิเช่นนั้น โล่เยว่จะต้องเข้าพิธีสมรสกับไท่จื่ออย่างแน่นอน"

หลิงหลงฮูหยินนึกไม่ถึงว่าคำพูดของเฉิงเสี้ยงเสี้ยจะมาถึงขั้นนี้ นางเกิดความรู้สึกตกใจ "งั้นแบบไหนถึงดี?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม