พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 59

สรุปบท ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน – พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บท ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 59 ไปหาอ๋องอานชิน

เมื่อเฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นๆราดใส่หัว จนหนาวสั่นไปทั้งตัวอย่างไรอย่างนั้น

เขากัดฟันกรอด แววตาฉายแววเกลียดชังออกมา เมื่อนึกถึงหลี่ซื่อที่แอบรักกับอ๋องอานชินลับหลังเขา ทำไมความโทสะของเขาถึงยังไม่มอดดับลงสักที

เขากระโดดลงจากรถม้าทันใด ก่อนจะหันไปสั่งคนขับรถม้า “เจ้าไปส่งนางก่อน เปิ่นเสี้ยงยังมีเรื่องต้องทำ”

หลิงหลงฮูหยินเปิดม่านออกมา แล้วตะโกนใส่เขาว่า : “เจ้าจะไปไหน?”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยค่อยๆหายตัวไปท่ามกลางฝูงชน !

หลิงหลงฮูหยินปล่อยมือจะม่าน แล้วลูบแก้มที่เป็นรอยแดงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความเกลียดชังว่า : “เจ้าช่างโง่เสียจริง แม่นางเช่นนี้ จะไปรักเจ้าได้ยังไง?”

เฉิงเสี้ยงเสี้ยพุ่งตรงไปยังจวนอ๋องอานชิน ด้วยความที่ตัดสัมพันธไมตรีกับอ๋องอานชินมาหลายปีแล้ว ทั้งสองคนจึงแทบจะไม่ได้ไปมาหาสู่กันเลย แต่ในตอนที่เสี้ยหลีโม่เข้าพิธีอภิเษกสมรส เขาก็ยังส่งบัตรเชิญไปให้กับอ๋องอานชินด้วย

เขาคือคนที่ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง ทั้งสองคนจึงไม่สามารถเป็นสหายกันได้เหมือนแต่ก่อน ไม่กลายเป็นศัตรูต่อกันก็ดีมากที่สุดแล้ว

หลายปีผ่านไป เขาและหลี่ซื่อก็ได้ตกลงอยู่ในสถานการณ์นี้ หลังจากผ่านพ้นความสุขแรกเริ่มไป เขาก็เคยเกิดความรู้สึกผิดต่ออ๋องอานชิน

แต่ ถึงจะผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่คนๆเดียวที่นางรักอยู่ในใจมาตลอดก็คืออ๋องอานชิน

ช่างขบขัน เขาคือคนที่น่าขบขันผู้นั้น

น้ำเสียงนี้ ทำยังไงเขาก็ไม่มีทางกลืนมันลงไปได้

หลายปีมานี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์อย่างช่ำชอง หากโดยปกติแล้ว เขาไม่สามารถออกไปหาอ๋องอานชินได้ แต่วันนี้เขาได้รับการโจมตีมากพอแล้ว หรือพูดได้ว่าในช่วงเวลานี้ เขาได้รับการยั่วยุแล้ว

ตั้งแต่ตอบตกลงที่จะอภิเษกสมรสกับอ๋องเหลียง เขาก็ได้ตกลงสู่วังน้ำวน เสี้ยหลีโม่ถอนหมั้น ได้ทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของเขาอย่างมาก

แผนการของซือถูเย้นในวันนี้ ทำให้เขาน่าอับอายอย่างมาก เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฮองไทเฮาและฮองเฮาล้วนแล้วแต่ใช้สายตาเยาะเย้ยมองมาทางเขา เพราะเขาเลือกหลิงหลง รักหลิงหลง

แต่เรื่องที่ทำให้เขาไม่สามารถอดทนมันได้ที่สุดก็คือภาพวาดผืนนั้น ซูหลิงหลงได้ส่งมอบให้เขาเป็นของขวัญแทนใจ เดิมทีมันเป็นของอ๋องอานชิน คือสิ่งที่ภรรยาของเขาส่งมอบให้กับอ๋องอานชิน

เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้พลิกผันชีวิตของเขาไป

ในช่วงเวลาที่ออกมาจากวัง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเสี้ยงเสี้ยที่มีเกียรติศักดิ์เหลือคณานับอีกแล้ว

เขาไม่อาจอดทนกับความรู้สึกคับอกคับใจนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขายิ่งไม่อาจทนรับได้หลายปีมานี้ เขาคิดมาโดยตลอดว่าเขาคือคนที่แย่งชิงความรักมาจากอ๋องอานชิน เขาคือผู้ชนะ

แต่สุดท้ายก็พบว่า เขาเป็นคนที่โง่เขลาผู้นั้นมากที่สุด

เขาเดาไม่ผิด ที่หลี่ซ่วยหยุ่นแต่งงานกับเขา ก็เพราะขัดคำสั่งของพ่อแม่ไม่ได้

แท้จริงแล้วนางอยากแต่งงานกับอ๋องอานชินมากกว่า

ทำไมเขาถึงได้โง่ขนาดนี้? ในปีนั้นมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเชื่อว่าหลี่ซื่อเคยรักเขา เมื่อนึกย้อนกลับไปในวันนี้ กลับรู้สึกว่าไม่ว่าใครก็ต่างเลือกอ๋องอานชิน ไม่เลือกเขา

อ๋องอานชินคือคนที่โดดเด่น มีฐานะและมีเกียรติ มีทักษะการสงครามอันเลื่องลือ มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนาง ใครจะไม่เชือกคนที่มีความโดดเด่นเช่นนั้นกันละ?

