พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 554

บทที่ 554 ไอ้เจ็ดถูกหลอก

ทุกคนเดินทางมาเป่ยม่ออย่างรวดเร็วที่สุด หลีโม่นับถืออ๋องเย่มาก ม้าหลายตัวที่เขาหามานี้ สมกับที่เป็นม้าพันลี้จริงๆ ถึงแม้จะพูดเกินไปหน่อย แต่เดินทางวันละหลายร้อยลี้ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเลย

มาถึงเป่ยม่อภายในสองวัน เพราะไม่ได้เดินทางผ่านด่าน ใช้วิธีเดินทางลัด จึงเร็วกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้

เส้นทางลัดนี้ ซือถูเย้นเป็นคนนำทาง จนหน้าอ๋องเย่เขียวไปเลย เพราะเส้นทางลัดนี้ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลย

เห็นที สภาพภูมิประเทศของทั้งสองประเทศอ๋องซื่อเจิ้งค่อนข้างคุ้นเคยมากมายเขา เป็นศัตรูกับเขา ถือว่าเขาเหนือกว่า เป็นศัตรูอยู่ยงคงกระพัน

เข้าเขตภายในของเป่ยม่อ หลีโม่มองเห็นหุบเขาที่ขาด บ้านเรือนพังทลาย ที่นี่น่าจะเป็นพื้นที่แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุด โชคดีก็คือ ไม่ได้มีการแพร่กระจายส่งผลกระทบไปยังเขตภายในเป่ยม่อ

แต่ตอนที่เดินทางผ่าน ได้ถามประชาชนบางส่วนตอนที่หยุดพักตรงระหว่างชายแดน บอกว่าตอนที่เกิดแผ่นดินไหว ตรงชายแดนก็รู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว รุนแรงมากแต่ไม่มีคนบาดเจ็บล้มตาย

เมื่ออ๋องฉีได้ฟังเช่นนี้แล้ว ได้พูดกับองครักษ์ของเป่ยม่อประโยคหนึ่งว่า “นี่คงเป็นฟ้าสวรรค์ลงโทษเป่ยม่อ”

ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษหรือไม่ ครั้งนี้เพราะเป่ยม่อพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาตัดความทะเยอทะยานของการโจมตี ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือกรรม

เพราะหากการศึกนี้มีการสู้รบขึ้นมา คนที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย ก็จะมีจำนวนไม่น้อยไปกว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

แต่ไม่มีใครอยากเห็นไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน หลีโม่เป็นสายลับของสังคมสงบ แต่ก็เคยเห็นระเบิดของโลกประเทศที่สาม รู้ว่าสงครามโหดร้ายเพียงใด

นางหวังว่า ตัวเองจะสามารถยับยั้งโรคระบาดในครั้งนี้ได้ และสามารถยับยั้งสงครามในครั้งนี้ได้ด้วย

เข้ามาถึงภายในเขตของเป่ยม่อแล้ว พวกเขาก็เดินทางช้าลง สิ่งที่เห็นตลอดทาง ทำให้ทุกข์โศกเศร้าเสียใจอย่างมาก มีศพที่เน่าเปื่อยอยู่ข้างถนน ไม่มีเวลาจัดการเก็บ ยุงและแมลงวันกัดบนศพ อากาศค่อยๆเริ่มร้อน ยุงและแมลงพวกนี้ก็คือพาหะในการเผยแพร่เชื้อโรค

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือเมืองอาวุธที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงเป่ยม่อร้อยกว่าไมล์ ที่นี่กลายเป็นเมืองเมืองอาวุธ เพราะที่นี่เป็นโรงงานผลิตอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของเป่ยม่อ...โรงคลังเหล็ก

โรงคลังเหล็กก่อตั้งโดยพระราชวงศ์ ประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองอาวุธล้วนทำงานอยู่ที่นี่ โรงคลังเหล็กกว้างใหญ่มาก ครอบครองพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเมืองอาวุธ ที่นี่เคยมีชื่อเสียงเจริญรุ่งเรือง แต่ตอนนี้กำแพงเมืองแตกผนังเมืองร้าว อิฐแตกหักพัง ดูอ้างว้างและน่าเศร้าอย่างพูดไม่ออก

