บทที่ 598 รักษาโรค
ฉินโจวเม้นริมฝีปาก “เจ้าบอกว่าฮ่องเต้ไม่ดีกับพวกเขา ตอนนี้ก็ได้มีราชโองการจัดการที่อยู่ให้แล้วไม่ใช่หรือ? เจ้าอยากที่จะปลุกเร้าความโกรธของประชาชนไม่สำเร็จ จึงคิดที่จะมายุแยงข้า? เสี้ยหลีโม่ เจ้าจะดูหมิ่นข้าเกินไปแล้วนะ”
หลีโม่หัวเราะ หัวเราะอย่างโกรธแล้วเยือกเย็น “ข้าไม่ได้ดูหมิ่นเจ้า ข้ามองเจ้าสูงไปต่างหาก เดิมทีคิดว่าเจ้าเป็นถึงแม่ทัพของเป่ยม่อ อย่างน้อยก็น่าจะมีสติหน่อย ฮ่องเต้ของพวกเจ้า จะดูแลประชาชนดีๆจริงหรือ? จัดการที่อยู่ให้พวกเขาจริงๆหรือ?”
“เจ้ายังอยากพูดอะไรอีก?” แววตาฉินโจวนิ่งงัน เพ่งมองดูหลีโม่
ที่จริงในใจนางก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี เพราะนางได้ยินมาว่าฮ่องเต้มีราชโองการสั่งให้ฉาวจี๋ไปจัดการที่อยู่ให้กับผู้ประสบภัย และทั้งหมดถูกพาไปในเมืองอาน ที่จริงนี่ก็ไม่สมเหตุสมผลนะ เพราะเมืองอานกลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว ต่อให้สามารถอดทนอยู่ได้ ก็ไม่สามารถอยู่ได้มากมายขนาดนั้น อีกอย่างฮ่องเต้บอกว่าจะส่งเสบียงอาหารและยาเข้าไปให้ ตอนนี้เสบียงอาหารอยู่ที่ไหน ล้วนอยู่ระหว่างถูกส่งไปรวบรวมไว้ที่ชายแดนแล้ว
ดังนั้น นางได้ยินคนเฝ้าประตูบอกว่าเสี้ยหลีโม่มา ในใจก็รู้สึกไม่ดี หากไม่มีความคิดแบบนี้ นางจะไม่ออกมาหาเสี้ยหลีโม่เด็ดขาด
ตอนนี้เมื่อฟังคำพูดของเสี้ยหลีโม่แล้ว ความไม่สบายใจภายในใจยิ่งเพิ่มทวีขึ้นมา
หลีโม่เดินข้างหน้าหนึ่งก้าว กำลังจะพูดอะไร ก็เห็นคนในจวนรีบเดินออกมา พูดกระซิบข้างหูฉินโจว สีหน้าฉินโจวเปลี่ยนไป “หมอหลวงว่าอย่างไรบ้าง?”
บ่าวใช้พูดว่า “หมอหลวงแนะนำให้แยกกักตัว อาการไม่ดี”
หลีโม่หูดี ได้ยินคำว่ากักตัวสองคำ ในใจทายคิด หรือว่า คนของบ้านสามตระกูลฉินมา?
นางรู้ว่าคนในบ้านสามตระกูลฉินมีคนติดเชื้อ หรือว่าหลังข่าวลือเลื่องลือออกไปแล้ว คนในบ้านสามของตระกูลฉินล้วนมาเมืองหลวง?
หากผู้ป่วยเข้าสู่เมืองหลวง งั้นก็อันตรายแล้ว
ฉินโจวรีบเงยหัวมองดูหลีโม่ “ได้ ข้าให้โอกาสเจ้าหนึ่งครั้ง ให้เจ้าได้คุยกับข้า แต่มีข้อหนึ่งอย่าง”
หลีโม่รู้ว่าเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสนี้
ภายในใจเก็บกดมาก นี่เป็นเรื่องของเป่ยม่อ นางเป็นคนของต้าโจวยังต้องมาร้องขอคนเป่ยม่อ
อดทน นางเป็นหมอ
นางหมอจะไม่แบ่งสถานะความจำกัดระหว่างประเทศ
หลีโม่ตามนางเข้าไป จวนเรือนขนาดใหญ่ที่มีความโอ่อ่าหรูหรา หลีโม่ล้วนไม่มีกระจิตกระใจชื่นชม เดินตามระเบียงไปยังเรือนด้านหลัง ไปถึงเรือนแห่งหนึ่ง เป็นเรือนสองชั้น บัวกำแพงหงายขึ้น หลังคากระเบื้องเคลือบเงาแสงแดดสะท้อนเป็นประกายแวววาว
ฉินโจวไปถึงแล้วก็หยุดฝีเท้าหันมามองดูเสี้ยหลีโม่ แล้วพูดว่า “ท่านปู่ของข้าป่วย เจ้าไปช่วยรักษาให้เขา หากเจ้ามีหนทางรักษาเขา ค่อยมาพูดถึงจุดประสงค์ที่เจ้ามาในวันนี้”
ในใจหลีโม่เยือกเฉียบ ท่านปู่ของนาง ก็คือแม่ทัพฉินผู้นำคนสำคัญของพวกยึดมั่นทำสงครามไม่ใช่หรือ? ติดเชื้อ? เมื่อกี้บ่าวคนนั้นพูดว่าต้องแยกกักตัว
ไม่ใช่...
หากใช่ งั้นก็น้ำเน่าเกินไปแล้ว หรือว่าเวรกรรมตามทัน
นางไม่พูดอะไร ก้าวข้ามธรณีประตูไป ก็เห็นขุนนางชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวเดินออกมาจากด้านใน หลีโม่มองดูการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นหมอหลวงของเป่ยม่อ
หมอหลวงทำความเคารพฉินโจวก่อน แล้วมองดูหลีโม่
“หมอหลวง ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉินโจวถาม
“อาการไม่ค่อยดี วันนี้ไข้สูงตลอด ไอ มีเสมหะ ปวดหัว ปวดหน้าอก ดื่มยาแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย” หมอหลวงพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...