บทที่ 599 กระบี่เตาปา
แต่แม่ทัพฉินโกรธจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด เขาทุบไปที่เตียง พูดด้วยอารมณ์โกรธว่า “ทหาร ช่วยข้าขับไล่ผู้หญิงเลวทรามต่ำช้าคนนี้ออกไปซะ”
ทันใดนั้นก็มีผู้คนเข้ามาหลายคน ฉินโจวลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยังคงเลือกที่จะถอยกลับไป ถือว่ายอมรับ
หลีโม่ยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ไม่จำเป็น ข้าไปเอง”
พูดจบ หยิบเข็มขึ้นมาแล้วโยนลงกับพื้น แต่ก็เสียดายเข็มเล่มนี้ของนาง
แต่ว่า แม่ทัพฉินจะปล่อยนางไปคนเดียวที่ไหน? รีบโบกมือ เรียกทหารลงมือ
หลีโม่ใบหน้าเย็นแข็ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น มือนางลูบไปที่สายเชือกเตาปาเบาๆ องครักษ์เข้าประชิดตัว นางไม่ได้ถอยหลัง แต่กลับเดินหน้าหนึ่งก้าว
ฉินโจวจ้องมองนาง เห็นเพียงนางยิ้มเยาะเย้ย เวลาชั่วขณะที่องครักษ์ลงมือ สายเชือกเตาปาในมือก็ได้สะบัดออกไปอย่างรวดเร็ว จังหวะมุมได้สะบัดเองไปยังองครักษ์เป็นเส้นโค้งสง่างามกลางอากาศ
จริงแล้วฉินโจวอยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับเชือกที่ภายนอกน่าเกลียดเส้นนี้ มาเห็นกับตาในวันนี้สายเชือกเตาปาสะบัดออกไปด้วยตัวเองจริงๆ ยิ่งรู้สึกตกใจมากขึ้น
สายเชือกเตาปาวนเวียนท่ามกลางองครักษ์หลายคน เหมือนมังกรที่กำลังแหวกว่าย มีความคล่องตัวมาก แม้แต่องครักษ์ก็เข้าใกล้ตัวเสี้ยหลีโม่ไม่ได้เลย ถูกสายเชือกล้อมรอบอยู่ตลอดทุกด้าน
ฉินโจวอารมณ์ขึ้น ชักกระบี่วิเศษชี้มาทางหลีโม่ คารมกระบี่วิเศษดุดัน
หลีโม่ไม่หลบไม่หลีก เพียงแค่ยิ้มอย่างดุร้าย เมื่อฉินโจวเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของนาง ก็รู้ว่าฝ่ายตัวเองจะเสียเปรียบแล้ว
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ สายเชือกเตาปานั้นจริงแล้ววนรอบพวกองครักษ์อยู่ แต่เพียงชั่วขณะเดียวก็มารัดบนกระบี่วิเศษของนาง รัดขึ้นมาจนถึงข้อมือ
แต่นางกลับสงบนิ่งลง เพราะว่า กระบี่วิเศษของนางนั้น หลอมมาจากเหล็กกล้าในเขตซีอู่ เฉียบคมมากไร้ที่เปรียบ ฟันเหล็กดั่งตัดดินโคลน อย่าไปพูดถึงเพียงแค่เชือกเส้นหนึ่ง แม้จะเป็นเชือกเหล็กก็ตาม จะเรียกให้มันขาดก็จะต้องขาดในทันที
นางสะบัดข้อมือ ด้วยอารมณ์ที่ตั้งอกตั้งใจ จากกำลังภายในสู่ปลายกระบี่วิเศษ จากนั้นก็หัวเราะอย่างเสียงดัง คอยดูสายเชือกเตาปานั้นขาดหลุดเป็นท่อนๆ
ได้ยินเพียง “ติงติงติง” เสียงเหล็กกระทบดัง สายเชือกสะบัดลอยขึ้น ม้วนกลับมาถึงแขนของหลีโม่ แต่ว่าปลายเชือกกระดกขึ้นมา ราวกับหัวงูที่องอาจห้าวหาญ สายตาที่ดุร้ายจ้องมองไปที่องครักษ์ทั้งหลายและฉินโจว
ฉินโจวจ้องมองกระบี่วิเศษของตัวเอง ด้วยความเสียใจอย่างมาก
กระบี่วิเศษอันเฉียบคมที่แวววาวด้วยแสงสะท้อนนั้น กลับกลายเป็นหวีอันหนึ่ง รูปร่างยังดูสวยงาม ซี่หวีเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย ราวกับว่าเจตนาทำเป็นงานฝีมือขึ้นมา
บนพื้นดิน มีเศษเหล็กหลายชิ้น ยังมีแสงสะท้อนอ่อนๆขึ้นมา
ผู้คนตกอกตกใจกันหมด กระบี่วิเศษเล่มนี้ที่มาไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อครั้งที่ไท่จู่แคว้นเป่ยม่อสร้างแคว้นเป่ยม่อ ได้เดินทางผ่านเขตซีอู่ ช่างเหล็กเขตซีอู่ได้ถวายให้ ก็ได้ใช้กระบี่วิเศษเล่มนี้รบราฆ่าฟันกับกองทหารต้าตานในเวลานั้น แล้วได้ชิงแผ่นดินมาครอบครอง
ในรัชสมัยของฮ่องเต้คัง กระบี่วิเศษเล่มนี้ได้ถูกพระราชทานให้กับแม่ทัพฉิน แล้วแม่ทัพฉินได้มอบให้กับฉินโจว
แต่ว่า บัดนี้ได้กลายเป็นหวี่เหล็กเล่มหนึ่งไปแล้ว
ในใจของฉินโจว เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ นางรักกระบี่วิเศษเล่มนี้มาก คนอื่นเขาหญิงงามรักการแต่งหน้าสีแดง วีรบุรุษรักกระบี่วิเศษ นางไม่ใช่หญิงงาม นางรักเพียงกระบี่วิเศษเท่านั้น
หลีโม่หยิบเศษเหล็กที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา ยื่นให้กับฉินโจว ทำสีหน้าไร้เดียงสาแล้วพูดว่า “คืนให้เจ้า เอาออกไปให้ช่างเหล็กหลอมแล้วตีใหม่ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะคืนสภาพเดิมไม่ได้แล้ว แต่ว่า ข้ามีสายเชือกเตาปา เจ้ามีกระบี่เตาปา ก็ดูไม่เลวนะ”
ฉินโจวจ้องมองนาง ด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ “เจ้า......”
“ข้าไปแล้วนะ” หลีโม่จิตใจแน่วแน่มาก ดูออกว่าฉินโจวลงมือทอสอบ นางกลับสงบนิ่งลง อย่างน้อยนางก็ไม่ได้แยแสเลยสักนิด
หลีโม่ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความโกรธกริ้วของฉินโจวและแม่ทัพฉิน
ฉินโจวเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วรีบวิ่งออกไป หยุดหลีโม่ไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...