เมื่อมาถึงจวนอ๋องอานชิน นายประตูที่เห็นเขาเดินมาอย่างน่าเกรงขาม จึงรีบเดินเข้ามา “เฉิ้งเสี้ยงเสด็จแล้วหรือพะยะคะ?”

“ท่านอ๋องอยู่ไหม?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยถามขึ้นพร้อมกับกำหมัดไว้ทั้งสองข้าง

นายประตูจึงพูดว่า : “อยู่พะยะคะ ท่านอ๋องโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะเข้าไปรายงานสักหน่อย”

“ไม่จำเป็นต้องรายงาน!” เฉิงเสี้ยงเสี้ยผลักประตูห้องแล้วเดินบุ่มบ่ามเข้าไปทันที

นายประตูประหลาดใจ จึงได้รีบวิ่งตามเข้าไป

อ๋องอานชินกำลังฝึกซ้อมดาบอยู่ในบริเวณลานบ้านพอดี เมื่อเห็นเฉิงเสี้ยงเสี้ยเสด็จมา เขาก็เก็บดาบ ใบหน้าอันหล่อเหลาดูสุขุมไม่มีทีท่าว่าจะแสดงอาการไม่พอใจออกมาสักนิด “เจ้ามาทำไม?”

“ออกไป!”อ๋องอานชินเก็บดาบขึ้นมา แล้วเดินไปโดยไม่หันกลับไป

มือข้างหนึ่งกำหมัดไว้ สีหน้าที่ดูเหนื่อยหน่ายได้ปรากฏกลิ่นอายแห่งการสังหารออกมา

องครักษ์2-3คนได้เดินเข้ามา จากนั้นก็จับเฉิงเสี้ยงเสี้ยให้ยกขึ้นแล้วโยนออกไป

หนึ่งในองครักษ์ได้พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า : “เฉิงเสี้ยงเสี้ย จะกำเริบเสิบสานก็ดูสถานที่ด้วย ถึงแม้ว่าท่านอ๋องของเราไม่เคยข้องเกี่ยวกับราชสำนัก แต่ก็ใช้ว่าจะมีใครจะมาเข้ามากล่าวโทษเช่นนี้ได้นะพะยะคะ”

เมื่อพูดจบ ก็หมุนตัวเดินเข้าไป ก่อนจะปิดประตูลง

เฉิงเสี้ยงเสี้ยถูกดูถูกเหยียดหยามถึงขีดสุด ตรงกันข้ามกลับใจเย็นลง

ภายในจิตใจมีเพียงความคิดเดียว นั้นคือความอัปยศทั้งหมดในวันนี้ เขาต้องกลับไป

อันดับแรก เขาไม่ทางปล่อยหลี่ซื่อและเสี้ยหลีโม่ไปได้

แต่ ก่อนจัดการหลี่ซื่อและเสี้ยหลีโม่ ยังมีอีกหนึ่งคน ที่ต้องอธิบายให้เขาฟัง

จวนเฉิงสี้ยง!

เฉิงเสี้ยงเสี้ยนั่งอยู่ต่อหน้าของหลิงหลงฮูหยินด้วยใบหน้าเคร่งขรึม หลิงหลงฮูหยินเพิ่งจะเสวยโอสถไป ท่าทางดูเหมือนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

“เจ้ายังมีเรื่องอะไรปิดบังข้าอยู่อีกไหม?” เฉิงเสี้ยงเสี้ยจ้องเขม็งไปทางหลิงหลงฮูหยินด้วยสายตาเคร่งขรึม พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุกข์ใจ

หลิงหลงฮูหยินกลัวท่าทางเช่นนี้ของเขามาก ตั้งแต่แต่งงานเข้ามาในจวนเฉิงเสี้ยงหลายปี เขารักถนอมนางมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยประจบประแจงเอาใจเพื่อขอความรักเลยแต่อย่างใด นางคิดไม่ถึงว่าเพียงวันเดียว เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกคนขนาดนี้

“ไม่มีแล้วเพคะ ไม่มีแล้วจริงๆเพคะ” หลิงหลงฮูหยินอธิบายพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ออกมา “ทำไมข้าถึงต้องทำเช่นนี้ ท่านเคยคิดบ้างไหม? หากไม่ใช่เพราะว่ารักท่าน ข้าจะทำเช่นนี้ทำไม? คนเข้ามาตามจีบข้า ไม่ขาดแคลนแม้แต่ขุนนางในวัง ข้าปฏิเสธทุกคน เพื่อท่านคนเดียว วันนั้นท่านยังไม่เป็นเฉิงเสี้ยง แต่ข้ากลับทุ่มเทความรัก ความรักนี้ ถึงตอนนี้ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือเพคะ? ใช่ ไม่ผิด จริงๆแล้วท่านไม่ได้มีความปราดเปรื่องอะไรนัก แต่ข้าก็รักท่านสุดหัวใจ”

อัพเดทครั้งต่อไป 29/12/2019

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม