บทที่ 568 กดดันอ๋องฉี
อ๋องฉีรีบเก็บสีหน้าของตัวเอง “พี่ซือถู พี่เฟิ่งเทียนบอกแผ่นของเจ้ากับข้าแล้ว และก็ลองคิดดูแล้ว เมื่อก่อนข้าก็เคยคิด แต่ว่า ยังไงเจ้าก็เป็นอ๋องซื่อเจิ้งของแคว้นต้าโจว ข้าเลยมีความกังวลอยู่นิดหน่อย แต่ว่า ก็อาจจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด ข้าหลอกตัวเองและคนอื่นมานาน นิสัยก็ไม่เด็ดเดี่ยว เลยถูกคนจูงจมูกเดิน ตอนนี้ฉินโจวจะกลับมาเมืองหลวงแล้ว ข้าคนเดียวทำไม่ได้แน่นอน ถ้าเกิดพี่ซือถูเต็มใจ ข้าจะร่วมมือกับเจ้าอย่างเต็มที่”
ตอนนี้ซือถูเย้นไม่เชื่อใจอ๋องฉี ไม่ได้บอกว่าเขาตั้งใจปิดปัง แต่คนคนนี้มีความมั่นใจที่ไม่แน่นอน เขาเป็นคนที่มีใจ แต่ขาดความกล้าหาญ
องค์รัชทายาทของเป่ยม่อยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้เขารู้แล้ว แต่ตามข่าวที่สายลับรายงาน องค์รัชทายาทของเป่ยม่อได้เดินทางไปที่แคว้นต้าโจวแล้ว ดังนั้น เขารู้ว่าองค์รัชทายาทที่ไปแคว้นต้าโจว นั้นเป็นตัวปลอม
เขาเลยพูดออกมาว่า “อ๋องฉี ข้าถามเจ้า คนที่ไปเป็นตัวประกันที่แคว้นต้าโจว เป็นใคร?”
อ๋องฉีคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามแบบนี้ สายตาผิดปกติไปชั่วครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเบาๆว่า “พี่ซือถูรู้แล้วเหรอ?”
ซือถูเย้นหัวเราะอย่างเย็นชา “องค์รัชทายาทของเป่ยม่อยังอยู่ในเมืองหลวง เจ้าว่าข้าจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?แต่ข้าก็ปิดบังเรื่องนี้ไว้ ตอนนี้คนทั่วแคว้นต้าโจวต่างนึกว่าคนที่ไปแคว้นต้าโจวเป็นองค์รัชทายาทของเป่ยม่อ แต่ว่า ข้าจะบอกเจ้า กระดาษห่อไฟไม่อยู่หรอกนะ เมื่อก่อนฮ่องเต้และฉาวฮองเฮาของเป่ยม่อคิดจะทำอะไร ข้ารู้อยู่แก่ใจดี แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน หลังจากการสู้รบหยุดลง เป่ยม่อก็ต้องดูสีหน้าของแคว้นต้าโจว เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าจะไม่พูดความสัมพันธ์ที่โหดร้ายในนี้ แต่ถ้าอยากให้ฮ่องเต้ของประเทศข้าหยุดสงครามทั้งหมดแล้วเชื่อใจเจ้า และเชื่อใจว่าฮ่องเต้ของเป่ยม่ออยากสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจริงๆ องค์รัชทายาทก็ต้องหายไประยะหนึ่ง ถ้าอ๋องฉีสามารถทำเรื่องนี้ได้ พวกข้าค่อยมาคุยเรื่องที่เหลือ”
สายตาของอ๋องฉีมีความลังเลเล็กน้อย “หายไป?เรื่องนี้ข้าคงพูดโน้มน้าวเขาไม่ได้ และก็ไม่สามารถพูดโน้มน้าวฮ่องเต้และฉาวฮองเฮาได้เช่นกัน”
ซือถูเย้นหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “อ๋องฉีไม่มีวิธีอื่นหรือไง?”
อ๋องฉีคิดอยู่สักครู่ เห็นได้ชัดว่ายากมาก “เรื่องนี่ ยากพอสมควร”
ซือถูเย้นส่ายหัว “เจ้าจะให้ข้าเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร?เรื่องง่ายแค่นี้ เจ้ายังทำไม่ได้ เจ้าไม่เต็มใจไปทำหรือไม่อยากไปทำกันแน่?ในใจเจ้ารู้ดี ว่าในวังมีคนของเจ้าอยู่ ชิงเฟยเหนียงเหนียงก็คือคนของเจ้า ทำไมไม่ใช้นางละ?เจ้าช่วยนางจนได้ตำแหน่งเหนียงเหนียง แค่ต้องการข่าวนั้นเหรอ?”
อ๋องฉีตกใจ แล้วตาทำตาโต “เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน?”
เรื่องนี้ ไม่มีใครรู้เรื่องเลย แม้แต่ฉาวฮองเฮาก็ยังนึกว่าชิงเฟยเป็นคนของนางมาโดยตลอด และใช้โดยนาง
ซือถูเย้นพูดอย่างเบาๆว่า “เป่ยม่อของเจ้ามักใหญ่ใฝ่สูง ก็ไม่ใช่เรื่องสองสามวันแล้ว พวกเจ้าสนใจเรื่องของแคว้นต้าโจวของข้า ข้าก็จะสั่งคนมาสืบเรื่องของเป่ยม่อเช่นกัน”
เรื่องนี้ อ๋องเย่เป็นคนบอกเขา การแทรกซึมของอ๋องเย่นั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเขามีเส้นสายหมด อ๋องเย่เซียงคนนี้ ที่จริงเขาไม่ได้ไร้ประโยชน์เลย
สีหน้าของอ๋องฉีเปลี่ยนไปหลายครั้ง แต่สุดท้าย ก็กัดฟันแล้วพูดว่า “ได้ พี่ซือถูรอข่าวดีของข้า”
ซือถูเย้นเห็นเขาตัดสินใจได้แล้ว ก็พูดว่า “ดี ข้าจะรอข่าวดีของเจ้า แต่ว่า ถ้าเกิดอ๋องฉีไม่มีแผ่น ข้าสามารถแนะนำให้ได้”
อ๋องฉีตกใจ แล้วจ้องมองเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกเขากำลังเดินตามจังหวะของซือถูเย้น ความแข็งแกร่งของอ๋องซื่อเจิ้งคนนี้ เขาได้รับบทเรียนแล้ว
หลังจากที่อ๋องฉีเดินจากไป ซูชิงและเซียวโธ่ก็เดินเข้ามา
ทั้งสองพึ่งช่วยผู้ป่วยเปลี่ยนชุดมา หลังจากที่ไปล้างมือกลับมาก็เห็นอ๋องฉีไปแล้ว
“ท่านอ๋อง เขาเชื่อถือได้หรือ?” ซูชิงมีความไม่พอใจต่ออ๋องฉีเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขารู้สึกว่าพวกเขาถูกหลอกมาที่นี่
“เชื่อถือก็เชื่อถือได้ แต่ว่า หวังว่าเขาครั้งนี้จะมีความมั่นใจหน่อย ถ้าประเทศหนึ่ง ไม่มีเสาที่ตรง ก็จะไม่สามารถพยุงความหวังของชาติได้” ซือถูเย้นกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...