ตอนที่พวกเขาเข้าไปในเมืองเมืองอาวุธ ก็ถึงเวลาพลบค่ำพอดี สายัณห์ของดวงอาทิตย์ตกสาดอยู่บนโรงคลังเหล็ก ไม่ปรากฏความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตแล้ว เหล่าขุนนางและทหารที่เข้ามาช่วยเหลือ ขนอิฐออกไปที่ละนิดทีละชิ้น จัดการศพที่อยู่ด้านล่าง

เหตุเกิดแผ่นดินไหว ผ่านมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ไม่มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตแต่แรกแล้ว แต่เพราะมีเหตุโรคระบาดดังนั้นจึงไม่สามารถจัดการในการทำงาน กับสร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

และเพราะกำลังทำศึกอยู่กับต้าโจว ราชสำนักส่งทหารออกไปแล้วมากมาย จึงขาดแคลนคนช่วยเหลือ ไม่สามารถจัดการศพได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้เกิดโรคระบาด

ดังนั้น อ๋องฉีจึงพูดว่า ฟ้าสวรรค์ต้องการลงโทษเป่ยม่อ ที่จริงในการลงโทษเป่ยม่อ เป็นเพราะเป่ยม่อชอบทำการศึก

หากไม่มีการศึกในครั้งนี้ เป่ยม่อก็อาจจะไม่เกิดโรคระบาดรุนแรงขนาดนี้

ประชาชนที่ถูกช่วยเหลือออกมา ตอนนี้ให้พักอาศัยชั่วคราวอยู่ที่ต้าผิงกู่ ด้านนอกเมืองอาวุธ สร้างเป็นเต็นท์ไว้อยู่มากมาย ม้ายังเดินไปไม่ถึง กลิ่นเหม็นฟุ้งเต็มอากาศแล้ว

ในขณะที่มุ่งหน้าไปกับม้า หลีโม่ได้เห็นถึงภาพสถานการณ์ที่ทำให้ใจคนแทบสลาย

ประชาชนที่สูญเสียบ้านเรือนญาติพี่น้อง นั่งอยู่อย่างอ้างว้างโศกเศร้าอยู่ในเต็นท์พักชั่วคราว ดวงตาทั้งคู่ของพวกเขาบวมแดง เหมือนกับไม่สามารถที่จะหยุดร้องไห้ได้ เราขุนนางยกศพออกมาจากภายในอยู่ตลอด มีคนตามออกมาตะโกนร้องไห้

มีคนหนึ่งอุ้มเด็กไว้ วิ่งมาหาพวกเขาอย่างสุดชีวิต นางวิ่งไปด้วยร้องไห้พูดจนแทบใจจะขาดไปด้วยว่า “ลูกของข้ายังยังไม่ตาย นางไม่ได้ติดโรคระบาด พวกเจ้าไม่ต้องพานางไป”

ด้านหลังนาง มีทหารสองคนวิ่งตามมา แย่งชิงเด็กในอ้อมกอดของ เด็กคนนั้นหมดลมหายใจแต่แรกแล้ว ถึงขั้นใบหน้าบวมเน่าไปหมดแล้ว

ทหารแย่งศพไปอย่างไม่พูดอะไร หญิงคนนั้นนั่งลงกับพื้น ร้องไห้อย่างสุดแสนเจ็บปวด

ใครที่ได้เห็นภาพนี้ ต่างก็โศกเศร้าทรมานเป็นที่สุด

หลิ่วหลิ่วเป็นคนที่ใจอ่อนที่สุด นางก็น้ำตาไหลตาม พูดกับหลีโม่อย่างสะอึกสะอื้นว่า “หลีโม่ เราจะต้องรักษาโรคระบาดในครั้งนี้ให้ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม