บทที่ 625 ประกาศกฎอัยการศึกในเมืองหลวง
ท่านอ๋องผู้มีสีหน้าเย็นชา สามารถพูดเรื่องอย่างนี้ออกมาได้ นับว่าหลีโม่ทำให้เขาตกใจมากจริงๆ
เพราะเขารู้ว่า ที่นี่ไม่ใช่แคว้นต้าโจว ที่นี่คือแคว้นเป่ยม่อ ไม่ว่าจะเป็นฉินโจวหรืออ๋องฉี ก็ไม่อาจเชื่อใจได้เต็มที่
เมื่อเห็นหลีโม่ยอมรับผิดด้วยใจจริง ซือถูเย้นจึงพยายามลดอารมณ์โกรธลง เอ่ยถึงเรื่องโหรวเหยา ซือถูเย้นเอ่ยขึ้น “เจ้าก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนัก กาวเฟิ่งเทียนใช้คนเสาะหาไปทั่วทุกทิศแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้ข่าวคราวอะไรมาบ้าง”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” เมื่อหลีโม่คิดถึงโหรวเหยา ก็มักจะเป็นห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่ง
นางหวังด้วยใจจริงว่าโหรวเหยาจะพบเจอกับความสุข นางเป็นหญิงจิตใจดี กล้ารัก กล้าเกลียด พยายามใช้ชีวิตของตัวเองอย่างที่สุด
หากดูจากฐานะทางครอบครัวแล้ว นางนับว่ามีศักดิ์ศรีมากจนสามารถหยิ่งผยองได้ แต่นางกลับไม่เป็นเช่นนั้น ครอบครัวนางอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดี หากรักใครสักคนแล้ว แต่เข้าไม่รับรัก ก็จะไม่ดึงรั้งเอาไว้ นางมีความเคารพในตัวเอง
นางรู้ว่าโหรวเหยาเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าว่าชายคนนั้นไม่ใช่คนที่นางรัก เพียงแต่ทำไมในตอนนั้นต้องตกลงใจด้วย?
“โหรวเหยาเคยแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้ง ในตอนนั้นเพราะอะไรนางจึงตกลง?” หลีโม่ถามขึ้น
ซือถูเย้นสั่นศีรษะ “ไม่รู้เหมือนกัน”
กับเรื่องเหล่านี้ เข้าไม่เคยถาม และไม่สนใจ
“ไม่รู้สักนิดเลยหรือ?”
ซือถูเย้นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เหมือนเคยได้ยินจื่นเฉิงพูดมาก่อน ไอ้แปดอาลัยอาวรณ์อยากครอบครองนางให้ได้ และยัง...ให้กุ้ยไท่เฟยไปสู้ขออีก เจ้าก็รู้ฝีมือของกุ้ยไท่เฟยดี อะไรที่บุตรรักนางชอบ ก็จะแย่งมันมาให้เขาให้ได้ โหรวเหยาเป็นคนนิสัยดื้นรั้น นางไม่ยอมแต่งกับไอ้แปด จึงหาตระกูลใดเพื่อจะแต่งเข้าไป ตระกูลนั้นนับว่าเป็นตระกูลสูงศักดิ์ เพียงแต่ ร่างกายอ่อนแอโรครุมเร้า มีชีวิตไม่ยืนนาน โหรวเหยาแต่งเข้าไปเพียงไม่นาน คู่ครองนางก็เสียชีวิต”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!” หลีโม่ทอดถอนใจไม่หยุด สตรีที่มุ่งมั่งเข้มแข็งอย่างนี้ ทำไมถึงไม่ได้รับความสุขของตัวเองเสียที?หากครั้งนี้นางตายไปแล้ว จะไม่ให้คนอื่นเศร้าเสียใจแทนได้อย่างไร
สองสามีภรรยาพูดคุยเล่าเรื่องราวของตนให้กันฟัง ผ่านการแยกจากกันและการบาดเจ็บในครั้งนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับเพิ่มขึ้นไม่ลดลง อาจจะเป็นเพราะว่า ท่ามกลางเหตุการณ์โรคระบาดและการเข่นฆ่าในแคว้นเป่ยม่อนี้ พวกเขาต่างมองเห็นเรื่องบางอย่างทะลุปรุโปร่ง และยิ่งรับรู้ได้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่ และดูแลเห็นคุณค่าของคนที่อยู่รอบตัว
หลังจากนั้นสองวัน ฉินโจวก็ยังคงคงกองทัพไว้ไม่เคลื่อนไหว
ข่าวในเมือง มีให้ได้ยินเป็นระยะ
ทั้งเมืองประกาศกฎอัยการศึก ประกาศห้ามออกจากบ้านในตอนดึก หน่วยลาดตระเวนต่างถูกคนของอ๋องเจิ้นโก๋กำจัดหมดสิ้น สี่ประตูในเก้าถูกควบคุมโดยอ๋องเจิ้นโก๋ ราษฎรทั้งหลายต่างหวาดกลัวไม่กล้าออกจากบ้าน ทุกค่ำคืนต่างได้ยินเสียงดาบ มีด ปืน รบราฆ่าฟันกันน่าขนลุก เมื่อถึงเช้าหากมีความกล้าเปิดประตูออกมาก็จะเห็นฝ่ายที่ได้ชัยชนะ กำลังล้างถนนทำความสะอาดคราบเลือด
ยังไม่มีข่าวใดจากพระราชวัง แต่เพียงยังไม่ได้ถึงหูของหลีโม่ ฉินโจวและท่านอ๋องฉู่โยว่ต่างปรึกษาหารือกันทุกวัน
ซือถูเย้นนับว่านำข่าวมาบอกแก่หลีโม่บ้าง ภายในวังหลวงทหารของทั้งสองฝ่ายกำลังตั้งประจันหน้ากัน ฮ่องเต้ราวกับถูกกักบริเวณ อ๋องเจิ้นโก๋ก็ไม่รีบลงมือนัก ความว่าต้องการบีบบังคับให้ฮ่องเต้ยกตำแหน่งให้
ฮ่องเต้ไม่มีวิธีทางอื่นแล้วหรือ?ไม่ ฮ่องเต้กำลังรอให้แม่ทัพฉินเข้าวังช่วยเหลือ
ทว่า ฮ่องเต้กลับไม่รู้ แม่ทัพฉินแม้มีใจอยากปกป้อง แต่กลับไม่มีกำลังพอจะทำได้ อำนาจในจวนถูกควบคุมโดยเหลาไท่ไท่ เพียงเหลาไท่ไท่ออกคำสั่ง แม่ทัพฉินก็ไม่อาจก้าวออกจากประตูได้แม้แต่ก้าวเดียว
ได้ยินว่าแม่ทัพฉินพยายามขัดขืนอยู่ช่วงหนึ่ง ทว่าอำนาจของเหลาไท่ไท่มีมากถึงเพียงไหน?เพียงพูดไม่เข้าหูก็ทำร้ายเขาจนขาหักทั้งสองข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...